
เปิดประวัติตะวัน-แบม อดอาหารแลกอิสรภาพนักเคลื่อนไหว ขณะที่ 2 นักกิจกรรม ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112
วันที่ 26 มกราคม 2566 สืบเนื่องจาก นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) กลุ่มทะลุวัง และนางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม) เดินทางไปถอนประกันตนเองที่ศาลอาญา ในคดีอาญา มาตรา 112 เมื่อ 16 มกราคมที่ผ่านมา ต่อมาได้ประกาศอดอาหารและน้ำจนกว่าข้อเรียกร้องจะบรรลุ
ผ่านมา 1 สัปดาห์ อาการของตะวันและแบมทรุดลงอย่างชัดเจน ขณะที่ทั้ง 2 คนถูกส่งตัวไปที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนที่กรมราชทัณฑ์จะอนุญาตให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติตามคำขอวานนี้ (24 ม.ค.) ซึ่งทั้ง 2 คน มีโอกาสได้สนทนากับพ่อแม่ และยืนยันว่าจะสู้ต่อตามแนวทางนี้
ทั้งนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ชวนไปทำความรู้จักกับ “ตะวัน” และ “แบม” 2 นักกิจกรรม ที่อดข้าว อดน้ำ เพื่อให้เพื่อนได้ประกันตัว
ประวัติตะวัน ทานตะวัน
ตะวัน มีชื่อจริงว่า ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ อายุ 21 ปี เป็นบุตรของ นาย สมหมาย ตัวตุลานนท์ และนางกาหลง ตัวตุลานนท์ เคยอยู่กลุ่ม We Volunteer (WeVo) หรือมวลชนอาสา เธอเป็นที่รู้จักจากเหตุการณ์ ไลฟ์เฟซบุ๊กวิจารณ์การจัดขบวนเสด็จ มีผลกระทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมในบริเวณดังกล่าว โดยวันนั้นตะวันถูกควบคุมไว้ที่สโมสรตำรวจเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน

ขณะที่ สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง (สน.นางเลิ้ง) แจ้งข้อหากับตะวัน คือต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงาน (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138) และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368) มีโทษปรับ 20,000 บาท จำคุก 1 ปี รวมถึงแจ้งข้อกล่าวหา 112 และข้อหายุยงปลุกปั่นฯ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116) รวมถึงข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงาน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา
โดยคดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการทำกิจกรรมของกลุ่มทะลุวังที่มีการชูป้ายกระดาษ เพื่อทำโพลสำรวจความคิดเห็น ว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จหรือไม่ ที่บริเวณลานสยามพารากอน จากกรณีไปชูป้ายโพลเรื่องขบวนเสด็จ
นอกจากนี้ ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565 ตะวันเคยประท้วงอดอาหารเป็นเวลานาน 37 วัน ภายหลังศาลอาญา รัชดาฯ เพิกถอนสัญญาประกันตั้งแต่ 20 เมษายน 2565 กระทั่งได้รับการประกันตัวเมื่อ 26 พฤษภาคม 2565
ประวัติแบม อรวรรณ
แบม มีชื่อจริงว่า อรวรรณ ภู่พงษ์ เป็นบุตของ นายสุชาติ ภู่พงษ์ และนาง พรนิภา ภู่พงษ์ เป็นนักกิจกรรมที่ไม่มีสังกัดใด ๆ จึงทำให้อาจไม่เป็นที่รู้จักกับคนทั่วไปมากนัก แต่แบมเข้าร่วมการชุมนุมอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ปี 2563 แบมถูกตั้งข้อหา มาตรา 112 จำนวนหนึ่งคดี เนื่องจากการทำโพลสติ๊กเกอร์บริเวณหน้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปว่า ขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนหรือไม่ โดยในช่วงเย็นวันดังกล่าว ได้มีการพยายามนำโพลไปส่งที่วังสระปทุม
