กรณ์ ปราศรัยใหญ่ปิดท้าย ไม่ร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อย- ส.ว. ลากตั้ง

นายกรณ์ จาติกวณิช

กรณ์ ปราศรัยใหญ่ปิดท้าย 1,183 วัน ทำงานทุกวันไม่เคยย่อท้อ สู้แล้ว-สู้ต่อ ซูฮก จูรี ทิ้งเงินล้าน ทำงานการเมือง ลั่น ร่วมรัฐบาลเสียงข้างมาก-ไม่ยืมมือ ส.ว.

วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ ถ.วิภาวดีรังสิต นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวปราศรัยเป็นครั้งสุดท้ายว่า ตนทำงานในฐานะหัวหน้าพรรค เดินสายพบพี่น้องประชาชน ทั้งปราศรัยและลงพื้นที่ มาถึงวันนี้ 1,183 วันเต็ม สะสมความรู้สึก ความคิด ประสบการณ์มามากมาย

“ตนทำงานทุกวันไม่เคยท้อ เพราะมีเป้าหมาย วัตถุประสงค์ ของพรรคชาติพัฒนากล้า วันนี้อยากบอกกับพี่น้องว่า เป้าหมายการทำงานของพรรคชาติพัฒนากล้า เราจะมาทำงานเพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยรวยขึ้น แต่ความรวยไม่สามารถแก้ปัญหา และทำให้เรามีความสุขได้ เราจะไม่มาอ้างเหมือนนักการเมืองหลาย ๆ คน ว่าจะมากำจัดคนยากคนจนออกจากบ้านเมือง ทุกประเทศทั่วโลกก็ต้องมีคนจนที่เราต้องดูแล แต่สิ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้าจะให้คือโอกาสที่จะทำให้อนาคตของพี่น้องประชาชนดีขึ้น” นายกรณ์กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า ตนอยากให้คนไทยไม่ว่าจะเกิดมาจากที่ไหน ภาคไหน คนไทยทุกคนมีโอกาสที่จะฝัน ที่จะเชื่อว่า ถ้าเขาขยัน มุ่งมั่น ตั้งใจ เขาจะมีโอกาสที่จะมีชีวิต และรวยขึ้นได้ วันนี้คนไทยยังไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ เพราะกติกาของสังคมที่คนไทยทุกคน ขอให้ขยันและตั้งใจโอกาสมีแน่นอน และพรรคชาติพัฒนกล้า เป็นพรรคแห่งโอกาส ข้อเสนอนโยบายประชาชนนิยม ลดแลกแจกแถม

“เราทำประชานิยมมาแล้วกี่ยุคสมัย สุดท้ายคนไทยก็ยังไม่รวย เพราะติดกับดักว่า โอกาสก้าวหน้าเขาไม่มี วาทกรรมการเมือง ว่า เบี้ยผู้สูงอายุ จำนำข้าว และจะไปตัดงบทหาร เป็นรัฐสวัสดิการ ขอบอกว่าต่อให้ยุบกระทรวงกลาโหม ก็จะได้เงินมาแค่ 2-3 แสนล้านบาท ไม่ถึงครึ่งของนโยบายที่นำเสนอกัน ประเทศเราไปจุดนั้นได้ เราต้องรวยกว่านี้อีกเยอะ นั่นคือการสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน”นายกรณ์กล่าว

นายกรณ์กล่าวว่า ประชาชนทุกคนต้องมีความเชื่อ มีความหวัง สิ่งที่ตนได้รับมาตลอดคือของฝากจากพี่น้องประชาชน คือฝากให้เราช่วยดูแล แก้ปัญหาปากท้อง ที่จ.ภูเก็ตช่วงโควิด ทำมาหากินไม่ได้เลย ฝากช่วยดูแลเรื่องดอกเบี้ย โอกาสการกู้ยืมเงิน พอมา จ.ชุมพร พี่น้องประชาชนก็ฝากเรื่อง ราคาพืชผลทางการเกษตร ราคาปุ๋ย ไปที่ไหนมีแต่ของฝาก นี่คือความจริง ประชาชนยังมีความหวัง ถ้าเขาไม่หวัง ไม่ศรัทธา เขาไม่มาฝากพรรชาติพัฒนากล้าหรอก และนี่คือแรงบันดาลใจที่เราสู้มาตลอดพันกว่าวันของ

นายกรณ์ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค แรงบันดาลใจนอกจากมาจากประชาชนแล้ว ทีมงานของเราทุ่มเทเสียสละ ไม่ได้หวังผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ขอเพียงโอกาสช่วยบ้านเมือง ตนขอยกตัวอย่างเพื่อนผู้สมัคร 2 คน ๆ แรกคือ เลขาธิการพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ วันนี้ไม่ได้อยู่กับเรา นายเทวัญ เลือกที่จะสู้ด้วยการแข่งขันในเขตเลือกตั้งเดิมของตัวเองคือเขต 1 โคราช ที่มีการแข่งขันหนักมาก ตนขอส่งกำลังใจไปให้นายเทวัญ ด้วย

“ผู้สมัครอีกท่านคือ นายจูรี นุ่มแก้ว เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน เรื่องราวชีวิตเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ตน ผู้สมัคร และพี่น้องชาวใต้นับล้านคน เขาต่อสู้แนวทางสร้างสรรค์ บริสุทธิ์ นายจูรีทำงานเพื่อส่งตัวเองเข้าเรียน ใฝ่คว้าหาโอกาสด้วยตัวเขาเองจนประสบความสำเร็จ ทั้งเป็น นักกฎหมายรับราชการ เป็นสื่อมวลชน จนมาเป็นดาวติ๊กตอก สร้างรายได้หลายสิบล้าน จากนั้นเขาทิ้งทุกอย่าง เพื่อทุ่มเทให้กับการเมือง สองท่านคือ ดีเอ็นเอ คือการสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน เน้นเรื่องของการสร้างโอกาส”นายกรณ์กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า เราเป็นพรรคที่นำเสนอยุทธศาสตร์ชัดเจน เราจะสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้ เราจะสร้างรายได้ให้กับประเทศ 5.5 ล้านล้านบาท ซึ่งต่างจากพรรคอื่นคือเราสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในระดับครัวเรือน เพราะเรามองประชาชนอยู่ศูนย์กลาง เช่น นโยบายเฉดสีเชียว การสร้างโรงงานไฟฟ้าโดยประชาชนที่มีหลังคาบ้าน เฉดสีขาว เราส่งเสริมการท่องเที่ยวสายมู

“ไม่เฉพาะเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น โอกาสทางการเมืองก็สำคัญ การใช้สิทธิของพี่น้อง มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เรายืนหยัดคือความเป็นประชาธิปไตยของบ้านเมือง เราจะเข้าร่วมกับรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาล่าง โดยไม่ต้องอาศัยเสียงสว.” นายกรณ์กล่าว

นายกรณ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ในเรื่องคุณภาพชีวิต เราเดือดร้อนปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 เราต่อสู้เพื่อให้พี่น้องมีอากาศสะอาด ผ่าน พ.ร.บ.อากาศสะอาด หรือโอกาสของผู้สูงอายุที่จะมีบ้านที่ปลอดภัย ผ่านโครงการอารยสถาปัตย์ , ช่วงกลางคืนทุกคนเงยหน้าต้องมองเห็นดาว เราจึงมีนโยบายคุ้มครองพื้นที่ที่เป็นฟ้ามืดเป็นมรดกให้ลูกหลานเราสามารถดูดาวได้ เราต้องการสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงได้ สิ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้าให้ความสำคัญอีกโครงการที่อยากพูดถึงวันนี้คือ ถึงเวลาแล้วที่กองสลากจะเพิ่มสัดส่วนคืนกำไรให้กับประชาชนผ่านโครงการ หวยจังหวัด ๆ ละ 3 ล้านบาท สร้างเศรษฐีจังหวัดละ 3 คนในทุกงวด

นายกรณ์ กล่าวว่า แม้เราจะเป็นพรรคเล็ก แต่เป็นพรรคเล็กที่คิดใหญ่ ที่สามารถเปลี่ยนทิศทางประเทศ เราจะทำให้ทุกคนรวยขึ้น มีคำถามว่า นโยบายที่เรานำเสนอ ดูเป็นเรื่องใหญ่ แล้วพรรคเล็กเลือกไปแล้วทำได้จริงหรือ ขอตอบว่า ถ้าพี่น้องย้อนกลับไปดู สองปีที่ผ่านมา เมื่อเจอปัญหาหนัก ๆ เช่น ค่าน้ำมันแพง ไฟแพง อัตราดอกเบี้ยแพงพี่น้องกู้ยืมเงินไม่ได้ มีพรรคไหนสู้เพื่อพี่น้องบ้างนอกจากเราพรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญเท่าขนาดของหัวใจ อยู่ที่ความตั้งใจถ้าเรามีโอกาสเราต่อสู้เต็มที่ พรรคเราจะมี ส.ส.กี่คนก็แล้วแต่ตนมั่นใจหัวใจของผู้สมัครทุกคน

นายกรณ์กล่าวว่า สุดท้ายวันอาทิตย์นี้ มันเป็นโอกาสพิเศษจริง ๆ ที่ท่านรอมา 4 ปี ในการที่จะใช้สิทธิไปเลือกตั้ง เพื่อกำหนดทิศทางอนาคตของประเทศ ตนอยากเชิญชวนให้ท่านใช้สิทธิหนึ่งครั้งนี้ของเราในการสร้างพลังบวกให้กับสังคมไทย ที่พูดแบบนี้เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้ง มันจะมีกระบวนการปั่นให้เราทั้งกลัวทั้งเกลียดในทุกยุคทุกสมัย

“ไม่มีอะไรต้องกลัว สิ่งที่เขาไม่พูดถึงคืออิทธิพลของทุนผูกขาดที่อยู่เหนือการเมือง พรรคยิ่งใหญ่ยิ่งต้องอาศัยทุนผูกขาด แต่พรรคเราพรรคเล็กที่มีอิสระในการต่อสู้ ที่ประชาชนวางใจได้ เราไม่อยู่ภายใต้ทุนผูกขาด”นายกรณ์กล่าว

นายกรณ์กล่าวว่า วันที่ 14 พฤษภาคม พี่น้องเลือกด้วยพลังบวก เลือกคนที่ท่านศรัทธา อย่าเลือกด้วยความกลัว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราจะเก็บความภาคภูมิใจจนถึงวันเลือกตั้งครั้งหน้า ว่าเราได้ใช้ 1 เสียงของเรา ไปสู่พลังบวก ดีกว่าเราเลือกด้วยพลังลบที่ทั้งเกลียดและกลัว 14 พฤษภาคม กาเบอร์ 14 เลือกพรรคชาติพัฒนากล้า และเบอร์ผู้สมัครทุกเขตที่อยู่ในพื้นที่ท่าน