วิษณุ พร้อมถอย ต่างชาติถือครองที่ดิน มีทั้งหนุน-ต้าน

วิษณุ ยัน ไม่ปรับ ครม.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)

วิษณุ พร้อมปรับแก้ กฎหมายไฟเขียวต่างชาติ 4 กลุ่มถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ ยอมรับมีทั้งหนุน-ต้าน

วันที่ 31 ตุลาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มคนต่างชาติ ที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภท เข้ามาซื้อที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า

แม้ ครม.จะมีมติอนุมัติในหลักการไปแล้ว แต่ยังสามารถมีการทบทวนร่างกฎกระทรวงดังกล่าวได้ จากนี้ ครม.จะต้องส่งไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา และเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วต้องส่งกลับมาที่ ครม.อีกครั้ง ส่วนที่มีการเสนอความคิดเห็นต่าง ๆ เข้ามาก็สามารถเสนอเข้ามาได้

นายวิษณุกล่าวว่า เมื่อใดก็ตามที่มีการพูดถึงเรื่องการให้คนต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินในประเทศไทย จะเป็นปัญหามาตลอด ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน ปี 2531 ต่อมาปี 2545 ก็ได้มีการร่างกฎกระทรวงออกมาในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งกำหนดให้คนต่างชาติที่มีเงินลงทุน 40 ล้านบาทขึ้นไปสามารถเข้ามาซื้อที่ดินได้คนละไม่เกิน 1 ไร่ เพื่อการอยู่อาศัย

นายวิษณุกล่าวว่า รวมถึงมีการกำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2545 มาจนถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นเวลานานพอสมควร หลักเกณฑ์เดิมที่เคยมีในตอนนั้นบางเรื่องถือว่าตึงเกินไป แต่บางเรื่องก็หละหลวมเกินไป เราจึงอยากจำกัดหลักเกณฑ์ผู้ที่มาซื้อที่ดินในประเทศ ว่าไม่ใช่ให้ใครก็ได้เพียงแค่มีเงิน 40 ล้านบาท จึงได้กำหนดกลุ่มคนต่างชาติ 4 ประเภท เพื่อกำหนดคนผู้ได้รับสิทธิ์ให้วงแคบลง

นายวิษณุกล่าวว่า ขณะเดียวกัน มีการเพิ่มเงื่อนไข หรือปรับบางอย่างก็ได้ อย่างไรก็ตาม ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นกันในขณะนี้ บางคนก็เสนอให้มีการเติมเงื่อนไข ซึ่งรัฐบาลยินดีรับไว้พิจารณา อาทิ ข้อเสนอที่ห้ามมีการนำไปขายต่อ ห้ามมิให้ผู้ซื้อที่ดินนำที่ดินมาต่อรวมกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีบางฝ่ายเสนอให้ปรับหลักเกณฑ์ จาก 40 ล้านบาทให้เป็น 100 ล้านบาท นายวิษณุกล่าวว่าตนไม่ทราบ ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาอีกครั้ง รัฐบาลหวังเพียงอยากให้มีคนที่มีศักยภาพเข้ามาลงทุน และคิดว่าข้อกำหนดเรื่องจำนวนเงิน 40 ล้านบาท ก็คิดว่าน่าจะมากพอหากเป็นเรื่องของการก่อสร้าง แต่ถ้าจะไปนับรวมที่ดินกับสิ่งปลูกสร้างก็อาจจะมีการกำหนดโดยแยกรายละเอียดอีกครั้ง ว่าแต่ละส่วนนั้นต้องมีมูลค่าเท่าไหร่ อย่างไร

เมื่อถามว่า หลักเกณฑ์ที่กำหนดว่าจะต้องเป็นผู้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 3 ปี ที่ลดลงมาจาก 5 ปีแล้วนั้น คิดว่าจะต้องกลับไปเป็นตามหลักเกณฑ์เดิมได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่ากำลังดูแนวโน้มจากกรณีของต่างประเทศ ว่าเขามีการลดหย่อนกันอย่างไร

เมื่อถามว่ามีนักธุรกิจบางรายเสนอให้ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแทนเงินบาท นายวิษณุกล่าวว่าตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่า บางฝ่ายแสดงความกังวลเรื่องใช้นอมินี หรือบางคนปลอมแปลงคุณสมบัติตัวเองเพื่อให้เข้าหลักเกณฑ์ เพื่อมีสิทธิ์ซื้อที่ดินในประเทศไทยตามหลักเกณฑ์ของกฎกระทรวงดังกล่าว นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องนอมินีมีมาตั้งแต่ปี 2470 จึงทำให้เกิดปัญหา อาทิ กรณีหญิงไทยมีสามีเป็นชาวต่างชาติ แล้วสามีให้ภรรยาชาวไทยเป็นผู้ซื้อที่ดินแทนด้วยเงินของสามี อย่างนี้ก็เรียกว่านอมินีชนิดหนึ่ง

ถามว่ากฎกระทรวงฉบับปี 2545 มีชาวต่างชาติที่เข้าหลักเกณฑ์มาซื้อที่ดินในไทยเพียง 8 ราย นายวิษณุกล่าวว่า อันที่จริงมีชาวต่างชาติเข้ามาซื้อมากกว่านั้น แต่ที่พบเป็นชิ้นอันรวมแล้ว 100 กว่าตารางวา ส่วนกรณีที่มีการพูดกันว่ามี 8 ราย เป็นกรณีที่มีผู้ซื้อรายละ 1 ไร่ แต่ผู้ที่มาซื้อที่พักอาศัยอยู่ในบ้านจัดสรรพื้นที่เป็น 100 ตารางวานั้น มีจำนวนมากมายเหลือเกิน และที่สำคัญเรื่องของคอนโดมิเนียมก็มีชาวต่างชาติเข้ามาซื้อตั้งนานแล้ว

ถามว่าเกณฑ์ปัจจุบันที่อยู่ในร่างกฎกระทรวงมหาดไทย จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนอมินีได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าเขายังต้องมีการพิจารณาอีกมาก เพราะร่างดังกล่าวเป็นเพียงร่างแรก ทุกครั้งที่เราพูดถึงกันเรื่องขายที่ดินให้ชาวต่างชาติ ก็มักจะมีการพูดถึงเรื่อง ขายชาติ และจะมีอีกฝ่ายออกมาตอบโต้ว่าไม่ใช่การขายชาติ เพราะคนต่างชาติเหล่านั้นก็ไม่สามารถนำที่ดินหนีบรักแร้กลับไปประเทศของเขาได้ จึงมีการเถียงกันอย่างนี้มาตลอด ตนอยู่มาตั้งแต่สมัย พล.อ.ชาติชาย ที่เสนอเรื่องนี้ แต่ในตอนนั้นทำไม่สำเร็จจึงได้เลิกไป จนกระทั่งมาถึงรัฐบาลนายทักษิณก็ทำได้สำเร็จ และบังคับใช้เรื่อยมา การปรับเกณฑ์ก็เพราะอยากให้เพิ่มจำนวนคนซื้อมากขึ้น

ถามว่าหากรัฐบาลเปลี่ยนใจให้พักเรื่องนี้ไปก่อน จะส่งผลอย่างไรหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้มีกระแสต่อต้านมาก นายวิษณุกล่าวว่า ถ้ามีกระแสต้านเข้ามามาก รัฐบาลก็จะนำมาพิจารณา แต่อย่างไรก็ตาม มีทั้งเสียงเรียกร้องและเสียงคัดค้านเรื่องดังกล่าว