ประชาธิปัตย์ ล้างบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ เติมเลือดใหม่ ส.ส.เก่าหนีตายลงเขต

ประชาธิปัตย์

ปรากฏการณ์ “เลือดไหลออก”จากพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยัง “ไม่สะเด็ดน้ำ” มิหน่ำซ้ำ 100 ที่นั่งยังเต็ม-จนล้น จึงเกิดความเคลื่อนไหว-แรงกระเพื่อม “หนีตาย” ลง ส.ส.เขต กัน “ฝุ่นตลบ”

ประกอบกับกติกากาบัตรเลือกตั้งเปลี่ยนไปเป็น “บัตรสองใบ” และจำนวนที่นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลดลง จากเดิม 150 ที่นั่ง เหลือเพียง 100 ที่นั่ง

ยิ่งการเข้ามาของ “ผู้บริหารชุดใหม่” นำโดย “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน “แม่บ้านพรรค”

จึงไม่มีอะไรการันตีว่า จะได้อยู่ในบัญชีรายชื่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ดีพอกลับเข้ามาในสภาหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า

การจัดวางตำแหน่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ “เซฟโซน” ลำดับ 1 ถึงลำดับ 10 ตามโครงสร้างพรรคจัดไว้สำหรับเป็น “ที่นั่ง วี ไอ พี”

ตั๋วรายปี-วาระ หัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค และรองหัวหน้าพรรค กับตั๋วผี สำหรับ “นายทุนพรรค” โดยมีนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ปูชนียบุคคลของพรรคเป็น “ตัวยืน”

สำหรับ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ “เลือดใหม่” ที่ไหลเข้ามายัง “พรรคเก่าแก่” ล่าสุด คือ “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มาเสริมแกร่งในสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานครในครั้งหน้า

นอกจาก “มาดามเดียร์” ที่เหาะเหินมาลงบัญชีปาร์ตี้ลิสต์อันดับต้น ๆ เพื่อการันตีความเป็น ส.ส.ให้สมน้ำสมเนื้อกับภารกิจกอบกู้ซากปรักหักพังในพื้นที่ กทม.แล้ว ยังมี “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่จะมาอยู่ในลิสต์บัญชีรายชื่ออีก 1 คน

ทดแทน “เลือดไหลออก” ที่เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ “บิ๊กเนม” ลาออก-ย้ายพรรค เช่น นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 7 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ลำดับที่ 16 นายอภิชัย เตชะอุบล ลำดับที่ 18 นายวีระชัย วีระเมธีกุล ลำดับที่ 19

นายถวิล ไพรสณฑ์ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 39 นายสุนทร รักษ์รงค์ ลำดับที่ 62 ที่พ่ายแพ้จากการลง ส.ส.นครศรีธรรมราช จนต้องย้ายไปซบพรรคพลังประชารัฐ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ ลำดับที่ 84

สวนทางกับ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ตัวจริง-ตัวสำรอง ที่ต้อง “หนีตาย” เพื่อลงสมัคร ส.ส.เขตในการเลือกตั้งครั้งหน้า และกลายเป็นศึกในพรรคประชาธิปัตย์ จนต้องตัดสินกันที่ “ผลโพล”

ยกตัวอย่างเช่น “ซ้อเจน” ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ที่ถอนสมอจากบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 15 ที่ขอกำหนดอนาคตตัวเอง ลง ส.ส.กาญจนบุรี เขต 5

“สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล” ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 35 ที่พ่ายศึกใน-แพ้ผลโพล ให้กับ “กาญจน์ ตั้งปอง” ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจาก “บ้านใหญ่โล่สถาพรพิพิธ” ชวดเข้ารอบชิงในการเลือกตั้ง ส.ส.ตรัง เขต 4 ครั้งหน้า

รวมถึง “ราเมศ รัตนะเชวง” ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อันดับที่ 36 อาสาเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 ที่ต้องลุ้นผลโพลในนาทีสุดท้าย

“ชนินทร์ รุ่งแสง” ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 54 พื้นที่ถี่ยิบเสนอตัวเป็น ส.ส. กทม.เขตบางกอกน้อย-บางพลัด โดยจะลงไป “รับไม้ต่อ” รัชดา ธนาดิเรก ที่จะขยับขึ้นไปอยู่ในบัญชี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

ปิดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด “แจ็ค” วัชระ เพชรทอง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 46 ที่เคาะประตูทุกบ้านในพื้นที่หนองแขม-บางบอน

“บัตรเลือกพรรค ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เหลือ 100 คน และหารด้วย 100 พรรคใหญ่ก็จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มาก ประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคใหญ่แล้ว เป็นพรรคอันดับ 5 สุดท้ายประชาชนในพื้นที่จะเป็นคนตัดสินใจ” ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่อยู่ระหว่างคิดทบทวนว่าจะย้ายพรรคหรือไม่ เปิดความในใจ

เลือดไหลเข้า-ไหลออกไม่ใช่เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทุกพรรค ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2565 เป็นต้นไป- 180 วัน ก่อนสภาครบวาระ

จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็น “เดดไลน์” ที่จะต้องสังกัดพรรคให้ทันภายในระยะเวลา 90 วัน

“กติกาเลือกตั้งเปลี่ยนเป็นบัตรสองใบ บัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อลดลง จากเดิมในการเลือกตั้งปี’62 จำนวน 150 ที่นั่ง เหลือเพียง 100 ที่นั่ง ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนจึงต้องคิดว่า จะไปอยู่จุดไหนถึงจะได้เป็น ส.ส. วันนี้ทุกพรรคจึงพูดคุยกัน” นักการเมืองรายหนึ่งที่อยู่ในวงทาบทาม-ถูกเชื้อเชิญเป็นสมาชิกบ้านหลังใหม่ระบุ

ส.ส.ที่คิดย้ายพรรคจึงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ยังมีเวลา” และทุกพรรคต่างส่งแมวมอง-ทาบทามเพื่อหา “ผู้เล่น” ที่มีโอกาสเข้าไปเป็นตัวแทนพรรคในสภาผู้ทรงเกียรติ

ทุกวงสนทนาของนักการเมืองนั่งวิเคราะห์-เทียบฟอร์มของนักการเมือง ว่าใครจะย้ายเข้า-ย้ายออกไปพรรคไหน จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2565