ทักษิณ สรุป 7 บทเรียนเพื่อไทยพ่ายแพ้เลือกตั้ง คู่แข่งก้าวไกลใช้ไอโอ-เก่ง

โทนี่ ทักษิณ คลับเฮาส์ 16 พค 66

กลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย กลับมาจัดคลับเฮาส์ CARE Talk อีกครั้งในรอบ 2 เดือนของ “ทักษิณ ชินวัตร” หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) อดีตนายกรัฐมนตรี โดยการจัดรายการครั้งนี้เป็นการจัดภายใต้หัวข้อ ‘เมืองไทยหลังเลือกตั้ง’

หัวข้อที่ทุกฝ่ายจับตาคือ “ทักษิณ” จะสรุปความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทย ในรอบ 22 ปี อย่างไร..ต่อไปนี้คือ 7 บทเรียน โดยสรุปจากที่ “ทักษิณ” วิเคราะห์

1.ถูกก้าวไกล disrupt

“ทักษิณ” ย้อนเหตุการณ์ที่ “นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี” เข้ามาช่วยรีแบรนด์พรรค ต้อง disrupt ตัวเอง แต่ก็ยังไม่พอ

สมัยตอนหนุ่ม ๆ ตอนตั้งพรรคไทยรักไทยก็ใช้แนวคิดใหม่ เพื่อ disrupt พรรคเก่าแก่ อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยวิธีการใหม่ เน้นนโยบาย แต่สมัยนั้นเป็นแอนะล็อก ไม่มีโซเชียลเน็ตเวิร์ก แม้เพื่อไทยปัจจุบันนี้จะ disrupt ตัวเอง ปรับตัวเอง รีแบนด์ให้ทันสมัย แต่การ disrupt ในการสร้างนวัตกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลงนั้น เพื่อไทยยังดิสรัปตัวเองไม่พอ แต่พรรคก้าวไกลทำตัวเอง เหมือนบริษัท SMEs

“ไม่ต้องทำสินค้าให้เนี้ยบเหมือนแบรด์ดัง ๆ แต่ทำให้ถูกใจ ตรงใจลูกค้าถูกใจ จนบริษัทใหญ่ ๆ เจ๊งไป เรื่องนี้เป็นการตลาดแบบใหม่ คนเก่า ๆ อาจไม่เข้าใจ หรือแม้แต่พรรคใหม่คนเก่าก็ไม่เข้าใจ เพื่อไทยแม้จะเป็นพรรคใหญ่ก็ต้องเรียนรู้ เรื่องนี้ถึงทำให้ก้าวไกลเขาถึงมีหัวคะแนนธรรมชาติเยอะ ไม่ต้องใช้เงินใช้ทองอะไรมากกว่า”

“พรรคเพื่อไทยต้องดิสรัปต์อย่างมีนวัตกรรม ต่างประเทศใช้ว่า user generated content ที่คุณไอซ์ รักชนก ศรีนอก ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ขึ้นกระดาษเปล่าเขียนเรื่องตัวเอง แล้วสร้างคอนเทนต์เอง แต่ว่าคนที่รักกันชอบกันจะออกไปเชียร์ แล้วกระจายเป็นลูกโซ่”

“เป็นลักษณะของการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและสมัยใหม่ ซึ่งพรรคเก่า คนเก่ายังไม่ค่อยเข้าใจ หรือพรรคใหม่แต่คนเก่าไม่เข้าใจ แม้พรรคเพื่อไทยจะอยู่มา 20 ปี ก็ต้อง disrupt อย่างมีนวัตกรรมอีกครั้ง ลองอ่านงานชื่อ The Disruption Dilemma ว่าด้วยการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เอสเอ็มอีไทยควรเรียนรู้ และได้แนวคิดแข่งกับบริษัทใหญ่ได้ ขอเพียงมีไอเดีย แล้วของก้าวไกลใช้ UGC บนติ๊กต๊อก ผู้ใช้งานเยอะมากแล้วไปเร็ว กลายเป็นหัวคะแนนธรรมชาติ แล้วดอกผลเลือกตั้งเห็นชัด”

2.ถูกตีทั้งกระแส-กระสุน

ทักษิณบอกว่า เลือกตั้งเที่ยวนี้แพ้ทั้งพรรคกระแสของ “ก้าวไกล” และ “กระสุน” ของพรรครัฐบาล ได้มาแค่ 112 เขต ก็ถือว่า “หลวงพ่อดี”

