อุตตม-สนธิรัตน์ ซบพลังประชารัฐ สมคิด กุนซือ ไม่ติดใจรอยแค้นในอดีต

อุตตม-สนธิรัตน์ ซบ พลังประชารัฐ

อุตตม-สนธิรัตน์ เปิดตัว กลับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ติดใจเรื่องบาดหมางในอดีต เผย สมคิด ให้คำปรึกษา สันติ ปักธง ส.ส.150 ที่นั่ง ชู ประวิตร นายกฯคนที่ 30

วันที่ 30 มกราคม 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค พรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าวต้อนรับและเปิดตัว นายอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐในโอกาสการเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ

พล.อ.ประวิตร กล่าวต้อนรับว่า วันนี้เป็นวันที่น่ายินดีที่พรรค พปชร. ได้ต้อนรับ 2 หัวหน้าพรรคการเมืองอย่าง พรรครวมแผ่นดิน และพรรคสร้างอนาคตไทย รวมถึงเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ถือเป็นเกียรติให้กับพรรค พปชร. เป็นอย่างยิ่ง ตนเป็นคนพูดไม่เก่ง แต่เป็นคนฟังเก่ง และฟังรู้เรื่องด้วย อยากจะฝากบอกกับทุกคนว่า ภาพลักษณ์ของเราวันนี้เป็นพรรคที่เราสามารถร่วมงานกันกับทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยทั้งสามท่านก็จะเข้ามาช่วยพรรคพลังประชารัฐในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อจะให้พรรคมีความเข้มแข็ง เราต้องขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจในวันนี้ด้วย

“พลังประชารัฐได้บุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และมีคุณภาพ โดยท่านอุตตมและท่านสนธิรัตน์ จะมาดูแลทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง ส่วนพลเอกวิชญ์ ก็จะช่วยงานทั้งพรรค โดยจะไม่มีการแต่งตั้งใครเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เพราะภายในพรรคพลังประชารัฐมีงานให้ทำเยอะ และเศรษฐกิจมีหลายด้าน หลายมิติ ที่จะทำให้ประชาชนผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย และขจัดความเหลื่อมล้ำต่าง ๆ คุณภาพชีวิตคนไทยจะต้องดีขึ้น ถ้าพรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจจากประชาชน” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ด้านนายอุตตมกล่าวว่า ตนต้องขอขอบพระคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ได้เชิญชวนพวกตนมาทำงานด้วยกันในเวลาที่ประเทศชาติต้องการการเดินหน้า ตนเคยทำงานการเมืองมาสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การสร้างความปองดอง โดยท่าน พล.อ.ประวิตร ได้แสดงอุดมการณ์ที่ชัดเจนว่าต้องการรวบรวมทุกคนจากหลาย ๆ ฝ่ายมาทำงานด้วยกัน ตนและเพื่อน ๆ ก็ถือว่าได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากทุกคนในพรรค พปชร. ที่ได้เข้ามาร่วมงานกันเพื่อบ้านเมืองในขณะนี้

“การก้าวกลับมาพรรคพลังประชารัฐ พวกผมก็ได้ปรึกษากับอาจารย์สมคิด ท่านก็ยินดี ท่านบอกว่า ตราบใดที่เป็นการมาช่วยกันแล้วทำให้ประเทศชาติเดินไปได้ ปรองดอง ลบความขัดแย้ง ท่านยินดีและสนับสนุน ความสัมพันธ์ก็ยังเหมือนเดิม เราขอคำปรึกษามาโดยตลอด” นายอุตตมกล่าว

นายอุตตมกล่าวว่า ถือว่าเป็นสมาชิกเก่าในบ้านพรรค พปชร. ที่เคยร่วมสร้างพรรคมา ซึ่งมีนโยบายที่สำคัญต่าง ๆ เช่น บัตรประชารัฐ ที่เราเคยร่วมกันคิดและผลักดัน วันนี้ผมเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราได้เคยมาทำครั้งหนึ่ง และเราก็จะได้เข้ามาทำต่อ เพื่อที่จะทำให้งานสมบูรณ์ที่สุด พล.อ.ประวิตร ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า ท่านจะขับเคลื่อนนโยบายของประชารัฐ ซึ่งพวกผมก็ยินดีที่จะมาทำงานร่วมกับผู้ที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน เพราะวันนี้การเมืองก้าวข้ามความขัดแย้งได้แล้วโดยผมขอยืนยันว่าการเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ ไม่ได้มีการดิวในเรื่องของตำแหน่งภายหลังการเลือกตั้งอย่างแน่นอน”

