ประวิตรชูนโยบายบัตรประชารัฐ เดือนละ 700 บาท ถ้าได้จัดตั้งรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ประวิตรชูนโยบายบัตรประชารัฐ เดือนละ 700 บาท ลุยใช้ทันทีหากประชาชนไว้ใจเลือก พปชร.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

วันที่ 17 มกราคม 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดนโยบายหลักของพรรค และนโยบายบัตรประชารัฐ เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง โดยมีคณะผู้บริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จากการที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและบริหารประเทศมาเกือบ 4 ปี ด้วยอุดมการณ์และนโยบายของพรรคที่ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ เป็นประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพไร้ความขัดแย้งสังคมสงบสุข ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

และในช่วงที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ขับเคลื่อนนโยบายของพรรค และมีผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชน ทั้งในทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายของพรรค ในเรื่องการสร้างสวัสดิการประชารัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การบริหารจัดการน้ำ การจัดที่ดินทำกิน การปราบปรามการค้ามนุษย์ อุตสาหกรรมประมง และอื่น ๆ ที่มากมาย

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ความหวังของคนไทย ที่รอคอยให้คนที่มีความพร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับคนไทย คือ สังคมไทยยังคงมีแตกแยกทางความคิด แต่ขอยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐพร้อมสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าสร้างพลังแห่งความปรองดองและสามัคคี โดยเราพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยทุกคน โดยประเทศไทยของเราต้องมีแต่ความสงบสุข

“การเลือกตั้งที่จะมาถึง ผมขอนำเสนอบุคลากรของพรรคที่มีคุณภาพ และเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนได้อย่างถ่องแท้ เพราะเราเข้าใจว่าในความต้องการของแต่ละพื้นที่ และพร้อมอาสาเข้ามาเป็นผู้แทนในการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาประเทศให้เกิดความยั่งยืน

โดยทางพรรคพร้อมสานต่อนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ที่ได้ทำไว้ และริเริ่มนโยบายใหม่ ๆ ให้คนไทยได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะตอบสนองและแก้ไข ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทุกพื้นที่ทุกเพศทุกวัย ด้วยคำว่า พลัง สามัคคี ประชามีสุข รัฐพลิกโฉมบริการ” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้ประกาศพร้อมเดินหน้าการจัดทำนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ให้กับประชาชน และพร้อมเริ่มมีผลทันทีหลังจากที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ด้านนายสันติกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐได้ดำเนินการบัตรประชารัฐมาเป็นระยะเวลา 4 ปี เพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับฐานราก และกลุ่มเปาะบาง โดยในปี 2566 จะมีประมาณ 18 ล้านคน ถือเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ โดยพลเอกประวิตรมองว่าจำนวนเงิน 200-300 บาทต่อเดือน ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และยังไม่ครอบคลุมค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน เพราะในแต่ละพื้นที่มีสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่แตกต่างกัน

นายสันติกล่าวว่า ดังนั้นเสียงสะท้อนจากผู้ได้รับสิทธิว่า ที่นำไปใช้จ่ายในครัวเรือน โดยเฉพาะในการซื้อเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น ทำให้ประเมินว่า ควรมีการเพิ่มเงินช่วยเหลืออีกประมาณ 500 บาท ทำให้พี่น้องประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้ว่าเงินที่ได้รับอาจจะไม่เพียงพอที่จะนำไปแก้ไขปัญหาได้ครอบคลุมในทุกด้าน สอดรับกับการจัดสรรงบประมาณที่ช่วยเหลือประชาชนเพิ่มขึ้น

โดยในส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐ จะนำมาจากงบประมาณในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ของงบประมาณปี 2566 หลังจากได้รับเลือกตั้ง ทั้งนี้หากมีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 18 ล้านคน คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือปีละ 1.5 แสนล้านบาท

“ประชาชนจะได้รับเงินเยียวยา ช่วยเหลือ เดือนละ 700 บาท ทันทีหลังจากที่พรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจ จากพี่น้องประชาชนให้เข้าไปบริหารประเทศ” นายสันติกล่าว