กระทั่งในวันที่ 10 มีนาคม 2565 สน.ปทุมวันนัดหมายกลุ่มทำกิจกรรมดังกล่าวให้มารับทราบข้อกล่าวหา (ยกเว้นตะวันที่ถูกแจ้งข้อหาตั้งแต่ถูกควบคุมตัวเมื่อ 6 มีนาคม 2565) โดยตำรวจได้ขออำนาจศาลเพื่อฝากขัง ก่อนที่จะได้รับการประกันตัวในเวลาต่อมา ด้วยหลักทรัพย์ 200,000 บาท พร้อมเงื่อนไข 4 ข้อ ได้แก่
1.ห้ามทำกิจกรรม หรือการกระทำใดที่อาจเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
2.ห้ามโพสต์เชิญชวน ปลุกปั่น ยั่วยุ ชักจูงประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุมในสื่อโซเชียลมีเดีย หรือร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
3.ห้ามเดินทางออกจากราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล
4.ให้ติดอุปกรณ์กำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM)

แบม-ตะวัน ถอนประกันตัวเอง แลกข้อเรียกร้อง 3 ข้อ
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม นักกิจกรรมทางการเมือง ได้เดินทางมาเพื่อถอนประกันตัวเองในคดี มาตรา 112 เพื่อแสดงจุดยืนเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองทั้งหมด พร้อมอ่านแถลงการณ์ทั้ง 3 ข้อ ดังนี้
1.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
2.ยุติการดำเนินความคดีกับประชาชน ที่ใช้สิทธิ เสรีภาพในการแสดงความเห็น การชุมนุม และแสดงออกทางการเมือง
3.พรรคการเมืองทุกพรรคต้องเสนอนโยบายยกเลิก ม.112 และ ม.116
หากข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อไม่เป็นผล พวกตนจะยกระดับทั้งในเรือนจำและนอกเรือนจำต่อไป
“การถอนประกันครั้งนี้ พวกเรามีเวลาให้กระบวนการยุติธรรม และพรรคการเมือง 3 วัน หากเพื่อนของเราทุกคนยังไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว และข้อเรียกร้องเหล่านี้ไม่เป็นผล เราจะทำการยกระดับทั้งจากในคุกและนอกคุก” น.ส.ทานตะวันระบุ

ศูนย์ทนายฯเผยอาการตะวัน-แบมล่าสุด
ในวันที่ 25 มกราคม 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยมตะวันและแบม พร้อมทั้งได้เข้าพูดคุยปรึกษาอาการกับแพทย์ที่เป็นผู้ดูแลทั้งคู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ
ทนายความของทั้ง 2 คนชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดอาการและรายละเอียดการเข้าพบตะวันและแบม โดยระบุว่า ทนายความได้เข้าพบตะวันและแบมในเวลา 14.52 น. (วันที่ 25 ม.ค.) ในห้องของโรงพยาบาล ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เฝ้าอยู่ในห้องด้วยตลอดเวลาจำนวน 4 คน พบทั้งคู่นอนอยู่บนเตียงเดี่ยว ตะวันมีลักษณะผอมลงเป็นอย่างมาก และเห็นรูปโครงหัวกะโหลกจากศีรษะค่อนข้างชัด ทั้งคู่ใส่เสื้อหนาวสีสันสดใสเป็นลายคู่กันนอนข้างกันอยู่บนเตียง
จากการสอบถาม ปรากฏว่าเมื่อวาน (24 ม.ค.) ขณะมาถึงและได้รับการตรวจ ตะวันมีอาการหัวใจจะหยุดเต้นจากการขาดโพแทสเซียม จึงตัดสินใจรับโพแทสเซียมจากพยาบาลของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แต่ทั้งคู่ยังคงยืนยันว่าจะทำตามความตั้งใจเดิม และมั่นใจในการดูแลของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ คืออดน้ำ อดอาหาร ไม่ใส่สายน้ำเกลือ ไม่กินเกลือแร่ ไม่กินวิตามิน ไม่กินน้ำหวาน และอื่น ๆ
ในวันนี้สภาพจิตใจของทั้งคู่ดีขึ้นมาก แบมแสดงอาการตื้นตันใจเมื่อได้รับทราบว่าพ่อแม่ของแบมไปยืนหยุดขัง
จากการปรึกษาอาการกับแพทย์ โดยภาพรวม ทั้งคู่มีการรู้สติในเกณฑ์ปกติ มีอาการอ่อนเพลีย สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ได้เจาะเลือดตรวจและเอกซเรย์ โดยในเกณฑ์นี้ยังไม่มีอะไรเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งสำหรับการอดอาหารแบบไม่รับยา ไม่ทานยานั้น จะมีอาการปวดทุกข์ทรมานโดยไม่มีอาการบรรเทา
ซึ่งเมื่อคนไข้ปฏิเสธรับยาและการรักษา โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ก็จะเคารพการตัดสินใจของคนไข้ และทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์จะใช้วิธีการดูแลคนไข้ด้วยการตามมาตรฐาน เช่นในกรณีที่คนไข้ไม่รับการรักษา โรงพยาบาลจะดูแลด้วยการตรวจจับสัญญาณชีพตามมาตรฐาน คือทุก 4-6 ชั่วโมง
โดยสิ่งที่เริ่มเห็นจากร่างกายของคนไข้ คือการขาดเกลือแร่ และเกลือแร่บางตัวเช่นโพแทสเซียม หากต่ำไปจะทำให้หัวใจหยุดเต้น ซึ่งในขณะนี้คนไข้มีอาการดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ หากอาการยังคงเป็นไปเช่นนี้ โดยคนไข้ยังปฏิเสธการรับเกลือแร่ อาการก็จะไม่ดีขึ้น แต่สาเหตุของการไม่ดีขึ้นหรือมีอันตรายถึงชีวิตต่อร่างกายจะเกิดขึ้นได้โดยหลายปัจจัย
โดยแพทย์และตะวันกับแบมได้ยืนยันกับทนายตรงกันว่า ทั้งคู่รับทราบถึงอาการของร่างกายของตนเองเป็นอย่างดี มีความเข้าใจว่าจะสามารถเกิดอะไรขึ้นได้กับร่างกายของตน โดยตะวันได้บอกว่า หากเมื่อร่างกายเข้าขั้นวิกฤตแล้วจริง ๆ รับทราบดีว่าสามารถมีอาการหัวใจวายได้
“ถึงตอนนั้นก็คือหนูก็จะไม่รู้อะไรแล้ว” ตะวันกล่าว

รพ.ธรรมศาสตร์แถลงฉบับที่ 5 อาการตะวัน-แบม
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 5 ชี้แจงอาการของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม โดยสรุปอาการป่วยของตะวัน และแบม ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเป็นวันที่ 13 ของการรักษา สาระสำคัญ ระบุว่า
นางสาวทานตะวัน ยังคงไม่รับประทานอาหารแต่จิบน้ำ ตื่นแต่โต้ตอบช้า อ่อนเพลียมากขึ้น ปากแห้ง พะอืดพะอมตลอดเวลา ยังมีเลือดออกตามไรฟัน ไม่มีเลือดออกผิดปกติหรือจุดจ้ำเลือดออกที่บริเวณอื่น มีอาการแสบร้อนลิ้นปี มีลมในช่องท้อง นอนหลับแล้วตื่นกลางดึกหลับต่อไม่ได้ รู้สึกว่าการคิดและความจำลดลง มีความกังวลเรื่องปัญหาทางสุขภาพจากการอดอาหาร การตอบสนองทางอารมณ์ เหมาะสมกับเรื่องราวที่พูดคุย
สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับน้ำตาลในเลือด 50 mg/dL มีภาวะเกลือแร่ต่ำหลายชนิด มีภาวะเลือดเป็นกรด ค่าคีโตนสูง (serum ketone 6.05 mmoI/L) เนื่องจากภาวะอดอาหาร ปฏิเสธคำแนะนำเรื่องการดื่มน้ำผสมวิตามินซีเพื่อบรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟัน ปฏิเสธการรักษาด้วยน้ำเกลือที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและเกลือแร่ที่ผิดปกติ ทำให้ทีมผู้รักษาเพิ่มความถี่ในการ ตรวจติดตามระดับน้ำตาล และเฝ้าระวังอาการน้ำตาลต่ำอย่างใกล้ชิด
ด้านนางสาวอรวรรณยังคงไม่รับประทานอาหารแต่จิบน้ำ ตื่นรู้สึกตัวดี อ่อนเพลียมากขึ้น จนทำให้ต้องลดการเคลื่อนไหว เหนื่อย ใจเต้นเร็ว ปากแห้ง ไม่กินอาหาร พะอืดพะอมเวลาจิบน้ำ ต้นขาอ่อนแรง มีอาการแสบร้อนลิ้นปี่ มีลมในช่องท้อง หน้ามืดและเวียนศีรษะ นอนไม่หลับ สามารถตอบโต้ได้มีความกังวล เรื่องปัญหาทางสุขภาพจากการอดอาหาร การตอบสนองทางอารมณ์เหมาะสมกับเรื่องราวที่พูดคุย
สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับน้ำตาลในเลือด 61 mg/dL มีภาวะเกลือแร่ต่ำหลายชนิด มีภาวการณ์แข็งตัวของเลือดผิดปกติ มีภาวะเลือดเป็นกรด ค่าคีโตนสูง (serum ketone 6.06 mmoI/L) เนื่องจากภาวะอดอาหาร ปฏิเสธการดื่มน้ำผสมเกลือแร่เพื่อลดภาวะเลือดเป็นกรด
