ประยุทธ์ ไฟเขียว ต่ออายุ 5 กรรมการยุทธศาสตร์ชาติอีก 5 ปี ลั่น ไม่อยู่ถึงปี’80

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ประยุทธ์ นั่ง หัวโต๊ะ บอร์ดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เคาะ 1,026 โครงการ ไฟเขียว ต่ออายุ วิษณุ-อนุพงษ์-กานต์-ชาติศิริ-บัณฑูร อีกหนึ่งวาระ ลั่นไม่อยู่ถึงปี 2580

วันที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2565 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบเรื่องสำคัญ จำนวน 5 เรื่อง ได้แก่ 1. เห็นชอบ (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2566-2580) (ฉบับปรับปรุง) ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สำนักงาน) ได้ดำเนินการตามหลักการและแนวทางของมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2565

2. เห็นชอบโครงการเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 1,026 โครงการ จากข้อเสนอโครงการ ที่หน่วยงานนำเข้าในระบบ eMENSCR จำนวน 2,619 โครงการ รวมทั้งเห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการในระยะถัดไป

3. เห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและการดำเนินการภายหลังการสิ้นสุดของแผนปฏิรูปประเทศ เนื่องจากการดำเนินการปฏิรูปประเทศที่ได้มีการประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 61 และแผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ได้ทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินการปฏิรูปประเทศในระยะเวลา 5 ปี ตามมาตรา 258 และเป้าหมายตามมาตรา 257 ของรัฐธรรมนูญ

4. เห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนและติดตามประเมินผลแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570)

5. เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากมีอายุครบวาระ 5 ปี ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 โดยได้มีมติแต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา นายกานต์ ตระกูลฮุน นายชาติศิริ โสภณพนิช และนายบัณฑูร ล่ำซำ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ต่อไปอีกหนึ่งวาระ และสรรหาบุคคลอื่นเพิ่มเติมตามที่เห็นสมควร เพื่อนำเสนอตามกระบวนการต่อไป

ทั้งนี้ มอบหมายให้สำนักงานนำเสนอ ครม.พิจารณาแต่งตั้งตามกฎหมายต่อไป

นายอนุชากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ได้เดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติซึ่งวางไว้ 20 ปี เข้าสู่ระยะที่ 2 แล้ว โดยหลายอย่างมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป หลังจากการดำเนินยุทธศาสตร์ชาติในระยะ 1 ได้เห็นความก้าวหน้าต่อเนื่องเกิดขึ้นตามลำดับ

แม้บางอย่างจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายเพราะติดปัญหา แต่ถ้าทุกคนช่วยกันทำงานก็จะเดินหน้าไปได้ และในระยะต่อไปต้องดูว่าจะเดินหน้าอย่างไร หลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลงในระยะต่อไป ซึ่งเราไม่ได้อยู่ไปจนถึงปี 2580 แต่หลัก ๆ คือเราอยู่ใน 6 ยุทธศาสตร์ซึ่งมีการอ่อนตัวอยู่แล้ว สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ตลอดเวลา

โดยทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ ครอบคลุมการเจริญเติบโตทุกด้านของประเทศ ดังนั้น ขอให้คณะกรรมการทุกคนช่วยกันแสดงความเห็น หาทางปฏิบัติ และหากมีปัญหาหรืออุปสรรคขอให้แจ้งมา พร้อมกับต้องเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาด้วย

นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยการดำเนินการระยะที่ 1 คือการแก้ปัญหาความยากจน ลดภาระ ลดหนี้ให้ประชาชน เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน โดยมีมาตรการเสริมดูแลผู้มีรายได้น้อย ดูแลคนทุกช่วงวัย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ให้อยู่รอดได้ ไม่เป็นภาระของสังคมและครอบครัว

โดยระยะที่ 2 ต่อจากนี้จะต้องมีการวางแผนหาวิธีการทำให้ประชาชนพอเพียง มีรายได้ที่เพียงพอ ส่วนระยะที่ 3 ของการแก้ไขปัญหาความยากจน คือจะต้องไปสู่ความยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับโลกยุคใหม่ในปัจจุบัน

โดยวันนี้หลายเรื่องดีขึ้น หลายเรื่องยังไม่ดีแต่ก็มีส่วนที่ดีอยู่มากพอสมควร ถ้าทุกคนย้อนกลับไปดูและสร้างความเข้าใจ ทุกอย่างก็จะเดินหน้าได้เพื่อไปสู่ทั้ง 3 ระยะเพื่อความยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดเป็นการดำเนินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้สู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาล

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำในตอนท้ายว่า การประชุมวันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่เป็นการวางยุทธศาสตร์ของประเทศ ว่าจะเดินหน้าประเทศอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ให้ขับเคลื่อนได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมกล่าวฝากให้ภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคธุรกิจเอกชน ต้องร่วมมือกันเดินหน้าต่อไปให้ได้

หลายปีที่ผ่านมาขอขอบคุณทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด สิ่งที่เป็นความท้าทายวันนี้คือทำอย่างไรให้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นรูปธรรมให้ได้ โดยทุกคนต้องมาช่วยกันทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า มุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือประเทศชาติและประชาชน เพื่อนำยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติให้ได้ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามห้วงเวลา ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน