รู้จัก คริส ฮิปกินส์ นักการเมืองสายดุ ผู้รับตำแหน่งนายกฯคนใหม่นิวซีแลนด์

วันที่ 23 มกราคม 2566 - 16:05 น.

คริส ฮิปกินส์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ — AFP/ Marty MELVILLE

ประวัติคริส ฮิปกินส์ (Chris Hipkins) นักการเมืองสายดุวัย 44 ปี และรัฐมนตรีหลายกระทรวง ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของนิวซีแลนด์ ต่อจากจาซินดา อาร์เดิร์น ที่ประกาศวางมือ

เริ่มเดือนแรกของปี 2023 จาซินดา อาร์เดิร์น (Jacinda Ardern) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ประกาศลงจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลหลายประกาศ ซึ่งสรุปใจความได้ว่า เธอรู้ตัวว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้แล้ว

พรรคแรงงาน (Labour Party) ของนิวซีแลนด์ได้เลือก คริส ฮิปกินส์ (Chris Hipkins) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรวัย 44 ปี ที่เคยมีประสบการณ์เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวงขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งหมายความว่าเขาคือผู้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของนิวซีแลนด์ ซึ่งมีกำหนดเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันพุธที่ 25 มกราคม 2023 นี้

“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนทำความรู้จัก คริส ฮิปกินส์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของนิวซีแลนด์ให้มากขึ้น

ชีวิตส่วนตัว

คริส ฮิปกินส์ มีชื่อเต็ม ๆ ว่า คริสโตเฟอร์ จอห์น ฮิปกินส์ (Christopher John Hipkins) เกิดวันที่ 5 กันยายน 1978 ที่ Hutt Valley ในภูมิภาคเวลลิงตัน (Wellington) แม่ของเขาเป็นผู้ช่วยนักวิจัยที่ New Zealand Council for Educational Research (NZCER)

คริสเคยกล่าวว่า พ่อกับแม่ของเขาไม่ใช่คนมีฐานะ ทั้งคู่ต้องทำงานหนักมาก เพื่อจะให้เขากับพี่ชายได้มีชีวิตที่ดี

เขาชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยมีกิจกรรมที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ คือ ปั่นจักรยานเสือภูเขา เดิน และว่ายน้ำ

ฮิปกินส์ใช้ชีวิตคู่กับ เจด (Jade) ก่อนจะแต่งงานกันอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2020 พวกเขามีทายาทด้วยกัน 2 คน เป็นลูกชายอายุ 6 ขวบ และลูกสาวอายุ 4 ขวบ

แต่ล่าสุด เมื่อแน่ชัดว่าจะต้องขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คริส ฮิปกินส์ แจ้งสถานะสมรสของเขาว่า เขาแยกทางกับอดีตภรรยาแล้วเมื่อปี 2022 ซึ่งนั่นทำให้เขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีชายโสดคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของนิวซีแลนด์

เขาบอกว่า เขากับอดีตภรรยายังคงเป็นเพื่อนที่สนิทกัน และจะช่วยกันเลี้ยงลูก

นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของนิวซีแลนด์ตั้งใจจะรักษาความเป็นส่วนตัวของลูก ๆ เขาบอกว่าจะไม่แชร์ภาพลูก ๆ ผ่านโซเชียลมีเดียเด็ดขาด และเรียกร้องให้สื่อมวลชนและชาวนิวซีแลนด์เคารพความเป็นส่วนตัวของลูก ๆ ของเขาด้วย

“ในฐานะสมาชิกรัฐสภาและบุคคลสาธารณะ ผมได้ทำงานอย่างหนักในช่วงเวลาที่ทำงานการเมือง เพื่อไม่ให้ครอบครัวของผมตกเป็นเป้าสายตาของสาธารณะ”

“ผมอยากให้พวกเขาสามารถทำผิดพลาดได้ ผมอยากให้พวกเขาสามารถเรียนรู้และเติบโตขึ้น โดยที่ไม่ถูกคน 5 ล้านคนจ้องจับผิด ดังนั้น ผมจึงตั้งใจที่จะกันพวกเขาออกจากการเป็นจุดสนใจของสาธารณะ” นายกฯคนใหม่แดนจิงโจ้กล่าว

ประวัติการศึกษา

คริส ฮิปกินส์ เริ่มเรียนชั้นประถมศึกษาที่ Waterloo Primary School

จากนั้นศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ Hutt Intermediate School

