
เฉลิมชัย เผย ประชาธิปัตย์ นัด 25 ส.ส.ถกด่วน พรุ่งนี้ ชี้ขาดหัวหน้าพรรคคนใหม่ สวมบทครูให้คำปรึกษาสเปกผู้นำคนที่ 9 – พิมพ์เขียวสู่การเปลี่ยนแปลง 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี แย้ม มีคนลงชิงชัยเพียบ เหน็บ คนมีวินัยจะเงียบ ฉะ อย่าคิดว่าเก่งคนเดียว-มองคนอื่นไม่มีความสามารถ
วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงการประชุม ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ 25 คน (ส.ส.เขต 22 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3 คน) ในวันพรุ่งนี้ (2 กรกฎาคม 2566) ว่า คาดว่าจะได้ข้อยุติระดับหนึ่งในที่ประชุมในการกำหนดทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อนำไปสู่การประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2566 ของพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่และคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2566 เวลา 8.30 น. ที่ห้อง Grand BallRoom โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร และหลังจากนั้น ส.ส.เขตทั้งหมด 22 คนจะมาหารือกับตนเพื่อมาสรุปให้ฟัง ซึ่งตนจะใช้ประสบการณ์ที่ตนมีบอกว่าจะเดินไปอย่างไร เอาคนแบบไหน ถ้า ส.ส.พร้อม แต่ถ้าไม่พร้อมก็ต้องอยู่ในขั้นการวางพื้นฐานเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี จะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
“ความคิดของ ส.ส.ที่บอกกับผมอย่างชัดเจน คือ ต้องการความเปลี่ยนแปลง ผมถึงบอกว่า มันต้องเปลี่ยน ซึ่งเขาต้องบอกมา แล้วผมจะเป็นที่ปรึกษาให้ เราต้องยอมรับความจริงอยู่อย่างหนึ่งว่า นี่คือความจริงที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ ข้อบังคับเขียนว่า ส.ส.มีน้ำหนักในการเลือกหัวหน้าพรรค 70 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสิทธิ์ไปเปลี่ยน”นายเฉลิมชัยกล่าว
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า การประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2566 ของพรรคในวันที่ 9 กรกฎาคม 2566 คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นองค์ประชุมประมาณ 300 คน เกินองค์ประชุมตามที่กฎหมายกำหนด คือ 250 คน ซึ่งมากกว่าทุกครั้ง โดย ส.ส.ปัจจุบัน 25 คน มีน้ำหนักในการลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรค 70 เปอร์เซ็นต์ องค์ประชุมอื่นอีก 30 เปอร์เซ็นต์
“วันนี้มันไม่หนีกันหรอก อยู่ที่ว่า ความคิดของคนคนหนึ่งกับอีกหลาย ๆ คน เขาอาจจะดีสุด ๆ แต่เขาไม่มีโอกาสก็ได้ อาจจะด้วยสถานะ ด้วยตำแหน่ง ด้วยเขาโดนบางอย่างที่ทำให้เขาแสดงออกไม่ได้ วันนี้ถ้าเขามีโอกาสแสดง เขาอาจจะเก่งกว่าอีกหลาย ๆ คน เขาอาจจะคิดดีกว่าหลาย ๆ คนก็ได้”นายเฉลิมชัยกล่าว
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ตนพูดไปก็ถูกกล่าวหาว่าชี้นำ เป็นคนตั้ง เป็นคนทำ แต่ตนเหมือนเป็นครู เป็นคนที่ห่วง ส.ส. เป็นห่วงพรรค เพราะตนเป็นคนที่ดูแลด้วยตัวเองมาตั้งแต่ต้น ทั้งคนที่ได้เป็น ส.ส.และคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. เพราะฉะนั้นเป็นความผูกพันของตน ตนไปเดินหาเสียงทุกภาค ตนทำหน้าที่แล้วตอบกับตัวเองได้ ถึงแม้ว่า วันนี้ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในพรรค และปัจจัยภายนอกพรรค
“ใครมีคุณสมบัติก็สามารถขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคได้ทั้งหมด จะมีมาสมัครหลายคน คนมีวินัยเขาจะเงียบ เอกภาพห่างจากคำว่าวินัยนิดเดียว คนที่กำหนดว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ คือ กลุ่ม ส.ส.ปัจจุบันที่มีอยู่ 25 คน เมื่อเป็นอย่างนี้ถึงกลัวกันนักหนา ดิ้นทำไม ความเป็นจริงเป็นอย่างนี้ อย่ารักพรรคคนเดียวและมองคนอื่นไม่รักพรรค อย่าคิดว่าเก่งคนเดียวโดยมองว่าคนอื่นไม่มีความสามารถ”นายเฉลิมชัยกล่าวทิ้งท้าย