รับสมัคร ส.ส.วันแรกสุดคึกคัก บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม นั่งคู่กันตอนจับหมายเลข อุ๊งอิ๊ง ได้ทุกเบอร์ขอแค่ประชาชนจำได้
วันที่ 3 เมษายน 2566 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพ (ไทย-ญี่ปุ่น) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง กรุงเทพมหานคร วันแรก
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน จัดโปรฯเด็ดเงินฝากดอกเบี้ย 21% สลาก 1 ปี แจกทอง 10 กิโล
โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเวลา 06.30 น. บรรดาแกนนำและว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง กรุงเทพมหานคร (กทม.) จากพรรคการเมืองต่าง ๆ พร้อมด้วยกองเชียร์และผู้สนับสนุนแต่ละพรรค ต่างเดินทางมาให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองจนแน่นขนัด
พรรคเพื่อไทย นัดรวมตัวกันที่พรรคเพื่อไทย ก่อนนั่งรถบัสอีวีมายังอาคารกีฬาเวสน์ 2 เช่นเดียวกับพรรคไทยสร้างไทย พรรคพลังประชารัฐ ที่นั่งรถอีวีมาเช่นกัน ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ นำทัพพรรครวมไทยสร้างชาติมาสมัครด้วยตนเอง
เช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค เดินทางมาสมทบกับผู้สมัคร ส.ส.กทม. ที่นำด้วย นายสกลธี ภัทธิยกุล และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์
ทั้งนี้ บรรดาแกนนำพรรคการเมืองต่างให้สัมภาษณ์ ก่อนการเข้าสู่กระบวนการการจับสลากหมายเลข ส.ส.เขต
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ก็โอเคนะ แต่ตอนนี้ยังเหลือปัญหาอยู่ก็ต้องทำให้เสร็จไป ซึ่งกองเชียร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติในวันนี้ก็คึกคักดี และก็ได้ให้กำลังใจกันทุกวัน โดยได้ให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.กทม.ว่า ก็ขอให้ทำให้ดีที่สุด แล้วก็ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”
ที่มาวันนี้ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้มีสื่อหลายสื่อ ตนไม่สามารถขึ้นทุกเวทีได้ แต่ตนฝากไปทุกสื่อเราต้องรวมพลังชาติของเรา ประชาชนของเราให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้ได้ ไม่ใช่เฉพาะการเลือกตั้ง ไม่ใช่ต้องจะเลือกตน แต่รวมใจคนไทยทั้งหมดให้นึกถึงชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน นั่นคือเป้าหมายของเราทุกคน
ทั้งสื่อและประชาชน คนทุกรุ่นทุกวัย ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ภายในวันเดียว หรือพลิกฝ่ามือไม่มีทางเป็นไปได้ ตนยืนยันตรงนี้ อยู่มาหลายปี รู้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ และที่สำคัญอยู่และได้ทำต่อ เพราะเราทำเป็นไง ทำเป็นแล้ว ทำได้มาขนาดนี้ แล้วถ้าทำไม่ได้ ทำไม่เป็น เข้ามาก็ทำไม่ได้เลย
พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์โดยยังยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐ ก้าวข้ามความขัดแย้ง “สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.แบ่งเขต ทั้ง 400 เขต ไม่ได้ตั้งเป้าไว้เท่าไหร่ แล้วแต่ประชาชนพอใจจะเลือกใคร ไม่ใช่ต้องเท่านั้นเท่านี้ถึงจะสง่างาม ลูกพรรคว่ายังไง ก็ว่าไปตามนั้น”
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ทุกเบอร์ ทุกเบอร์ทำงานเต็มที่ ขอแค่ให้พี่น้องประชาชนจำเบอร์ได้พอแล้ว เราตั้งใจ
“เบอร์เป็นปัจจัยใหญ่ ที่ได้เบอร์แล้วจะได้สื่อสารกับประชาชนต่อ ว่าถ้าสนใจ เห็นด้วยกับนโยบายก็เลือก แต่ทั้งบัตรและอะไรมันยาก ต้องให้พี่น้องให้ความร่วมมือกันเยอะ ๆ ศึกษาบัตร และพรรค มองว่าน่าจะทำให้ง่ายกว่านี้หน่อย ได้เลือกคนที่ชอบ พรรคที่ชอบ อย่างไม่กังวลใจ ส่วนจะเบอร์อะไร ได้หมด”
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า มองว่าเวลานี้ คนกรุงเทพฯต้องการให้เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง และปัญหาเศรษฐกิจ สร้างโอกาสในการทำมาหากิน มั่นใจว่านโยบายเศรษฐกิจของชาติพัฒนากล้าตอบโจทย์ชัดเจน ทั้งเรื่องต้นทุน ราคาน้ำมัน ตนมองว่า แค่การลด แลก แจก แถม นั้นไม่เพียงพอ จะต้องทำในเรื่องโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้กำลังใจเกินร้อย รู้สึกทั้งภูมิใจและตื่นเต้น ภูมิใจที่ได้ทำงานกับคนข้างหลัง และตื่นเต้นที่จะได้เลือกตั้งอย่างสมศักดิ์ศรี ขอบคุณกองเชียร์ทุกคนที่มาตั้งแต่เช้า พรรคก้าวไกลจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังอย่างแน่นอน
การเลือกตั้งครั้งนี้หลังจากได้เบอร์ เชื่อว่าจะหาเสียงอย่างสนุกขึ้น และอยากให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเยอะ ๆ ตอนนี้ตั้งเป้า กทม.ต้องได้ทั้ง 33 เขต เพราะโพลนำมาเป็นที่หนึ่งตลอด และ ส.ส.ในพื้นที่ก็พื้นที่ดี สภาเด่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 08.30 น. ระหว่างรอเริ่มเปิดรับสมัคร ส.ส. แกนนำพรรคการเมืองต่าง ๆ ทยอยเข้าอาคารกีฬาเวสน์ 2 ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัคร ส.ส. เพื่อร่วมเป็นกำลังใจและลุ้นการจับสลากเบอร์ที่ใช้ในการหาเสียงของผู้สมัครของพรรคตนเอง พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร นั่งเก้าอี้บริเวณโถงกลางของอาคาร ที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้รองรับหัวหน้าพรรค แกนนำพรรค และผู้ติดตามผู้สมัคร ส.ส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากผู้สมัคร ส.ส.กทม.จากพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้จับหมายเลขผู้สมัครเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นแต่ละพรรคจะนำขบวนไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยส่วนใหญ่จะไปขอพรที่ศาลหลักเมือง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม รวมถึงวัดชนะสงคราม
