ทักษิณ ส่งสัญญาณ 16 ปีรัฐประหาร ขอกลับบ้านใช้ประสบการณ์เพื่อไทย

ทักษิณ ชินวัตร
ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ ชินวัตร ส่งสารถึงฐานเสียง 16 ปีรัฐประหาร อายุ 73 ปีแล้ว ไม่นานคงจะได้กลับไปเลี้ยงหลาน ขอใช้ประสบการณ์เพื่อไทย ด้วยเคารพรักและห่วงใย

วันที่ 19 กันยายน 2565 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกรัฐประหาร ในวันที่ 19 กันยายน 2549 ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นในวาระครบรอบ 16 ปี การรัฐประหารไว้ว่า

ครบรอบ 16 ปีของการรัฐประหาร

19 กันยายน 2549 ขณะที่ผมเดินทางไปประชุมสหประชาชาติ ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ผมถูกการรัฐประหารลับหลัง (ถูกลอบกัดโดยชายชาติทหาร) ผมเสียดายสิ่งดี ๆ ที่ควรจะเกิด แต่วันนี้กลายเป็นความเลวร้าย

  1. ผมเสียดายความเป็นประชาธิปไตยของประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แต่วันนี้เรากลับต้องมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจเผด็จการ
  2. ผมเสียดายความสง่างามและความไว้เนื้อเชื่อใจของประเทศไทยบนเวทีโลก
  3. ผมเสียดายโอกาสประเทศในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา เทคโนโลยี การเกษตร และอุตสาหกรรม
  4. ผมเสียดายโอกาสในการแก้ปัญหาความยากจนซึ่งคนไทยควรจะหายจนไปแล้ว
  5. ผมเสียดายโอกาสของคนไทยที่ทุกวันนี้มองไม่เห็นอนาคตตนเอง เพียงแค่หางานทำให้ได้เพื่ออยู่ไปวัน ๆ ทั้ง ๆ ที่รายได้ต่ำกว่าประเทศอื่นในระดับการพัฒนาเดียวกัน
  6. ผมเสียดายความเป็นศูนย์กลางการบินของสุวรรณภูมิ ทั้ง ๆ ที่ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เราควรจะเป็นศูนย์กลางของอาเซียน
  7. ผมเสียดายที่ลูกหลานต้องติดยาเสพติด ซึ่งตอนนี้ซื้อง่ายยิ่งกว่าหมากฝรั่ง
  8. ผมเสียดายที่น้ำท่วมซ้ำซากเพราะไม่ได้บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
  9. ผมเสียดายระบบราชการที่กำลังทันสมัยต้องกลับมาเป็นรัฐราชการที่ประชาชนต้องวิ่งวอนขอรับการบริการ
  10. ผมเสียดายที่ประเทศต้องเป็นหนี้เพิ่มจากการบริหารงานที่ผิดพลาดจนต้องขยายเพดานการกู้และหนี้สินภาคครัวเรือนของประชาชนสูงจนจะใช้คืนได้ยาก

ผมบอกแล้วว่าทหารเหมือนหัวหน้ายามที่ใช้เฝ้าทรัพย์สิน ดูแลความปลอดภัย ไม่ใช่มาเป็น CEO หรือมาบริหารประเทศ เพราะเป็นแต่ใช้ตังค์ แต่หาตังค์ไม่เป็น

ขอให้พี่น้องคนไทยช่วยกันสนับสนุนประชาธิปไตยอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ เพื่อประเทศไทยของเราและลูกหลานจะได้มองเห็นอนาคตและเลือกทางเดินชีวิตของตนเองได้

นายทักษิณ ชินวัตร ลงท้ายไว้ว่า สำหรับส่วนตัวของผมเอง 73 ปีแล้ว ก็ยังอดห่วงอนาคตประเทศและลูกหลาน ไม่นานคงจะได้กลับไปเลี้ยงหลานและแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับสังคมไทยเท่าที่กำลังกายและกำลังสมองยังดีอยู่ ด้วยเคารพรักและห่วงใย

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการครบรอบ 16 ปี เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่นำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และนำไปสู่การยุบพรรคไทยรักไทยในเวลาต่อมาว่า ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นและต่อเนื่องจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
เวลาที่เห็นว่าบ้านเมืองเสียหายยับเยิน เรามักจะตั้งคำถามว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร หากจะหาคำตอบโดยถอยหลังไปไม่ไกลนัก คงต้องมองย้อนไปถึงการรัฐประหารเมื่อ 16 ปีก่อน

การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นจุดหักเหครั้งสำคัญของการเมืองไทยตรงที่เป็นการเริ่มต้นของแนวคิด อุดมการณ์และกระบวนการที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติมาจนทุกวันนี้ใน 3 เรื่องที่ส่งผลเชื่อมโยงกัน

1.หลักการที่ว่ากองทัพไม่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งต่อมาได้มีการออกกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามหลักการนี้มาจนปัจจุบัน

2.การใช้ฝ่ายตุลาการเข้ามาจัดการกับการเมืองที่เรียกกันว่า “ตุลาการภิวัตน์” ซึ่งนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองอย่างไม่เป็นธรรม การลงโทษย้อนหลัง การเลือกปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายและการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและทำร้ายผู้เห็นต่างโดยกระบวนการยุติธรรมเอง

