เปิดประวัติ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเตตนายกฯ พรรคก้าวไกล เลือกตั้ง 66

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

เปิดประวัติ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเตตนายกฯ พรรคก้าวไกลที่มาแรงแซงเกือบทุกโพลในช่วงโค้งสุดท้าย เลือกตั้ง 2566

วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 หลังจากเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบว่าการที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่

เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น ว่าตนเองใช้เวลาตรวจสอบเรื่องนี้ 5 วัน เสียเงินไปหลายพันบาทเพื่อคัดเอกสารจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หลังจากได้ข้อมูลมาจากบุคคล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของ บมจ.ไอทีวีแล้วก็ได้พบหลักฐานตามเอกสาร บมจ.6 ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าส่งมาว่า ณ วันที่ 27 เมษายน 2565 นายพิธายังเป็นผู้มีชื่อถือหุ้นจำนวนดังกล่าวอยู่

บมจ.ไอทีวี เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจสื่อ และมีรายงานการประชุมล่าสุดที่มีผู้ถือหุ้นถามผู้บริหารว่า บมจ.ไอทีวีเป็นสื่อหรือไม่ ซึ่งผู้บริหารก็ได้ตอบว่าเป็นบริษัทสื่อ จึงจำเป็นต้องร้องให้ กกต.ตรวจสอบ

ล่าสุดพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาชี้แจงปมหุ้นสื่อ ITV ว่า ไม่มีอะไรต้องกังวลเหมือนอย่างที่ชี้แจงไปแล้ว หลักฐานและหลักการเกี่ยวกับกฎหมายรัดกุม ตอนนี้ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เราได้แจ้ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปแล้ว

รอให้คำร้องของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาก่อนแล้วเราจะชี้แจงทีเดียว มีทั้งหลักฐาน และหลักการทางกฎหมาย และทีมกฎหมายเตรียมพร้อม ฉะนั้นไม่กังวลในเรื่องนี้ ขอให้ประชาชนเข้าสู่การเลือกตั้งด้วยความหวัง

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ประวัติ

  • เกิดวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2523 (อายุ 42 ปี)
  • ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ การเงิน การธนาคาร ภาคภาษาอังกฤษ
  • ปริญญาโท คณะการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • ปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ (M.I.T) ประเทศสหรัฐอเมริกา

แจ้งเกิดทางการเมือง

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เข้าสู่วงการการเมืองจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อในลำดับที่ 4 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งแรกที่ลงสมัครในการเลือกตั้งปี 2562

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงความโดดเด่นออกมาโดยการ อภิปรายนโยบายเกษตร-ที่ดิน ของรัฐบาล โดยชี้ชัดให้เห็นถึงการแก้ปัญหากระดุม 5 เม็ด ที่ต้องติดให้เกษตรกรไทย

โดยกระดุมเม็ดแรกคือที่ดิน กระดุมเม็ดที่ 2 คือเรื่องหนี้สินการเกษตร กระดุมเม็ดที่ 3 คือเรื่องสารเคมีและการประกันราคาพืชผล กระดุมเม็ดที่ 4 คือเรื่องการแปรรูปและนวัตกรรม และกระดุมเม็ดที่ 5 คือการท่องเที่ยวเชิงการเกษตร จนทำให้ บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลุกมาชี้แจง พร้อมเอ่ยปายชมว่าพูดสร้างสรรค์และเข้าประเด็น

ทำให้โลกออนไลน์ได้ให้ความสนใจ และชื่นชม นายพิธาในการอภิปรายดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ว่ามีการเตรียมตัวมาดี มีความสามารถ พูดปัญหาได้อย่างตรงจุด

ต่อมาภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย ยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ในวันที่ 8 มีนาคม พิธาได้ย้ายไปอยู่พรรคก้าวไกล ร่วมกับอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่อีก 54 คน และขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ธุรกิจตระกูล ลิ้มเจริญรัตน์

ตั้งแต่ปี 2562 มีผู้ถือหุ้นต่างชาติสิงคโปร์เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 49% ของทุนจดทะเบียน 98 ล้านบาท และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ออยล์ฟอร์ไลฟ์” เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2563

โดยปัจจุบันกรรมการบริษัท 3 คนคือ นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ (น้องชายนายพิธา), นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา และนายประสพโชค สุขสมบูรณ์ โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เคยนั่งเป็นกรรมการและผู้บริหารตั้งแต่ 5 ต.ค. 2549-6 มี.ค. 2560

สำหรับผลประกอบการของบริษัท เนื่องจากบริษัทไม่ได้ส่งงบการเงินมา 3 ปีแล้ว โดยงบการเงินปีล่าสุด คือปี 2562 มีรายได้รวม 106,064,719 บาท ขาดทุนสุทธิ 143.40 ล้านบาท ถือเป็นการขาดทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

โดยบริษัทเคยมีรายได้สูงสุดในปี 2555 จำนวน 1,045 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16.33 ล้านบาท หลังจากนั้นสถานการณ์ก็ไม่ค่อยสดใส โดยงบการเงินย้อนหลัง 5 ปีล่าสุด (2558-2562) ที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ดังนี้

ปี 2562

  • ทรัพย์สินรวม 189,862,430 บาท
  • รายได้รวม 106,064,719 บาท
  • ขาดทุนสุทธิ -143,403,259 บาท

ปี 2561

  • ทรัพย์สินรวม 298,976,423 บาท
  • รายได้รวม 118,468,256 บาท
  • ขาดทุนสิทธิ -89,393,676 บาท

ปี 2560

  • ทรัพย์สินรวม 351,527,074 บาท
  • รายได้รวม 107,523,823 บาท
  • ขาดทุนสุทธิ -98,986,981 บาท

ปี 2559

  • ทรัพย์สินรวม 426,450,143 บาท
  • รายได้รวม 518,576,041 บาท
  • ขาดทุนสุทธิ -145,637,779 บาท

ปี 2558

  • ทรัพย์สินรวม 523,786,446 บาท
  • รายได้รวม 675,457,764 บาท
  • กำไรสุทธิ 433,009 บาท

ทั้งนี้ เมื่อปี 2555 ช่วงที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า เดิมบริษัทโฟกัสการผลิตน้ำมันดิบจากรำข้าวมาตลอด ได้มีแนวคิดที่จะดึงเอาสรรพคุณจากรำข้าวออมาสู่ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้คนไทยได้รู้จักและเลือกใช้มากยิ่งขึ้น

ดังนั้น บริษัทจึงมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจกลุ่มผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม รวมไปถึงกลุ่มสินค้าขนมขบเคี้ยวจากรำข้าว ซึ่งต่อมาได้มีการเปิดตัวอาหารเสริมน้ำมันรำข้าวภายใต้แบรนด์ T.R.B.O