ชลน่าน ห่วงอาจแพ้โหวตรอบสอง หากขั้วรัฐบาลเดิมแพ็กแน่น 188 เสียง ชูบิ๊กป้อมเป็นนายกฯ รอถกก้าวไกลเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯ ฝ่าย 8 พรรคหรือไม่
วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวขั้วรัฐบาลเดิมจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐแข่งในการโหวตรอบ 2 ว่า ถ้ามีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง สิ่งที่เรามีข้อห่วงใย คาดการณ์ว่าเสียงโหวตที่จะโหวตให้คู่แข่งเรา อาจจะเกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมาทันที จาก 188 เสียงถ้าเขาแพ็กกันแน่น บวกกับเสียง ส.ว. มีโอกาสที่เสียงจะเกิน 375 เสียงได้
- กรุงไทย เตือนลูกค้าอัพเดต Android เวอร์ชั่นล่าสุด ก่อนใช้แอปไม่ได้
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์
- กรุงไทย ปิดระบบ-แอป Next 11-12 และ 14 พ.ค. นี้ เช็กรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกลต่อหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยังเคารพสิทธิของพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในขณะนี้
เมื่อถามว่าจะดันนายพิธาเป็นนายกฯ ต่อหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขึ้นกับพรรคก้าวไกลที่จะเป็นผู้เสนอในระหว่างวงพูดคุยระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยรวมทั้งการพูดคุยของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
“ไม่มีอะไรง่ายหรอก โดยเฉพาะการเมืองที่ไม่ปกติแบบนี้ มันคงเป็นประเด็นที่ 8 พรรคร่วมต้องมาคุยกัน ว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร รู้อยู่แล้วว่าถ้าโหวตเลือกนายกฯ อีกครั้งในวันที่ 19 กรกฎาคม โดยที่เราไม่มีหลักหรือความมั่นใจ แล้วมีคนแข่งแล้วเรามีโอกาสแพ้ ก็ต้องมาปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไร” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีโอกาสเปลี่ยนแคนดิเดตนายกฯ ในการโหวตครั้งที่ 2 หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า “อยู่ที่ข้อเสนอของการพูดคุย”
เมื่อถามว่าถ้าพรรคก้าวไกล เสนอชื่อนายพิธา ท่าทีของพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคอันดับหนึ่งและเป็นพรรคแกนนำ และพรรคเพื่อไทยลงเอ็มโอยูชัดเจนว่าจะสนับสนุนจนสุดความสามารถ ยืนยันอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถึงเวลาสำหรับพรรคอันดับสองแล้วหรือยัง เพราะพรรคอันดับหนึ่งดูจะไม่ได้เสียงสนับสนุน นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตนเชื่อว่า 8 พรรคร่วมจะคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ถ้าการโหวตนายกฯ ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ไม่ใช่ชื่อนายพิธา เป็นชื่ออื่นที่ไม่ได้อยู่ใน 8 พรรคร่วม ความคาดหวังของพี่น้องประชาชนจะถูกทำลายทันที
เมื่อถามว่า หากการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 ทางพรรคร่วมจะเสนอชื่ออื่น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ไม่มีคำว่าอาจจะ อยู่ที่การพูดคุย”
“ต้องรอสรุปก่อน ถ้าเราไม่ชัดเจน วันที่ 19 กรกฎาคม ก็มีเจตนาชัดแล้วว่าอีกฝ่ายจะเสนอชื่อแข่ง ก็จะเป็นกับดักให้เรายอมรับกับความพ่ายแพ้ เหมือนเราเอาความหวังประชาชน 25 ล้านเสียงไปทลายตรงนั้น เชื่อว่าประชาชนรับไม่ได้”
เมื่อทุกฝ่ายรวมกันก็เหมือนเป็นการสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ เมื่อถามว่าคำว่าจะสนับสนุนจนถึงที่สุด นิยามของคำว่าที่สุดคืออะไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า คำว่าที่สุดไม่มีนิยาม มันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ความเป็นเหตุเป็นผล ความเสียหาย และโอกาสของประเทศชาติบ้านเมือง รวม ๆ กันทั้งหมดนั่นแหละ ถ้าเราทำถึงที่สุดแล้วพรรคกก้าวไกลพึงพอใจ เห็นชอบภาพรวมแล้วไม่ส่งผลกระทบ ถึงจะเป็นนิยามของคำว่าถึงที่สุด
เมื่อถามย้ำว่าจะให้โอกาสนายพิธาเป็นครั้งที่ 2 หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุย พรรคเพื่อไทย ก็ยังหนุนนายพิธา เมื่อมีการพูดคุยก็จะเป็นไปตามข้อสรุปร่วมกัน
เมื่อถามว่า เงื่อนไขข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เรื่องญัตติเสนอชื่อนายพิธาเป็นนายกฯ ตกไปแล้วจะมาหารือกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ในมุมเราไม่ใช่เรื่องเป็นความจำเป็นและสำคัญ ส่วนสมาชิกท่านอื่นจะยกมาก็เป็นเรื่องของสภาที่จะพิจารณา ส่วนฝ่ายเราถ้ามีความมุ่งมั่นที่จะเสนอในญัตติเดิมก็ต้องหาเหตุหาผลมาหักล้างให้ได้