3.การสมคบกันของผู้มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายโดยจงใจส่งเสริมให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายได้อย่างไม่จำกัดในการเคลื่อนไหวต่อต้านโค่นล้มรัฐบาล สร้างสถานการณ์ให้อยู่ในสภาพที่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถบริหารประเทศได้ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร

ถึงแม้ความพยายามที่จะกำหนดความเป็นไปของบ้านเมืองต่อจากการรัฐประหารครั้งนั้นถูกประชาชนปฏิเสธ ทั้งโดยการเคลื่อนไหวต่อต้านอย่างสันติและการออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้งที่มีขึ้นในเวลาต่อมาถึง 2 ครั้ง จนฝ่ายผู้มีอำนาจที่ไม่นิยมประชาธิปไตยเห็นการรัฐประหารครั้งนั้นเป็นเรื่อง “เสียของ”

แต่การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ก็ได้วางรากฐานสำหรับระบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่ได้รับการเสริมสร้างต่อยอดด้วยการทำรัฐประหารเมื่อ 8 ปีก่อน ทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาพล้าหลัง เสื่อมโทรม ไม่เป็นอารยะต่อเนื่องมาจนกระทั่งทุกวันนี้

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงการครบรอบ 16 ปี การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ว่า ครบรอบ 16 ปีของการรัฐประหารที่ คสช.ใช้อำนาจเผด็จการฉีกรัฐธรรมนูญอย่างไม่เห็นหัวประชาชน และใช้กลไกอำนาจในคราบอันธพาล ข่มขู่คุกคามนิสิต นักศึกษา ประชาชน และพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง

นับจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 คิดว่าวันนี้คนในสังคมไทยได้เรียนรู้ผลกระทบของการรัฐประหารอย่างกระจ่างแจ้งมากขึ้นแล้วว่า มันได้ส่งผลกระทบที่เป็นพิษร้ายต่อทุกระบบในสังคมไทย และการเลือกหนทางรัฐประหารเป็นทางเลือกที่ทำร้ายระบอบประชาธิปไตย เศรษฐกิจ สวัสดิภาพ และความมั่นคงทุกมิติของบ้านเมือง

นายภูมิธรรมกล่าวว่า สิ่งที่ชัดเจนที่สุด คือ การใช้กลไกทางกฎหมายที่ผิดเพี้ยน การปล่อยข่าวใส่ร้ายป้ายสีเพื่อจัดการลงโทษเอาผิดกับคนและพรรคการเมืองที่คิดว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม ในขณะเดียวกันก็ยกเว้นผิด ละเว้นโทษให้กับพวกพ้องตน โดยไม่ได้คำนึงถึงหลักการทางกฎหมายสากลใด ๆ

“แนวทางการใช้กลไกกฎหมายตาม ‘หลัก (พวก) กู’ ของผู้มีอำนาจ แสดงถึงพัฒนาการอย่างหนาและด้านทน กระทำการเลวร้ายโดยอ้างความมั่นคงของชาติอย่างไม่ละอายใจ ข้ออ้างเหล่านี้ถูกนำมาผลิตซ้ำอีกครั้งในการรัฐประหารปี 2557 ความผิดเพี้ยนของคณะรัฐประหารและเนติบริกรที่ร่วมกันออกแบบรัฐธรรมนูญและการใช้กฎหมายดังกล่าวให้เป็นคุณแก่พรรคและพวกตนเองนั้น วันนี้ได้กลับมาย้อนทำร้ายตัวเอง”

นายภูมิธรรมระบุว่า กรณีกำหนดเวลา 8 ปีของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งยิ่งตอกย้ำชัดเจนในวันนี้ว่า “หมดเวลาของประยุทธ์” แล้ว แต่ก็ยังเห็นการดิ้นรนของคนแวดล้อมประยุทธ์ ที่พยายามบิดพลิ้วให้คืนอำนาจกลับมาอีกครั้ง 16 ปีที่ประเทศไทยเราต้องถอยหลังจมปลักอยู่กับความขัดแย้ง และการใช้อำนาจรัฐซึ่งเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง เป็น 16 ปีของการสูญเสียที่ดึงประเทศให้ล้าหลังและไร้อนาคต

เราไม่ควรเอาอนาคตของประเทศ อนาคตของลูกหลานมาทิ้งไว้กับความพยายามในการปกป้องตัวเอง ของผู้นำที่หวงอำนาจ คิดแต่รักษาผลประโยชน์ของพวกพ้อง ใช้เล่ห์เหลี่ยมหาทางออกให้กับกลุ่มผู้นำที่มาจากรากรัฐประหารโดยไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา

วันนี้แม้ว่าผลพวงของการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จะสะท้อนออกมาให้เห็นถึงความล้มเหลวด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง มาอย่างต่อเนื่อง คนไทยเราหมดหวังกับผลพวงที่เลวร้ายนานเกินไป จากการที่คณะรัฐประหารพยายามแปลงร่างใหม่ ใช้กุศโลบายแบบคิดสั้นมาทำร้ายและกัดกินประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่า


ทว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ จะเป็นช่วงเวลาของการแสดงให้เห็นถึงอำนาจในมือประชาชน ที่จะกำหนดอนาคต และสร้างความหวัง ให้เป็นความจริง รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ครบรอบ 16 ปี เป็นเวลาที่เราต้องเรียนรู้บทเรียน และไม่ปล่อยให้ผู้ลุแก่อำนาจ (ไม่ว่าจะแปลงโฉมแบบใด) มาทำร้ายประเทศและประชาชนได้อีก