สุชาติ ตันเจริญ กลับบ้านเก่า ดันเพื่อไทยแลนด์สไลด์คุมเกมโหวตนายกฯ

นับเป็นการกลับบ้านเก่าพรรคเพื่อไทย อีกหน ของ “สุชาติ ตันเจริญ” อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ตำแหน่งมาจากการรวมเสียงข้างมากของรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ

แต่นาทีนี้ “สุชาติ” ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแกนนำพรรคเพื่อไทยที่มาต้อนรับเขากลับบ้านเพื่อไทย เมื่อช่วงสายของวันที่ 29 มีนาคม 2566

ก่อนจะยกขบวนขึ้นไปถ่ายรูปสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมกับทำ “คอนเทนต์” โซเชียลมีเดียกันเล็กน้อย

ตามประวัตรการเมือง “สุชาติ” ในฐานะเจ้าของกลุ่ม “บ้านริมน้ำ” หรือ “กลุ่มพ่อมดดำ” เคยเป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แต่ด้วยพิษของการยุบพรรคการเมืองเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2550 ทำให้เขาต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมืองทางตรงไปนาน 5 ปี

แต่หลังจากพรรคไทยรักไทยถูกยุบ “สุชาติ” และพันธมิตรการเมือง ก็ไปรวมตัวอยู่ในพรรคเพื่อแผ่นดิน และในเดือนพฤษภาคม 2554 กลุ่มบ้านริมน้ำ ของ “สุชาติ” ก็โคจรจากพรรคเพื่อแผ่นดิน ไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554

เวลาผ่านไป ผ่านช่วงรัฐประหาร 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจคืนอำนาจ จัดการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 กลุ่มบ้านริมน้ำของ “สุชาติ” เป็นกลุ่มการเมืองหนึ่งที่ผนึกกำลัง กำเนิดเป็นพรรคพลังประชารัฐ และเขามีตำแหน่งแห่งหนเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร นาน 4 ปี กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภา

การกลับบ้านหลังเก่าพรรคเพื่อไทย “สุชาติ” บอกว่า ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะกลับมาบ้านเก่า เคยเป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แต่ถูกเว้นวรรคไปสองสมัย จึงต้องไปดิ้นรนกว่าจะหาทางกลับบ้านถูก เดินกลับบ้านไม่ค่อยถูก ได้ลูกบังเกิดเกล้าบังคับมา ตอนแรกจะให้นายคชาภา (มดดำ) ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขาก็ไม่ยอม จึงเอานายศักดิ์ชาย ลงแทน เพราะพรรคเพื่อไทย ต้องการคนรุ่นใหม่มาทำการเมือง

“เวลาไปปราศรัยในภาคตะวันออกชาวบ้านถามว่าจะลงพรรคไหน เลือกตั้งมา 10 สมัย ใส่ชื่อพรรค แปะเบอร์เลือกตั้งให้เขาเลือก รอบนี้ให้ชาวบ้านบอกอยู่พรรคไหน คำตอบที่ได้ คืออยู่พรรคไหนก็ได้ แต่อย่าอยู่พรรค (พรรคพลังประชารัฐ) เดิม เพราะนโยบายที่ปราศรัยหาเสียงไว้ 8-9 ข้อ ไม่ได้ทำซักข้อเลย อย่ามาโกหกเขาอีกเลย ขืนอยู่ก็ไม่เลือกอีกแล้ว ถ้าให้ดีไปพรรคเพื่อไทย”

“การกลับมาทำการเมืองร่วมกับพรรคที่เป็นไปได้ เป็นตัวตั้งตัวตีที่ใช้นโยบายนำ แล้วทำได้จริง ประชาชนชื่นชอบ ครั้งนี้แลนด์สไลด์ไม่ใช่แค่การหาเสียง แต่ทำได้จริง เพราะประชาชนเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง เบื่อเพลงเราจะทำตามสัญญา”

สุชาติตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ 310 เสียง นายสุชาติจะมีโอกาสขึ้นบัลลังก์ประธานสภาอีกครั้งหรือไม่ นายสุชาติกล่าวตอบทีเล่นทีจริงว่า “ให้เป็นรัฐมนตรีบ้างได้ไหม”

หลังม่านการเปิดตัว “สุชาติ” รับภารกิจสำคัญ 2 ภารกิจ

หนึ่งดูแลพื้นที่เลือกตั้งให้กับพรรคเพื่อไทย ในโซนภาคตะวันออก สำหรับ “ชลบุรี” ปล่อยให้ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” รับผิดชอบ แต่ “สุชาติ” รับผิดชอบโซนที่เหลือ ประกอบด้วย ราชบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เป็นหลัก รวมถึงบางเขตในจังหวัดฉะเชิงเทรา

อีกภารกิจหนึ่งคือ ชอร์ตหลังการเลือกตั้ง หากพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แม้จะไม่แลนด์สไลด์ 310 เสียง สิ่งแรกที่พรรคเพื่อไทย จะต้องปฏิบัติการในฝ่ายนิติบัญญัติคือ เปิดเกมชิงเก้าอี้ “ประธานรัฐสภา” เพื่อคุมเกมในการโหวตนายกรัฐมนตรี

เพราะหมวกอีกใบของประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็คือ ประธานวุฒิสภา หากได้พรรคเพื่อไทย ยึดกุมเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร เกมการเมืองในฝ่ายนิติบัญญัติ อันเป็นฝ่ายถ่วงดุลฝ่ายบริหารก็อยู่ในมือ หากฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย มีสิทธิอยู่ได้ไม่นานก็ต้องพังครืน

และ “สุชาติ” คือคนที่จะเข้าชิงประธานสภาผู้แทนราษฎรหลังการเลือกตั้ง

ทั้ง 2 ภารกิจถูกกำหนดไว้แล้ว