มหกรรมการเมือง เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ

พานรัฐธรรมนูญ
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : ณัฐวุฒิ ประชาชาติ

ดูเหมือนการเมืองที่อั้น ๆ หมกมุ่นอยู่กับการแก้กฎหมายลูกช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม มาปะทุจนปรอทแตกเอาในเดือนกันยายน

เพราะเป็นเดือนที่ชี้ชะตาการอยู่-ไปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากการเป็นนายกรัฐมนตรี ไร้รอยต่อ ตั้งแต่ปี 2557-2565 ตามความเห็นของผู้ร้อง-6 พรรคฝ่ายค้าน ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ

ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ตามมาตรา 7 (9) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่า “ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลงเนื่องจากดำรงตำแหน่งครบกำหนดเวลา ตามมาตรา 170 วรรคสอง และมาตรา 158 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 หรือไม่”

เอกสารชั้นความลับ คำชี้แจงผู้ให้ความเห็น-คู่กรณี ทั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ และ มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หลุดปลิวว่อนทั่วโซเชียลมีเดีย ยังไม่สามารถจับมือใครดมได้ แต่รู้ว่าตั้งใจปล่อย

ทำเอาศาลรัฐธรรมนูญ ต้องออกมาแถลงข่าวแสดงความเสียใจ เพราะกระทบกับบุคคลภายนอกที่มาให้ความเห็น

ถึงที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีคำวินิจฉัยภายในเดือนกันยายน

และเมื่อดูคำร้องของฝ่ายค้านที่มีจุดอ่อน-ช่องโหว่ให้ต่อสู้ มากกว่าน้ำหนัก พยานหลักฐาน เครือข่ายที่อยู่ใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ มั่นใจว่านายกฯ จะอยู่ได้อย่างน้อย ๆ อีก 2 ปี กลายเป็น นายกฯ คนละครึ่ง (หากผ่านศาลรัฐธรรมนูญ ปม 8 ปี และได้รับการเลือกให้กลับมาเป็นนายกฯ รอบ 3)

ทว่าการจะกลับมาเป็นนายกฯ ได้อีกรอบ ต้องฝ่าด่านแคนดิเดตนายกฯ ที่ต่างพาเหรดเปิดตัวในเดือนกันยายน

พรรคสร้างอนาคตไทย ที่มี “อุตตม สาวนายน” เป็นหัวหน้าพรรค เปิดตัว “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพรรคสร้างอนาคตไทย เตรียมผลักดันขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค

พรรคไทยสร้างไทย ที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นั่งเก้าอี้เป็นประธานพรรคมา 1 ปีกว่า ถึงคราวที่จะขยับมาตอกเสาเข็มเป็น “หัวหน้าพรรค” และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคอย่างเป็นทางการ

การจับมือทางการเมืองของพรรคชาติพัฒนา และ กรณ์ จาติกวณิช ที่ควงขุนพลมือเศรษฐกิจ อย่าง กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ไปร่วมงาน ซึ่งพรรคชาติพัฒนา ก็จัดแจงบทบาทสำคัญให้ “กรณ์” อาจไปถึงแคนดิเดตนายกฯ เพื่อปรับภาพให้ทันสมัย

คิวของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แม้ยังไม่ประกาศว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย แต่คนการเมืองก็รู้ว่าลูกสาวคนสุดท้องของนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร คือ 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ แน่นอน มีคิวไปเปิดนโยบายที่ฐานบ้านเกิดผู้เป็นพ่อ คือ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 9-10 กันยายน 65

และมนุษย์การเมืองในสภา ยังให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ แม้ดูเหมือนว่าจะอยู่ห่างการเมือง แต่เขายังติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด

กันยายน เป็นมหกรรมการเมืองของแท้ โดยเฉพาะหลังวันที่ 24 กันยายน จะเข้าสู่โหมดนับถอยหลัง 6 เดือน รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเป็นทางการ การเมืองจะคึกคักอีกมากหลังจากนี้