ครม.ไฟเขียว แผนกำกับกิจการพลังงาน 5 ปี วงเงิน 5,286 ล้าน

พลังงาน

ครม.ผ่านแผนปฏิบัติการกำกับกิจการพลังงาน ระยะ 5 ปี 2566-2570 วงเงิน 5,286 ล้านบาท ขับเคลื่อนกิจการพลังงานไทยอย่างมั่นคง

วันที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนปฏิบัติการการกำกับกิจการพลังงาน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) และแผนการดำเนินงานงบประมาณรายจ่ายและประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

น.ส.รัชดากล่าวว่า แผนปฏิบัติการการกำกับกิจการพลังงานระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) กรอบวงเงิน 5,286 ล้านบาท เป็นแผนต่อเนื่องจากแผนฉบับเดิมที่จะสิ้นสุดในปี 2565 โดยเป็นกรอบการดำเนินงานของสำนักงาน กกพ. ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ประกอบด้วย 5 วัตถุประสงค์หลัก อาทิ 1.ส่งเสริมให้มีบริการด้านพลังงานอย่างเพียงพอ มีความมั่นคง ทั่วถึง และมีความเป็นธรรมต่อผู้ใช้พลังงานและผู้รับใบอนุญาต

2.ส่งเสริมการแข่งขันในกิจการพลังงานอย่างเป็นธรรม ในอัตราค่าบริการที่เหมาะสม สะท้อนต้นทุนการประกอบกิจการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ และ 3.ปกป้องสิทธิเสรีภาพของผู้ใช้พลังงาน ชุมชนท้องถิ่น ประชาชน และผู้รับใบอนุญาต ในการมีส่วนร่วม เข้าถึง ใช้ และจัดการ ด้านพลังงานภายใต้หลักเกณฑ์ที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

น.ส.รัชดากล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานงบประมาณรายจ่ายและประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงาน กกพ. มีแผนงานและโครงการ อาทิ 1.สนับสนุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทั้งแบบที่เชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า (On-Grid) และในพื้นที่ห่างไกลระบบส่งไฟฟ้า (Off-Grid) ผ่านกองทุนพัฒนาไฟฟ้า 2.ศึกษาและจัดทำแบบจำลองการพยากรณ์ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ และระบบฐานข้อมูลปริมาณความต้องการใช้และปริมาณการจัดหาก๊าซธรรมชาติ

3.สรุปผลการดำเนินโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการด้านพลังงาน (ERC Sandbox) ระยะที่ 2 4.ปรับปรุงมาตรฐานวิศวกรรมความปลอดภัยกิจการก๊าซธรรมชาติ และปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพการให้บริการ 5.พัฒนาระบบการบริหารกองทุนพัฒนาไฟฟ้าด้วยระบบดิจิทัล สำหรับประมาณการรายจ่าย คาดว่าจะมีรายจ่ายจำนวน 1,000.25 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่าย เช่น บุคลากร การจัดการบริหารสำนักงาน งบลงทุน เป็นต้น

ส่วนประมาณการรายได้ คาดว่าจะจัดเก็บรายได้จำนวน 1,000.81 ล้านบาท โดยมาจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการพลังงาน และรายได้อื่น ๆ เช่น ดอกเบี้ยเงินฝาก

น.ส.รัชดากล่าวว่า ที่ประชุมเห็นควรให้สำนักงาน กกพ.ให้ความสำคัญกับการจัดทำฐานข้อมูล แบบจำลองพยากรณ์ รวมทั้งพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการกำกับกิจการพลังงานรูปแบบใหม่ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งควรติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงตลาดพลังงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถกำกับกิจการพลังงานของประเทศให้สอดรับการกับเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