แล้วศึกษาระดับไฮสกูลที่ Hutt Valley Memorial College หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Petone College ซึ่งระหว่างศึกษาที่นี่เขาได้เป็นประธานนักเรียนในปี 1996

ฮิปกินส์จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต เอกการเมืองและอาชญาวิทยา จากมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย (Victoria University) ซึ่งระหว่างการศึกษาที่นี่เขาเป็นประธานนักศึกษาในปี 2000 และ 2001

ประวัติการทำงานก่อนเข้าสู่การเมือง

ฮิปกินส์เริ่มมีส่วนร่วมทางการเมืองตั้งแต่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยวิกตอเรีย เขาถูกจับกุมในข้อหาประท้วงต่อต้านนโยบายด้านการศึกษาในปี 1997 เขาและผู้ร่วมประท้วงที่ถูกจับกุมใช้เวลา 12 ปีต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม จนในที่สุดศาลก็ตัดสินว่าผู้ชุมนุมไม่ผิด พวกเขาได้รับคำขอโทษ และได้รับเงินชดเชย

หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คริสทำงานด้านการฝึกอบรมในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงการเป็น “ที่ปรึกษา” ให้กับสมาพันธ์การฝึกอบรมอุตสาหกรรมแห่งนิวซีแลนด์ (Industry Training Federation of New Zealand) และเป็น “ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรม” ให้กับบริษัท Todd Energy ผู้นำในธุรกิจก๊าซธรรมชาติของนิวซีแลนด์

ประวัติการทำงานการเมืองช่วงเริ่มต้น

ก่อนจะเข้าสู่งานการเมืองอย่างเต็มตัว เขามีประสบการณ์การทำงานในรัฐสภา โดยเป็น “ที่ปรึกษาอาวุโส” ให้กับ เทรเวอร์ มัลลาร์ด (Trevor Maallard) ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และต่อมาเป็น “ที่ปรึกษาอาวุโส” ในสำนักงานนายกรัฐมนตรี เฮเลน คลาร์ก (Helen Clark)

คริสเข้าเป็นสมาชิกรัฐสภานิวซีแลนด์จากการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2008 ซึ่งเขา-ผู้สมัครของพรรคแรงงานได้รับเลือกเป็นผู้แทนของเขตรีมูทากา (Remutaka) จากนั้นก็ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนเรื่อยมาอีกทุกสมัย

ช่วง 9 ปีแรกของการเป็นผู้แทนประชาชนในรัฐสภา พรรคแแรงงานของเขาเป็นพรรคฝ่ายค้าน ในสมัยแรกคริสได้ทำหน้าที่เป็นโฆษกของพรรคแรงงานในด้านกิจการภายใน และเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการรัฐสภาด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การปกครองส่วนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน

ต่อมา ในต้นปี 2013 เขาได้เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการด้านการศึกษา ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ที่ตรงกับความสนใจของเขาเป็นอย่างมาก

ประวัติการทำงานการเมืองที่สำคัญ

เมื่อมีประสบการณ์หลายปี และได้รับเลือกตั้งหลายสมัย ฮิปกินส์ก้าวขึ้นมาเป็นคนสำคัญของพรรคแรงงาน

ปี 2017 เขาได้เป็นรัฐมนตรีอันดับที่ 6 ของพรรคแรงงานที่ได้รับมอบหมายให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

หลังจากการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเดวิด คลาร์ก (David Clark) ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2020 นายกรัฐมนตรีอาเดิร์นได้แต่งตั้งให้ฮิปกินส์เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขชั่วคราวพ่วงอีกตำแหน่ง โดยให้ดำรงตำแหน่งจนถึงการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนตุลาคม 2020

ในช่วงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุข ผลงานของฮิปกินส์เข้าตาประชาชน ทำให้ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2020 เขาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ได้คะแนนเกือบสูงสุด เป็นรองเพียงจาซินดา อาร์เดิร์น เท่านั้น

หลังการเลือกตั้งปี 2020 กับการเป็นรัฐบาลต่อเนื่องอีกสมัยของพรรคแรงงาน คริส ฮิปกินส์ ยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการต่อ ในเวลาเดียวกันนั้น เขายังได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีรับมือโควิด-19 และรัฐมนตรีกระทรวงบริการสาธารณะด้วย และต่อมา เขาได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงตำรวจอีกตำแหน่ง

ด้วยประสบการณ์การทำงานในหลายกระทรวง โดยเฉพาะการทำงานรับมือโควิด-19 ซึ่งทำให้เขาเป็นคนที่ประชาชนคุ้นหน้าคุ้นตา คริส ฮิปกินส์จึงได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคแรงงานคนใหม่ลุยศึกเลือกตั้งสมัยหน้าที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 14 ตุลาคม 2023 นี้