“อย่างบางพรรคได้ ส.ส.เขตเยอะมากเลย แต่ปาร์ตี้ลิสต์นิดเดียว เพราะใช้พลังเงิน โดยที่ความนิยมไม่มี แต่จัดการเอา ส.ส.มาได้”

“การปฏิรูปการเมืองหลังการปฏิวัติ ผลที่ได้รับคือ มีนายกฯไม่มีอำนาจต่อรอง เราก็ได้พรรคที่เข้ามาแล้วหาตังค์ แล้วถึงเวลาก็เอาตังค์ไปซื้อเสียง บางเขตผมได้ยินหัวละ 1,000 บาท มันต้องซื้อ 6-7 หมื่นเสียง เขตหนึ่ง 70 ล้าน แล้วซื้อให้ชนะ 10 เขต ต้องซื้อถึง 50 เขตเป็นอย่างน้อย”

“แต่สุดท้ายเสร็จ แนววิธีการทำการตลาดแบบก้าวไกลหมด ยิ่งมีคนแย่งกันซื้อก็สบายโหวตเตอร์เลย แต่สุดท้ายเลือกตามใจปรารถนาที่อยากได้”

“อย่างเพื่อไทยทำไมถึงโดนหนัก นอกจาก disrupt ตัวเองไม่เต็มที่แล้ว พรรคเพื่อไทยยังโดนกระแสก้าวไกลที่แรงมาก แล้วยังโดยพวกที่มีตังค์ซื้อ โดยทั้งกระแสและกระสุน รอดมาถึงได้ 112 เขต ขนาดนี้ถือว่าได้หลวงพ่อดี แล้วผลการเลือกตั้งครั้งนี้มันบอกเลยว่า คนที่อยู่มานานแล้วสอบตกมีประวัติไม่ลงพื้นที่”

3.ผู้สมัคร ส.ส.ประมาท ไม่ลงพื้นที่ หลังกระแส “อุ๊งอิ๊งมาแรง”

ทักษิณกล่าวว่า “ต้องยอมรับกระแสพรรคดีมาก แรงมาก ก่อนที่อุ๊งอิ๊งลาคลอด เห็นกระแสดีก็ทำงานไม่เข้มข้น มันเลยออกมาเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้น ต้องเรียนรู้ความผิดพลาด ในฐานะประธานแมนซิตี้เก่า เราถือว่าโค้ชกับนักกีฬาไม่ต้องมาตีกัน แต่ไปฝึกมาใหม่”

4.ไม่ใช่ยุคของเพื่อไทย-คนแก่ในพรรคต้องถอย

“ทักษิณ” กล่าวว่า “อุ๊งอิ๊งไปแมนเชสเตอร์ซิตี้บ่อย มีน้ำใจนักกีฬามาก สนับสนุนพรรคชนะอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาลไปเลย ถือเป็นสปิริต ที่อุ๊งอิ๊งพูดถือเป็นวัฒนธรรมองค์กรของพรรคมานานตั้งแต่ไทยรักไทย ความเป็นน้ำใจนักกีฬาถือว่า ดีมาก เรากำลังจะเรียนรู้จากความผิดพลาด ปรับปรุง แล้วคนแก่ ๆ ทางการเมืองถอยไปหน่อยได้ไหม วันนี้ต้องหลบ อย่าคิดแก้ตัว ต้องหลบแล้ว มันไม่ใช่ยุคของเราแล้ว พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อายุ 42 เขาจะพูดอะไร มันก็สมาร์ท เขาอยู่กับโลกปัจจุบัน กับโลกอนาคต”

5.ก้าวไกล ใช้ไอโอ บีบเพื่อไทยเป็นพวก 2 ลุง

ทักษิณกล่าวว่า มีขบวนการไอโอตั้งแต่ช่วงเลือกตั้ง เป็นไอโอว่าผมกับป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ) คุยกัน ตกลงกัน คุณอิ๊ง หมอชลน่าน (นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย) และคุณนิด (เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย) ออกมาปฏิเสธ

