จาซินดา อาร์เดิร์น นายกฯ หญิงนิวซีแลนด์ วัย 42 กับผลงานที่ฝากไว้

พรรครัฐบาลของนิวซีแลนด์จะจัดการลงคะแนนเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 22 ม.ค. นี้ แทนนางจาซินดา อาร์เดิร์น อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดของโลก ที่ประกาศลาออกจากการเป็นผู้นำรัฐบาลนิวซีแลนด์เมื่อ 19 ม.ค.

นางอาร์เดิร์นเล่าด้วยความปลามปลื้มตื้นตันถึงความสำเร็จตลอด 6 ปี “ที่ท้าทาย” และมีผลกระทบต่อชีวิตของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอ “ไม่มีแรงพอ” ที่จะบริหารประเทศอีกต่อไป

การลาออกที่สร้างความประหลาดใจเกิดขึ้นหลังผลสำรวจความเห็นประชาชนระบุว่าพรรคกำลังเผชิญกับเส้นทางที่ยากลำบากในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 ต.ค.

นางอาร์เดิร์น วัย 42 ปี ซึ่งจะลงจากตำแหน่งภายใน 7 ก.พ. กล่าวว่า เธอใช้เวลาพิจารณาอนาคตของตัวเองในช่วงพักผ่อนฤดูร้อน (ธ.ค.-ม.ค.) โดยหวังว่าจะมีแรงกายแรงใจในการทำหน้าที่ผู้นำประเทศต่อไป

“แต่โชคไม่ดีที่ฉันกลับไม่มี และฉันจะสร้างความเสียหายแก่นิวซีแลนด์หากอยู่ต่อ” เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ม.ค.

ผู้สืบทอดตำแหน่งจากเธอต้องที่ได้รับเสียงสนับสนุน 2/3 ของ ส.ส. พรรคเลบอร์ หากได้ไม่ถึง พรรคจะเปิดให้สมาชิกพรรคทั่วประเทศได้เป็นผู้เลือก

นางอาร์เดิร์นกลายเป็นหัวหน้ารัฐบาลหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลกเมื่อเธอได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2017 ด้วยวัย 37 ปี และอีกหนึ่งปีต่อมา เธอกลายเป็นผู้นำโลกที่ได้รับการเลือกตั้งคนที่สองที่เคยให้กำเนิดบุตรขณะดำรงตำแหน่ง ต่อจากเบนาซีร์ บุตโต จากปากีสถานในปี 1990

นางอาร์เดิร์นพานิวซีแลนด์ฝ่าวิกฤตโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ตามมา เหตุการณ์กราดยิงที่มัสยิดในไครสต์เชิร์ช และการปะทุของภูเขาไฟที่เกาะไวท์

Clarke Gayford and Jacinda Ardern

Getty Images
จาซินดา อาร์เดิร์น กล่าวว่า ตั้งตารอที่จะจัดพิธีแต่งงานกับคลาร์ก เกย์ฟอร์ด คู่เคียงที่มีบุตรด้วยกัน

นางอาร์เดิร์นกล่าวว่า 5 ปีครึ่งที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ “เติมเต็ม” ที่สุดในชีวิตของเธอ แต่การเป็นผู้นำประเทศในช่วง “วิกฤต” นั้นเป็นเรื่องยาก

“เหตุการณ์เหล่านี้… เอาแรงกายแรงใจไปเยอะมาก เนื่องจากความหนักหนาของเหตุการณ์ น้ำหนักที่มหาศาล และความต่อเนื่องโดยธรรมชาติของเรื่องเหล่านี้ ไม่เคยมีช่วงเวลาใดเลยที่จะรู้สึกว่าเรากำลังบริหารประเทศได้อย่างปกติ”

หลังประกาศลาออก เธอได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งในและต่างประเทศ แม้แต่จากพรรคฝ่ายค้าน

คริส ลักซัน หัวหน้าพรรคเนชันแนล และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ขอบคุณเธอ “สำหรับการรับใช้นิวซีแลนด์”

“เธอทุ่มเทเต็มที่ให้กับงานที่ต้องการความทุ่มเทมากล้นเช่นนี้”

นายกรัฐมนตรี นายแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลียกล่าวถึงนางอาร์เดิร์นว่าเป็นผู้นำแห่งภูมิปัญญา ความเข้มแข็ง และความเข้าอกเข้าใจ

“จาซินดาเป็นนักสู้ผู้ดุดันที่ผลักดันเพื่อนิวซีแลนด์ เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายและเป็นเพื่อนที่ดีของผม” เขาเขียน

