การเมือง

มิ่งขวัญยังมีใจให้พลังประชารัฐ ปักธงส่งประวิตรเป็นนายกฯ

มิ่งขวัญ แถลง เปิดใจ ขอตำแหน่ง แคนดิเดตฯนายกฯ พลังประชารัฐ
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แถลงเปิดใจร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ

มิ่งขวัญเสวนา หาเรื่องเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกฯ เปลี่ยนประเทศ ไม่ตกรถเมล์เที่ยวสุดท้าย ส่งประวิตรเป็นนายกฯคนที่ 30

วันที่ 31 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ กล่าวเสวนาในหัวข้อ “Thailand in Spinning World ประเทศไทยในวันที่โลกหมุนเร็ว” ถึงแนวทางเศรษฐกิจไทย ในงานระดมทุน “พลังประชารัฐ ใจบันดาลแรง” ของพรรคพลังประชารัฐ ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอกแอนด์คอนเวนชั่น เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 ว่า

ก่อนขึ้นเวที ผู้จัดงานห้ามให้ตนพูดหาเสียง เมื่อไม่ให้ตนพูดหาเสียง ตนก็จะหาเรื่องเปลี่ยนรัฐบาล ที่สำคัญหาเรื่องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี ถามว่าจะเปลี่ยนอย่างไร ชื่อหัวข้อบอกแล้วว่า โลกหมุนเร็ว ประเทศไทยหมุนทันหรือไม่

นายมิ่งขวัญกล่าวว่า หลายคนที่มาในงานระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐในวันนี้เป็นรัฐมนตรีหลายคน หรือเป็นอดีตรัฐมนตรี เชื่อหรือไม่ว่าวันนี้เรากำลังเปลี่ยน พ.ศ.ใหม่ เพื่อก้าวเข้าสู่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13

มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์

“ผมขออนุญาตแซวไปยังพรรคการเมืองบางพรรคที่ผมสนิทและคุ้นเคย การตั้งไว้ว่าปี 2570 จะได้เงินเดือน 25,000 บาท ผมก็เอ๊ะ เอาสูตรที่ไหนมาคำนวณ กลายเป็นว่าตัวเลขรายได้ของคนไทยในปี 2570 จะอยู่ 25,000 บาท อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ปรบมือให้พรรคการเมืองพรรคนั้นหน่อยครับ” นายมิ่งขวัญกล่าวและว่า

“60 ปีผ่านไป จากแผนพัฒนาฯฉบับที่ 1 (2504) จนถึงแผนพัฒนาฯฉบับที่ 12 ประเทศไทยไม่เคยไปถึงเป้าหมายนั้นเลย เพราะฉะนั้นจุดเดียวครับ เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี แล้วทำให้แผนพัฒนาฯฉบับที่ 13 หมุนทันโลกให้ได้” นายมิ่งขวัญกล่าว

นายมิ่งขวัญกล่าวว่า ประเทศที่จะเจริญ องค์กรที่จะเจริญ ต้องมีวิสัยทัศน์ และผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ เจตนาการต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางดีและทางบวก จีนมีวิสัยทัศน์และชาญฉลาด ประเทศมีนโยบายให้คนมีลูก ญี่ปุ่นพลิกวิกฤตน้ำมันให้เป็นโอกาส เกาหลีมีซอฟต์พาวเวอร์ ปฏิวัติวงการอุตสาหกรรม โทรทัศน์เป็นโทรทัศน์จอแบน ตนกำลังจะบอกว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นบางทีจุดเปลี่ยนแค่นิดเดียว เปลี่ยนโลกได้ เปลี่ยนประเทศได้

“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานโอลิมปิคไทย ท่านกำลังทำให้มวยไทยเป็นกีฬาโอลิมปิกของโลก ถ้าทำฝันนั้นสัมฤทธิ์ วันนี้สตูดิโอมวยไทยทั้งโลกมีอยู่ 6,000 แห่ง จะเพิ่มเป็นหมื่น 2 หมื่น 3 หมื่น ขอเสียงปรบมือให้ท่านหน่อยสิครับ ท่านกำลังผลักดันให้กีฬามวยไทยเป็นกีฬามาตรฐานโอลิมปิก” นายมิ่งขวัญกล่าว

นายมิ่งขวัญกล่าวว่า กลับมาประเทศไทย วันที่หลายคนคิดว่าโชคดีที่สุด ตนต้องบอกว่าอนิจจาที่ประเทศไทยได้นายกรัฐมนตรีและวิธีคิดที่ไม่ทันโลก ไม่ทันเหตุการณ์ คือวันที่ 1 มกราคม 2559 เราไปลงนามอาเซียนเป็นหนึ่งเดียว ทุกคนเป็นหนึ่งหมด ไปลงทุนในเวียดนามได้ ไปลงทุนที่ลาว กัมพูชา สปป.ลาวได้หมด

“รู้ไหมเกิดอะไรขึ้น โรงงานอุตสาหกรรมไหลออกจากประเทศไทยแบบถล่มทลาย แล้ววันนี้เราจะขึ้นค่าแรงไหวเหรอ ไม่ขึ้นค่าแรงก็อยู่กันไม่ได้ จุดตายของเราคือพลังงาน ประเทศไทยจะเจ๊ง เพราะพลังงาน จะรวยเพราะพลังงาน จะเกิดก็เพราะพลังงาน ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่” นายมิ่งขวัญกล่าว

นายมิ่งขวัญกล่าวว่า ตัวเลขล่าสุด รัฐบาลปัจจุบันได้ออกมาแถลงผลประกอบการของประเทศไทยในรอบปี 2565 อัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 24 ปี หรือย้อนกลับไปในปี 2541 ฟองสบู่แตก แปลว่าก๋วยเตี๋ยวชามละ 100 บาท และอาจจะเป็น 150 บาท ไฟฟ้าขึ้น วันนี้ไฟฟ้าจาก 2.50 บาท เป็น 6 บาท น้ำมันขึ้น

“ผมเป็นห่วงอยู่อย่างเดียว ถ้าเรายังนิ่งเฉยและยังคงไปตามแผนพัฒนาฯฉบับที่ 13 เราจะหมุนตามไม่ทันโลก อย่าว่าแต่จะทิ้งใครไว้ข้างหลังเลย คุณตกรถเมล์เที่ยวสุดท้าย เป็นความน่ากลัวที่สุดที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย เตรียมตัวครับ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือน เราพอจะคาดเดาได้ว่าเดือนพฤษภาคมจะมีเลือกตั้ง เมื่อปีเลือกตั้ง ผมอยากจะกราบ เพื่อเห็นแก่ลูกหลานรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อไป 2 ประโยคครับ เปลี่ยนรัฐบาลครับ เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีครับ และเปลี่ยนวิสัยทัศน์เพื่อให้ทันและหมุนตามโลก” นายมิ่งขวัญกล่าวและว่า

“วิสัยทัศน์คือการเปลี่ยนแปลงจินตนาการ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ต้องมีรสนิยม ท่านคิดอะไรเชย ๆ โคตรเชย ท่านก็จะพ่ายแพ้ ก้าวออกมาจากกรอบเดิม ออกมาจากวิสัยทัศน์เดิม ๆ แล้วเป็นประเทศไทยในยุคใหม่ 2566 โดยนายกรัฐมนตรีคนใหม่” นายมิ่งขวัญทิ้งท้าย

นายมิ่งขวัญกล่าวอีกรอบว่า จากประสบการณ์ของตน ผู้ชายคนที่เหมาะที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และในการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม พวกเราจะส่งและเป็นฐานทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศให้ได้