ปชป. เปิดตัว 7 ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ หมดทุน หมดตัว ยุบพรรค

ปชป. เปิดตัว 7 ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์

ประชาธิปัตย์ เปิดตัว 7 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ “จุรินทร์” ขอบคุณล่วงหน้าเลือกยกจังหวัด เป็นสมัยที่ 12 ลั่นไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ หมดทุน หมดตัวบุคคล ก็ยุบพรรค

วันที่ 24 กันยายน 2565 ที่โรงแรมบรรจงบุรี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ จัดงาน “รวมพลัง สุราษฎร์ ประชาธิปัตย์ ยกทีม” นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคและรมว.เกษตรและสหกรณ์

พร้อมรองหัวหน้าพรรค ส.ส.และแกนนำพรรค อาทิ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นางพิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรค นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.จังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย 5 ส.ส.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้ง 7 เขต ประกอบด้วย

1.นายภาณุ ศรีบุษยกาญจน์ 2.นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี 3.น.ส. วชิราภรณ์ กาญจนะ 4.นายสินิตย์ เลิศไกร 5.นายสมชาติ ประดิษฐ์พร 6.นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ และ 7.น.ส.ตวงทอง ประดิษฐ์พร

นายจุรินทร์ ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ขอบคุณการต้อนรับที่อบอุ่นอย่างยิ่งในวันนี้ วันนี้ประชาธิปัตย์ยกทัพมาที่สุราษฎร์ธานีบ้านเรา ได้รับเสียงตอบรับดีมาก ร่วมถ่ายรูปตั้งแต่หัวถนนไปถึงท้ายถนนทำให้รู้ว่าเที่ยวหน้าภาณุ นับหนึ่งได้เลยสำหรับสุราษฎร์ธานี

จากนั้นไปเยี่ยมพี่น้องชาวไหหลำที่สมาคมไหหลำ บ้านดอน ก็ได้รับการต้อนรับอบอุ่นจากกรรมการศาลเจ้าและกรรมการสมาคม สาเหตุที่ต้องไปเยี่ยมเป็นเพราะพี่น้องชาวไหหลำสุราษฎร์เรียกร้อง เพราะหัวหน้าพรรค หรือตนเองนั้นก็เป็นคนไหหลำเหมือนกันและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 6 นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ก็เป็นคนไหหลำเช่นกัน เพราะฉะนั้นพวกเรามีแวดวง คนไทยเชื้อสายจีนมากมายที่เป็นเครือข่ายสมัครพรรคพวก และทั้งหมดก็ได้ช่วยกันสนับสนุนพวกเราในทางการเมืองให้เติบโต โตมาจนถึงทุกวันนี้

จุลินทร์ “รวมพลัง สุราษฎร์ ประชาธิปัตย์ ยกทีม”

นายจุรินทร์กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ ต้องยอมรับความจริงว่ากำลังเข้มข้นขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีก 6 วัน ที่จะเกิดเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองขึ้น กล่าวคือศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสถานภาพของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าดำรงตำแหน่งนายกฯ มาครบ 8 ปีแล้วหรือไม่ แต่ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยไปในทางไหน ตนก็มั่นใจว่าการเมืองไทยยังมีทางออกเสมอ และไม่มีทางตันสำหรับการเมืองไทยจากเหตุการณ์ครั้งนี้

“ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นนายกไม่ครบ 8 ปี การเมืองก็เดินหน้าต่อ รัฐบาลก็เดินหน้าก็บริหารราชการแผ่นดินต่อไป แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายกประยุทธ์ถือว่าครบ 8 ปีแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นก็คือทุกคนต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ นั่นคือรัฐบาล ครม. ทั้งคณะต้องนับ 1 ในการที่จะต้องหาตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รัฐสภาก็ต้องหาตัวนายกคนใหม่

โดยเริ่มต้นจากชื่อนายกฯในบัญชีรายชื่อที่ค้างอยู่มาพิจารณาก่อน ถ้าพิจารณาแล้วยังไม่ได้ตัวนายกฯ รัฐธรรมนูญก็ยังเขียนว่าให้เอาคนนอกบัญชีมาได้ แต่ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการขั้นตอนจนกว่าได้ตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และได้รัฐบาลชุดใหม่มาบริหารราชการแผ่นดินต่อไป แต่รัฐบาลชุดใหม่จะมีอายุเท่ารัฐบาลชุดเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 คือมีอายุอีกครึ่งปีโดยประมาณ”นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์กล่าวว่า วันนี้ยังเป็นวันที่สำคัญอีกวัน เพราะเป็นวันที่เริ่มนับหนึ่งของการเลือกตั้ง ซึ่งจากการเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค.62 ได้ก้าวเข้าถึงจุดที่เรียกว่าครบ 3 ปีครึ่ง เหลืออีก 180 วัน หรือ 6 เดือน ก็จะครบวาระ 4 ปี ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันที่นับหนึ่งในการก้าวเข้าสู่ 180 วันก่อนที่รัฐบาลจะครบเทอม ซึ่งทุกพรรคการเมืองผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกคนจะต้องปฏิบัติตามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และตอนนี้ กกต. ก็เริ่มกำหนดกติกาให้พรรคการเมืองจะต้องทำอันนี้อันนั้น เหมือนกับสถานการณ์เลือกตั้งทุกประการ

ดังนั้นทุกพรรคการเมืองก็มีหน้าที่ต้องเดินตามไปตามนั้น ผู้ที่จะเป็นผู้แทน หรือยังเป็นผู้แทนอยู่ ก็ต้องเดินหน้าไปตามนั้น ไม่มีใครไปฝืนได้ และหากฝ่าฝืนก็จะผิดกฎหมายซึ่งจะเป็นปัญหากับตัวเองและพรรคการเมืองที่สังกัด

“สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ตนได้ประกาศไปแล้วว่า ประชาธิปัตย์จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ประชาธิปัตย์ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่น กกต. บอกอะไร ประชาธิปัตย์ก็ต้องทำอย่างนั้น ความจริง ประชาธิปัตย์ขึ้นป้ายขนาดยักษ์ไปแล้ว ประกันรายได้ ทำได้ไวทำได้จริง แต่วันนี้ก็ต้องเอาลง และกำลังทยอยเอาลงเราปฏิบัติตามคำสั่ง กกต. ทุกอย่าง ไม่มีปัญหา ทุกพรรคต้องปฏิบัติเหมือนกันอย่างเท่าเทียม”นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์กล่าวว่า วันนี้ยังเป็นวันสำคัญของประชาธิปัตย์ เพราะพวกเรายกทีมเดินทางมาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดแรก เพราะประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับพี่น้องจังหวัดสุราษฎร์ธานี นับตั้งแต่พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งเมื่อ ปี 2489 เป็นเวลากว่า 76 ปี จนถึงวันนี้มีผู้แทนมาหลายยุคหลายสมัย ซึ่งการเลือกตั้งปี 2500 จังหวัดสุราษฎร์ธานีก็มีผู้แทนจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว คือ นายโชติ วิชัยดิษฐ และนายละออง แสงเดช

มาถึงปี 2518 คนสุราษฎร์ฯ ให้กำเนิดนักการเมืองคุณภาพคนหนึ่งของประเทศคือ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน โดยท่านบัญญัติได้นำประชาธิปัตย์ยกทีมภายใต้การสนับสนุนของคนสุราษฎร์ มาแล้ว 11 ครั้ง จากการเลือกตั้งทั้งหมด 15 ครั้ง มาถึงล่าสุดปี 2562 พี่น้องก็ยังสนับสนุนประชาธิปัตย์ โดยเลือกผู้แทนของเรายกทีมทั้ง 6 คน

“หวังว่าพวกเราจะช่วยกันรวมพลังชาวสุราษฎร์เพื่อหนุนให้ประชาธิปัตย์ยกทีม เป็นครั้งที่ 12 เพราะประชาธิปัตย์ มีความพร้อมทั้งบุคลากร และไม่ได้พร้อมเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ฯ แต่เราพร้อมในหลายพื้นที่ และพร้อมทั้งพรรค พร้อมทั้งคน พร้อมทั้งนโยบาย และพร้อมทั้งผลงาน ที่จะนำมาเสนอกับพี่น้องประชาชนทุกคน” นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์กล่าวอีกด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งมาแล้ว 76 ปี และจะไม่ได้อยู่เท่านี้ ยังต้องอยู่ต่อไป และประชาธิปัตย์ไม่ใช่สถาบันทางการเมืองที่เก่าแก่ แต่เป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืน ชั่วฟ้าดินสลาย เพราะเราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แต่ประชาธิปัตย์ได้พัฒนาตัวเองเพื่อเป็นสถาบันการเมือง และเราไม่ได้ตั้งคนใดคนหนึ่งขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค หรือเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อหมดทุน หมดบารมี หมดตัวบุคคล ก็ยุบพรรค ชาวบ้านก็จะลอยเท้งเต้ง

แต่ประชาธิปัตย์ตั้งขึ้นมาเพื่อรับใช้ประชาชน หากหมดตนไปแล้วก็ไม่ใช่ว่าประชาธิปัตย์จะหมดไป แต่ประชาธิปัตย์จะต้องมีหัวหน้าพรรคคนที่ 9 คนที่ 10 และคนต่อๆ ไป นี่คือสิ่งที่เป็นจุดยืนของพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืน และพี่น้องฝากผีฝากไข้ ฝากอนาคตไว้กับประชาธิปัตย์ได้ ขอบคุณล่วงหน้ากับพี่น้องชาวสุราษฎร์ทุกคน ขอบคุณย้อนหลังที่เลือกประชาธิปัตย์ สุราษฎร์ยกทีมมา 11 สมัย และจะเลือกประชาธิปัตย์ยกทีมอีกเป็นครั้งที่ 12