นายกฯคนใหม่ในสไตล์ดุดัน

คริส ฮิปกินส์ นักการเมืองที่เคยเป็นนักกิจกรรม สนใจเรื่องความยุติธรรม-ความเสมอภาคเท่าเทียมทางสังคมเป็นอย่างมาก และเขาเชื่อว่าชาวนิวซีแลนด์ทุกคนควรมีโอกาสได้แสดงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง

“ผมเป็นเด็กผู้ชายจากหุบเขาฮัตต์ พ่อแม่ของผมมาจากจุดเริ่มต้นที่ค่อนข้างต่ำต้อย และทำงานหนักมากเพื่อที่จะมอบชีวิตที่ดีให้พี่ชายผมและตัวผม ความมุ่งมั่นและนโยบายทางการเมืองของผมคือ การทำให้แน่ใจว่าเราได้เปิดโอกาสให้ชาวกีวีทุกคนที่ต้องการทำงานหนักสามารถทำงานหนักแล้วก้าวหน้า และสามารถมอบชีวิตที่ดีขึ้นให้กับตัวเองและครอบครัวของพวกเขาได้” ฮิปกินส์กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา

The Guardian วิเคราะห์ว่า ฮิปกินส์เป็นนักการเมืองที่บุคลิกภาพต่างจากอาร์เดิร์นมาก ขณะที่การหาเสียงของอาร์เดิร์นนั้นไม่สนใจการต่อสู้ยุ่งเหยิงทางการเมือง ใช้การมองโลกในแง่ดี และความมีน้ำใจทางการเมือง เป็นจุดขาย ฮิปกินส์กลับเป็นที่รู้จักในฐานะ “ผู้เล่นที่ร้ายกาจมากกว่า” โดยเฉพาะในการอภิปรายในสภา ประสบการณ์การอภิปรายในฐานะฝ่ายค้านในอดีตอาจจะช่วยเขาได้มากในการหาเสียงเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งเขาจะต้องเผชิญหน้ากับ คริสโตเฟอร์ ลักซัน (Christopher Luxon) หัวหน้าพรรคแห่งชาติ (National Party)

ฮิปกินส์เคยบอกกับ The Guardian เมื่อปี 2021 ว่า “เขาชอบการโต้เถียงและเชือดเฉือนทางการเมืองมาโดยตลอด” เขายอมรับว่าตัวเองน่าจะเป็น “หนึ่งในสมาชิกพรรคแรงงานที่เกรี้ยวกราด (aggressive) มาก”

แต่เขาบอกอีกว่า การเป็นผู้นำในการทำงานรับมือโควิด-19 ช่วยให้เขาเกรี้ยวกราดน้อยลง “ผมกลายเป็นคนกลาง ๆ และประนีประนอมมากขึ้น” เขาบอกว่า การทำงานรับมือโควิด-19 บังคับให้เขาต้องตระหนักว่า ไม่มีมนุษย์คนไหนสมบูรณ์แบบ ในระบบใด ๆ ก็ตามย่อมมีจุดอ่อน และผู้คนย่อมจะทำผิดพลาด ซึ่งประสบการณ์นั้นมันทำให้เขาเป็นนักปฏิบัติมากกว่าที่เคยเป็น

สื่อนิวซีแลนด์วิเคราะห์เช่นกันว่า ถ้าฮิปกินส์ยังคงความเป็นตัวเองของเขาต่อไป จะเปลี่ยนโฉมทางการเมืองของนิวซีแลนด์ไปจากการเมืองแบบ “ใจดี” และ “มีความเห็นอกเห็นใจ” ของอาร์เดิร์นอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม RNZ สื่อในนิวซีแลนด์มองว่า การเลือกฮิปกินส์เป็นผู้นำพรรคคนต่อไป เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะเขาเป็นหนึ่งในคนที่ใกล้ชิดและได้รับความไว้วางใจจากอาร์เดิร์นที่สุด เขามักได้รับมอบหมายให้จัดการสะสางปัญหาต่าง ๆ ที่รัฐมนตรีคนอื่นสร้างไว้

ดังนั้น สิ่งที่น่าจะเป็นจุดแข็งของเขาก็คือ การเป็นนักแก้ปัญหา

เขาจะทำได้ดีหรือไม่ในตำแหน่งนายกฯ …ต้องติดตามกันต่อไป

อ้างอิง :

……………………..

อ่านเนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง