กกต.รับรองพิธาเป็น ส.ส. ก่อนพิจารณาคดีอาญา-ขาดคุณสมบัติ

แสวง บุญมี
แสวง บุญมี

แสวง บุญมี เผย กกต.ไม่มีอำนาจพิจารณาคุณสมบัติ ส.ส.พิธา เพราะยังไม่ได้เป็น ส.ส. จ่อรับรองไปก่อน แต่สามารถดำเนินคดีอาญา รู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติ แต่ยังลงสมัคร ส.ส.

วันที่ 9 มิถุนายน 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาคำร้อง กรณีการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าเรื่องนี้มีปัญหาทางเทคนิคอยู่ เนื่องจากผู้ร้องมาร้องก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน ซึ่งกรณีมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ต้องร้องภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง

ดังนั้น สำนักงาน กกต.ก็ต้องพิจารณาว่าสิ่งที่ร้องมีเหตุหรือมีมูลที่จะดำเนินการต่อไปหรือไม่ เพื่อเสนอให้ที่ประชุม กกต.พิจารณา ส่วน กกต.จะรับไว้พิจารณาหรือไม่เป็นอีกประเด็น และถ้ารับคำร้องแล้วจะผิดหรือถูกก็เป็นอีกประเด็น ดังนั้นเรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของสำนักงาน

ส่วนกรณีที่นายพิธารู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติ แต่ยังลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. นายแสวงกล่าวว่า เรื่องการมีลักษณะต้องห้ามของการลงสมัครหากเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งต้องส่งศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งวินิจฉัย แต่ถ้าเกิดขึ้นหลังเลือกตั้งก่อนการประกาศผล ยังเป็นช่องโหว่อยู่ ซึ่งสำนักงานก็คิดว่าหากมีการยื่นศาลฎีกา จะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งสามารถทำคดีอาญาตามมาตรา 151 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ได้

ส่วนถ้าประกาศรับรองผลไปแล้ว การให้พ้นจาก ส.ส. ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 โดยสมาชิกรัฐสภา 1 ใน 10 เข้าชื่อ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึง กกต.ก็สามารถยื่นได้ แต่เราต้องมีพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง

เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้ กกต.กำลังพิจารณาควบคู่ การกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 151 และคดีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ใช่หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ในฐานะส่วนตัวคิดว่า คดีคุณสมบัติยังพิจารณาไม่ได้ ตอนนี้พิจารณาได้เฉพาะคดีอาญาตามมาตรา 151 แต่คดีคุณสมบัติยังทำไม่ได้เพราะยังไม่เป็น ส.ส.

“ตามคำร้องร้องว่าคุณไม่มีคุณสมบัติในการลงสมัคร ส.ส. เพราะคุณมีลักษณะต้องห้ามที่กฎหมายกำหนด เมื่อคุณไม่มีคุณสมบัติก็จะไปสู่ข้อหารู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติแต่ยังลงสมัคร ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 151 แต่เรื่องของการพ้น เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ซึ่งตอนนี้ยังเป็นอนาคตที่มาไม่ถึง ยังไงก็ต้องประกาศผลให้เป็น ส.ส.ไปก่อน เพราะพ้นในช่วงการยื่นของศาลฎีกามาแล้ว กกต.ไม่มีอำนาจไม่ประกาศ แต่สามารถพิจารณาคดีอาญาได้” นายแสวงกล่าว