จัสติน ทรูโด ผู้นำของแคนาดากล่าวว่า เธอได้สร้างความแตกต่างที่ “นับไม่ถ้วน” ให้กับโลกใบนี้

แต่ถึงแม้นางอาร์เดิร์นมักถูกมองว่าเป็นดาวเด่นทางการเมืองของโลก แต่ผลสำรวจความคิดเห็นในประเทศชี้ว่า นางอาร์เดิร์นไม่เป็นที่นิยมในบ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ

เธอนำพรรคเลเบอร์ไปสู่ชัยชนะอย่างถล่มทลายในในการเลือกตั้งปี 2020 โดยชูความสำเร็จของการตอบสนองอย่างรวดเร็วของรัฐบาลของเธอต่อการระบาดของโควิด-19

แต่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดพบว่าคะแนนนิยมในตัวเธอตกต่ำสุดนับแต่ได้รับการเลือกตั้ง และคะแนนนิยมของพรรคเลเบอร์ก็ตกลงเช่นกัน

ในปี 2022 นางอาร์เดิร์นบอกกับบีบีซีว่าความนิยมที่ลดลงของเธอคือราคาที่รัฐบาลต้องจ่ายจากนโยบายปกป้องผู้คนให้ปลอดภัยจากโควิด-19

อย่างไรก็ตาม เธอยังต้องเผชิญกับวิกฤตค่าครองชีพ ความกังวลต่ออาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น และสัญญาต่าง ๆ ที่ให้ไว้ช่วงหาเสียง แต่ยังทำไม่ได้ หรือถูกเลื่อนออกไปในช่วงที่มีการระบาดใหญ่

ปฏิกิริยาต่อการประกาศลาออกของเธอมีหลากหลาย

ผู้มีสิทธิออกเสียงคนหนึ่งจากเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งโอ๊คแลนด์ของเธอบอกกับสื่อ NZ Herald ว่า นางอาร์เดิร์นว่าเธอ “วิ่งหนีก่อนจะถูกขับออก” และกล่าวโทษเธอว่าเป็นเหตุให้มีอาชญากรรมเพิ่มขึ้นและค่าครองชีพสูงขึ้น

ส่วน แม็กซ์ ทวีดี จาก Auckland Pride แนวร่วมเพื่อสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ กล่าวว่า เธอคือ “หนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิวซีแลนด์”

ซึ่งเป็นความรู้สึกร่วมของ แซม นีล นักแสดงชาวนิวซีแลนด์ ซึ่งกล่าวว่านางอาร์เดิร์นต้องเผชิญกับการปฏิบัติที่ “น่าอัปยศ” จาก “การรังแก” และ “พวกเกลียดผู้หญิง”

“เธอสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้” นักแสดงจากจูราสสิก พาร์ก ทวีต

แต่นางอาร์เดิร์นย้ำว่าเธอไม่ได้ลาออกเพราะคะแนนเธอและพรรคตกลง

“ฉันไม่ได้ลาออกเพราะฉันเชื่อว่าเราไม่สามารถชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่เพราะฉันเชื่อว่าเราทำได้และจะตั้งใจ และเราต้องการคนหน้าใหม่สำหรับความท้าทายนั้น”

ขณะนี้ยังไม่มีใครในพรรคเสนอตัวมาชิงตำแหน่งนี้ แต่ ส.ส.หลายคน รวมทั้ง แกรนต์ โรเบิร์ตสัน รองหัวหน้าพรรค ประกาศว่าจะไม่เข้าแข่ง

นางอาร์เดิร์นแถลงยกตัวอย่างความสำเร็จของรัฐบาลที่เธอภาคภูมิใจเป็นพิเศษ เช่น นโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สวัสดิการที่อยู่อาศัย และการลดความยากจน ในเด็ก

แต่เธอบอกว่าเธอคาดหวังว่าประวัติศาสตร์จะจดจำเธอว่า “เป็นคนที่พยายามมีเมตตาเสมอ”

“ฉันหวังว่าฉันได้ทำให้คนนิวซีแลนด์เชื่อว่า คุณสามารถเป็นคนมีเมตตาแต่เข้มแข็ง เข้าอกเข้าใจแต่มีความมุ่งมั่น มองโลกในแง่ดีแต่จดจ่อในเป้าหมาย และคุณสามารถเป็นผู้นำในแบบของคุณเองได้ เป็นคนที่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาไป ก็ต้องไป” เธอกล่าว

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว