วิษณุ รายงานความคืบหน้า 2 คดีฉาว แก่ง-อธิบดีกรมอุทยาน

วิษณุ เครืองาม
แฟ้มภาพ : วิษณุ เครืองาม

วิษณุ แจง ครม. มหาดไทยตั้งกรรมการจริยธรรม สอบปลัดเก่ง ยืนยันเด้งอธิบดีกรมอุทยานฯ เข้ากรุทำเนียบ ปกป้องความผิด

วันที่ 10 มกราคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในการที่ใช้ถ้อยคำกับผู้ใต้บังคับบัญชาไม่เหมาะสมว่า ตนได้แจ้งเรื่องของปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ที่ประชุม ครม.ทราบในวันเดียวกันนี้ แล้วว่า ทางกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการ ตามประมวลจริยธรรม ที่ได้กำหนดว่า หากเกิดกรณีลักษณะดังกล่าวต้องให้คณะกรรมการจริยธรรมของกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินการ

ซึ่งคณะกรรมการจริยธรรมของกระทรวงมหาดไทยที่มีนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน กำลังดำเนินการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว หากผลสรุปออกมาว่าเข้าขั้นเป็นความผิดทางวินัย ก็ให้นำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการสอบสวนทางวินัย แต่ถ้าเข้าขั้นเป็นความผิดทางอาญา เช่น หมิ่นประมาท ก็ให้ส่งเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางอาญาต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการสอบสวนจริยธรรมของกระทรวงมหาดไทย จะใช้เวลานานเท่าใด นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีกำหนด ส่วนโทษจะมีอย่างไรขึ้นอยู่กับผลการสอบของคณะกรรมการว่าจะระบุให้ดำเนินการลงโทษอย่างไร เพราะอาจเป็นเพียงการตำหนิก็ได้

เมื่อถามว่าถือเป็นการตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมขึ้นมาเพื่อแก้เกี้ยวหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่การแก้เกี้ยว เพราะกรรมการจริยธรรมของกระทรวงมหาดไทยมีมานานแล้ว

นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีการสอบสวน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้เข้ามาช่วยราชการในทำเนียบรัฐบาล ว่า นายรัชฎาได้มารายงานตัวต่อปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ขอลา การที่มีคำสั่งให้นายรัชฏา มาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลนั้นไม่ได้เป็นการปกป้องแต่อย่างใด

“ไม่ใช่การคุ้มครอง หรือทำให้นายรัชฎา พ้นจากอำนาจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะเขายังดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมอุทยานฯ อยู่ในอำนาจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทุกประการ การย้ายให้มาอยู่ทำเนียบก็เพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหลักฐาน หรือพยานบุคคล จนทำให้พยานเกิดความหวาดกลัว” นายวิษณุกล่าว


นายวิษณุกล่าวว่า ขณะเดียวกัน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และเมื่อพบว่ามีมูลก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง โดยมีรองปลัดกระทรวง ทส.เป็นประธาน หากมีผลสรุปออกมาว่ามีความผิดอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามระเบียบ เช่น ไล่ออก ปลดออก แต่ในเรื่องการดำเนินคดีอาญากรณีทุจริตนั้น ทาง ป.ป.ช., ป.ป.ท. สามารถใช้อำนาจตามกฏหมายของหน่วยงานนั้นดำเนินการได้ตามปกติ เช่นเดียวกับกรณีทุจริตอื่นทั่วไป