“พรรคเราจะเรียกว่าเป็นพรรคผู้ดีก็ได้ มีมารยาท ไม่จำเป็น ไม่อยากเนม ๆ ไม่จำเป็นก็ไม่ทำ ไอโอออกจนต้องพูด ไม่เอา 2 ลุง พูดชัดยังไงก็ไม่ฟังอีก ไอโอก็ยังออกอีก เพราะไอโอออกโดยคนขยายโดยโรบอต มีแอ็กเคานต์หลุมเป็นร้อยเป็นพัน เพื่อให้โรบอตกระจายข่าว เป็นเทคโนโลยีหลายคนไม่เข้าใจและจะตกใจ ไอโอตัวนี้ถูกใช้แล้ววันนี้ ยังมีไอโอต่อเนื่องอีก หาว่าตั้งแข่งกับก้าวไกล”

“ทั้งที่คุณอิ๊งก็ประกาศ ชลน่านก็ประกาศ เศรษฐาก็ประกาศ เห็นว่าจะมีแถลงร่วมกัน ก็ยังบอกว่ามีดีลลับ ผมนี่นะอยู่เมืองนอกตั้งนาน มีดีลลับอะไร ผมกลับไทยคงมีดีลสว่างละมั้ง”

“เราไม่ใช้เอไอ ไม่ใช้โรบอต ไม่ได้สร้างแอ็กเคานต์หลุม นี่เป็นไอโอของก้าวไกล ผมรู้เวิร์ดดิ้งที่จะใช้ บอกได้เลยว่าเป็นไอโอก้าวไกล บางคนนึกว่าเป็นไอโอของฝั่งนู้น ไม่ได้โจมตีนะ แต่เป็นแท็กติกยัดเราเข้า 2 ลุง เพราะรู้ว่าคนไม่นิยม กว่าเราจะดิ้นออกมา…ช้าไปหน่อย”

6.ก้าวไกล ใช้เอเยนซี่เก่ง

ช่วงหนึ่ง จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 ที่พ่ายแพ้ต่อพรรคก้าวไกล ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น โดย “จักรพล” และ “ทักษิณ” สรุปความพ่ายแพ้ที่เชียงใหม่ อันเป็น Home town ถูก “ตีแตก”

ทักษิณวิเคราะห์ว่า “กระแสของเพื่อไทยก็แรง แต่ขณะเดียวกันคะแนนของเราถูกดึงด้วยกระสุน พรรคที่สอบตกด้วยกัน บางพรรคใช้กระสุนแรง เราก็โดนทั้งกระแสและกระสุน ต้องยอมรับเมืองมหาวิทยาลัย หัวคะแนนแบบออแกนิกเยอะ เดินเต็มที่ จักรยานบ้าง เป็นสิ่งที่ amazing มาก ต้องชื่นชมว่าสามารถสร้างได้ขนาดนี้ คนที่อยู่เบื้องหลังการสร้างได้ขนาดนี้ จะเป็นมือการตลาดชั้นนำ เข้าใจว่าจะเป็นเอเยนซี่ที่เก่งเรื่องนี้ ผมรู้จักชื่อเอเยนซี่

7.ทวิต “ขออนุญาต” กลับบ้าน มีส่วนทำแพ้

ทักษิณกล่าวว่า “มีทั้งบวกลบ คนที่คิดถึงผมอยากเห็นผมกลับมาก็เลือก คนที่เฉย ๆ ก็เป็นลบ ผมบอกคนละเรื่องก็คนละเรื่อง ผมอยากเลี้ยงหลาน ผมคิดถึงหลานโผ้ม… วัยอย่างผมเนี่ย เป็นวัยรักลูก หวงหลาน ลองเอาหลานมาอยู่ใกล้ ๆ มีความสุขมาก มันบริสุทธิ์ ยังไม่มีอะไรให้ผมเปลี่ยนเลย”

“ความสำเร็จ มีลูกเยอะมาก แต่ความผิดพลาด เป็นลูกกำพร้า ผิดปุ๊บ คนจะหายหมดเลย จะโทษกัน”

แต่ยืนยันว่าจะกลับบ้านกรกฎาคมนี้ โทนี่ กล่าวว่า “So far ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมต้องเปลี่ยน วันนี้ถ้าตัดสินใจแล้ว ไม่สนใจอะไรเลย อยู่เมืองนอกมา 17 ปี มันเหมือนติดคุกใหญ่ ๆ เพราะเข้าบ้านตัวเองไม่ได้ เข้าประเทศไม่ได้ แต่ว่าโลดแล่น สะดวกสบาย เวลานอนหลับ ไม่รู้หรอก เราอยู่ไหน โรงแรมคืนละ 7 แสน กับโรงแรมจิ้งหรีด เวลาหลับไม่รู้หรอกอยู่ไหน เราหลับให้ได้ สบาย ไม่มีปัญหา”