แพทองธาร ชูนโยบายเพื่อไทย ทุกครอบครัวรายได้ไม่น้อยกว่า 2 หมื่น

แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร

อุ๊งอิ๊ง เพื่อไทย ประกาศนโยบายเลิกจน ให้ครอบครัวมีรายได้ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นต่อเดือน ยกระดับเศรษฐกิจ ปั้นไทยเป็นฮับฟินเทคอาเซียน

วันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคเพื่อไทย จัดงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม แถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมชุดใหม่ของพรรคเพื่อไทย ว่าหลังจากรัฐประหาร 2549 จนถึง 2557 ประเทศขาดการต่อเนื่องจากการบริหารอย่างมียุทธศาสตร์ และคนที่เสียเปรียบที่สุดคือคนเจน Z พอเรียนจบไม่ทันไรก็เข้าสู่โควิด-19 มีสงครามยูเครน-รัสเซีย ความขัดแย้งระหว่างจีนกับรัสเซีย

รัฐบาล 8 ปีที่ผ่านมา เป็นแบบวันต่อวันไม่เข้าใจความทุกข์ยากของประชาชนอย่างแท้จริง ปัญหาจึงสะสมมาเรื่อย ๆ ไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากหนี้ของประเทศ ยังมีหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ต้องกู้ยืมทั้งในระบบและนอกระบบ ยังไม่นับช่องว่างของรายได้สูงมากเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก ถ้าเราไม่คิดใหญ่ เอาไม่อยู่จริง ๆ

นโยบายแรกที่จะลดช่องว่างของรายได้ อัตราการเติบโตของรายได้คนไทยต่อหัวโตช้าที่สุดในอาเซียน ยกเว้นบรูไน เราโตเพียง 1% เวียดนามโต 4.7% มีอัตราโตน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ ทำให้คนไทยมีรายได้น้อย แม้จะมีการลงทะเบียนคนจน รัฐจ่ายชดเชย แต่คนไทยไม่มีข้าวดี ๆ น้ำสะอาดกิน พรรคเพื่อไทยทนไม่ได้ ที่ทำให้คนไทยไม่มีเกียรติ ไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อยู่อย่างแร้นแค้น

จีดีพีของประเทศไม่ขยับขึ้น ดังนั้น เรามีนโยบายที่จะอุ้มเขาขึ้น ทั้งค่าแรง 600 บาท และนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ และเราจะเริ่มช่วยเหลือทันที สำรวจครอบครัวที่มีรายได้น้อยกว่า 2 หมื่นบาท เราจะช่วยเหลือทันที เพื่อทำให้การบริโภค และการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ยกระดับจีดีพีทั้งประเทศ เงินที่จะใช้ก็มาจากภาษีที่รัฐเก็บได้มากขึ้น

“เราจะมีบล็อกเชนประเทศไทย และฟินเทคฮับเซ็นเตอร์ของอาเซียน ถ้าเราไม่เริ่มทำเรื่องนี้ในวันนี้ที่เราเป็นอำนาจรัฐบาล เราก็ต้องพึ่งพาคนอื่นต่อไป เป็นประเทศที่พัฒนาช้าต่อไป” น.ส.แพทองธารกล่าว

บีบโรงงานน้ำตาลไถกลบแทนเผา

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า PM 2.5 เราจะลดระดับความอันตรายให้เร็วที่สุด เราจะต้องแก้ไขปัญหาเผาป่า ทำไร่เลื่อนลอย ต้องเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านให้ชัดเจน เพราะเขาประสบปัญหาเช่นเดียวกับเรา จะช่วยเหลือกันและกันในการแก้ปัญหา เราจะเชิญชวนไม่ให้เกษตรกรเผาตอข้าว ด้วยการให้ชลประทานปล่อยน้ำหลังเก็บเกี่ยวให้ตอข้าวเน่า ย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย เราจะให้โรงงานน้ำตาล ลงทุนตัดอ้อยและไถกลบแทนการเผา

เราจะออกกฎหมายจำกัดควันพิษเพื่อให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และลดมลภาวะลง จากนี้จะเข้าสู่การใช้รถแบบไม่ปล่อยควันพิษ ไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมกับจูงใจการใช้รถไฟฟ้าด้วยการใช้เรื่องของภาษีจูงใจ เปลี่ยนเครื่องจักรที่ปล่อยมลภาวะ เอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้หมดไปอย่างรวดเร็ว

“การเลือกตั้งคือการแข่งขัน ความจริงใจที่ท่านพร้อมที่จะทำเพื่อประชาชนด้วยหัวใจที่แท้จริง ถ้าเราไม่เอาความไว้ใจ ความจริงใจเข้าแลก ประชาชนจะรับรู้สิ่งเหล่านี้ได้ และเราจะไม่ชนะการเลือกตั้ง ขอให้ทุก ๆ ท่านได้ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ชนะใจของประชาชนอย่างมากมาย ขอให้ประเทศไทยมีพรรคเพื่อไทยที่จริงใจรักประชาชนอย่างแท้จริง มาดูแลชีวิตประชาชนทุก ๆ คน และเราจะมาร่วมกันแก้ปัญหาที่สะสม 8 ปีให้เบาบาง และหายไปในที่สุด” น.ส.แพทองธารกล่าว