ตั้งแต่ วันที่ 3/2/2566 จนถึงปัจจุบัน ปฏิเสธการรักษาด้วยน้ำเกลือที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและเกลือแร่ที่ผิดปกติ ทำให้ทีมผู้รักษา เพิ่มความถี่ในการตรวจติดตามระดับน้ำตาล และเฝ้าระวังน้ำตาลอย่างใกล้ชิด

พ่อแม่ตะวัน รุดเยี่ยม ห่วงลูกทรุดหนัก ไตเริ่มเสื่อม
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอผู้ป่วยพิเศษ ยูงทอง 2 โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ และนางกาหลง ตัวตุลานนท์ พ่อและแม่ของ น.ส.ทานตะวัน ผู้ต้องหา ม.112 พร้อมเพื่อน ๆ กลุ่มทะลุวัง นำโดย นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ เข้าเยี่ยมอาการ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม
หลังช่วงดึกที่ผ่านมา รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เผยแพร่เอกสารระบุอาการของสองนักกิจกรรมการเมือง ทรุดตัวลง เนื่องจากอดอาหารประท้วง โดยนางกาหลงกล่าวทักทายกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ก่อนเข้าเยี่ยมอาการบุตรสาวตัวเองทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศหน้าหอพักผู้ป่วย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายนาย พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังรักษาความปลอดภัยพร้อมป้องกันไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณ
หลังช่วงดึกที่ผ่านมา รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เผยแพร่เอกสารระบุอาการของสองนักกิจกรรมการเมือง ทรุดตัวลง เนื่องจากอดอาหารประท้วง โดยนางกาหลงกล่าวทักทายกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ก่อนเข้าเยี่ยมอาการบุตรสาวตัวเองทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศหน้าหอพักผู้ป่วย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายนาย พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังรักษาความปลอดภัยพร้อมป้องกันไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณ
ต่อมา รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เข้าเยี่ยมติดตามอาการของตะวันและแบม ก่อนเปิดเผยว่า ทั้งคู่ได้เข้ารับการรักษาในอาคารร่วมกับผู้ป่วยปกติรายอื่น ๆ โดยโรงพยาบาลได้จัดทีมแพทย์ดูแลพิเศษ พร้อมสรุปอาการและการรักษาในแต่ละวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. พร้อมให้ข้อมูลผ่านเว็บไซต์และเฟซบุ๊กของโรงพยาบาล
โดยวันนี้ได้สรุปผลการตรวจเมื่อวานนี้เรียบร้อย แต่สำหรับอาการในช่วงเช้าของวันนี้ ทั้งคู่ มีอาการอ่อนเพลีย ปวดท้อง เริ่มมีของเสียสะสมในร่างกาย รวมถึงอวัยวะสำคัญ เช่น ไต เริ่มเสื่อมสภาพ
ส่วนอาการอื่น ๆ พบว่ามีสัญญาณชีพปกติ สามารถสื่อสารกับแพทย์และคนมาเยี่ยมได้รู้เรื่อง มีภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต และยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเข้าขั้นเมื่อใด ยืนยันว่าไม่ต้องเป็นกังวล หากทั้งคู่เริ่มมีอาการเข้าขั้นรุนแรง จะดำเนินการตามจรรยาบรรณและวิชาชีพการแพทย์
เมื่อถามว่า แพทย์ได้เน้นย้ำและแนะนำเรื่องความจำเป็นในการรับสารอาหารให้ตะวันและแบมหรือไม่
รศ.นพ.พฤหัส กล่าวว่า แพทย์ได้แนะนำให้ทั้งคู่รับประทานอาหารและดื่มน้ำตั้งแต่แรก ซึ่งช่วงต้นสัปดาห์ก่อน ทั้งคู่ดื่มน้ำได้พอสมควร แต่ปัจจุบันเริ่มดื่มน้ำได้น้อยลง โดยแพทย์ได้พยายามให้ทั้งคู่รับอาหารเหลวและน้ำเกลือ แต่ทั้งคู่ยังคงปฏิเสธ