“ท่านหัวหน้าพรรคพูดแล้ว วันนี้เป็นเรื่องของการก้าวข้ามความขัดแย้ง เรามาช่วยกันสร้างความปรองดอง ไม่มีอะไรติดใจ ตอนพวกผมเดินออกก็ไม่ได้มีความขัดแย้ง ความเห็นต่าง เข้าใจไม่ตรงกัน คลาดเคลื่อนกันบ้าง ธรรมดามาก เกิดขึ้นได้ในวงการเมือง แต่วันนี้ถ้าเราตั้งใจพร้อมกันแล้วว่า มาทำด้วยกันเถอะ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น” นายอุตตมกล่าว

ด้านนายสนธิรัตน์กล่าวว่า ขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วันนี้เหมือนได้กลับบ้านเก่า ทุกคนรู้จัก คุ้นเคยร่วมทำงานด้วยกันมา ตนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาร่วมงานกับ พล.อ.ประวิตร และผู้บริหารพรรค รวมถึงสมาชิกพรรคอีกครั้งหนึ่ง ตนคิดว่าการกลับมาของพวกตน คือหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ประเทศไทยต้องการ วันนี้การเมืองอ่อนแอ เราต้องกลับมาทำให้เกิดความเข้มแข็งในสถาบันทางการเมือง ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของประเทศให้ได้

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยถือว่า อยู่ในช่วงวิกฤตจากปัจจัยรอบด้านทั้งเรื่องโควิด และปัญหาพลังงาน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งนี้ ถือว่าสอดรับกับนโยบายของ พล.อ.ประวิตร ที่จะระดมทุกคนเข้ามาช่วยระดมความคิด เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนและประเทศชาติ

“เรากลับเข้ามาพรรคพลังประชารัฐด้วยความเต็มใจ ตั้งใจ ที่ผ่านมาเราเจรจากับพรรคการเมืองต่าง ๆ ก็ด้วยอุดมการณ์ว่าทำอย่างไรสถาบันการเมืองเข้มแข็ง แต่องค์ประกบการเมืองขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส เราโชคดี เหมือนคนเคยอยู่ด้วยกัน จึงร่วมงานกันด้วยความสบายใจ อยู่ร่วมกันได้” นายสนธิรัตน์กล่าว

พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ตนอยู่กับ พล.อ.ประวิตร มายาวนานกว่า 40 ปี พล.อ.ประวิตร ถือว่าเป็นผู้นำที่มีความเด่นชัดมากที่สุดในการเมืองวันนี้ การที่ พปชร.มี พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค จะนำพาเราไปสู่จุดมุ่งหมาย และความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทยที่จะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก ตนขอขอบพระคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ได้เชิญชวนตนเข้ามาร่วมงาน และตนยินดีอย่างยิ่งที่จะทำให้พรรคเดินไปข้างหน้า และเราจะเป็นรัฐบาลด้วย

นายสันติกล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคตั้งเป้าจะได้ ส.ส.เข้าไปเป็นตัวแทนประชาชนไม่น้อยกว่า 150 ที่นั่ง วันนี้พรรคมีทั้งผู้อาวุโสและคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจจะเข้ามาพัฒนาบ้านเมืองให้พี่น้องคนไทยกินดีอยู่ดี มีงานทำ โดยจะมีอีกหลายท่านที่จะเข้ามาร่วมอุดมการณ์กับเราด้วย โดยเราจะร่วมใจกันพัฒนาประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข และเราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหาและเราจะพัฒนาทุกพื้นที่โดยไม่แบ่งแยก เราจะไม่มีทางทิ้งพี่น้องประชาชนในชนบททุก ๆ พื้นที่ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร มีความตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะดูแลพี่น้องประชาชน