ทักษิณ เนวิน อนุทิน สัมพันธ์ลึก 15 ปี คืนรังร่วมรัฐบาลเพื่อไทย

ทักษิณ เนวิน อนุทิน
ทักษิณ เนวิน อนุทิน สัมพันธ์ลึก 15 ปี คืนรังร่วมรัฐบาลเพื่อไทย

หลังการแถลงข่าวของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่พรรคก้าวไกล ยอมปล่อยมือให้พรรคเพื่อไทย ในฐานะเป็นพรรคอันดับสอง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เมื่อเวลา 16.30 น. 8 พรรค มีมติร่วมกัน 3 ข้อ คือ

1. 8 พรรคร่วม 312 เสียง จะดำเนินการแสวงหาเสียงสนับสนุนจาก สว. ให้ได้ครบตามจำนวนให้ครบ 375 เสียง คือ 63 เสียง อาจมี สว.ได้ตั้งเงื่อนไขกรณีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทย จะไปพูดคุยถึงเงื่อนไขนั้น กรณีที่ สว. สามารถให้ข้อมูลถึงการลดเงื่อนไขมาตรานี้พรรคเพื่อไทยก็จะรับมาเพื่อมาพูดคุยกับพรรคก้าวไกล และที่ประชุมพรรคร่วม 8 พรรค

2. ถ้าได้เสียง หรือขณะที่แสวงหาเสียงจาก สว.ไม่พอ ให้สิทธิพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นได้ตามที่พรรคเพื่อไทยเห็นควร เพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงสนับสนุนจาก สส. ในฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร ส่วนพรรคการเมืองที่จะไปพูดคุยให้เสรีภาพพรรคเพื่อไทยไปเจรจา

3.เป็นแนวทางอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ที่ประชุมให้สิทธิพรรคเพื่อไทยไปพิจารณาดำเนินการ

ถัดจากนั้น 3 ชั่วโมง พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อาจเล็งแล้วว่า ไม่อาจหาเสียงสนับสนุน สว.ได้สำเร็จ จึงข้ามข้อ 1 แล้วชิงลงมือปฏิบัติการ ข้อ 2 ทันที

19.24 น. พรรคเพื่อไทย เปิดเผยกำหนดการว่า ในวันที่ 22 กรกฎาคม 3 ประสานทีมเจรจาพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค เตรียมไปเทียบเชิญพรรคภูมิใจไทย เวลา 14.00 น.

เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง กำหนดการเปลี่ยนแปลง อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศให้เกียรติไปเยือนพรรคเพื่อไทยในฐานะ “พรรคที่ใหญ่กว่า”

“อนุทิน” พา “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เลขาธิการพรรค พ่วง “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รองหัวหน้าพรรค และ “ไชยชนก ชิดชอบ” มาพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง

โดยใช้ธีม “กลับมาเยี่ยมบ้าน” เพื่อปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตและหาทางออกของประเทศร่วมกัน

ถือเป็นครั้งแรกที่นับตั้งแต่แยกทาง ที่พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย เตรียมกลับมาร่วมงานทางการเมืองอีกครั้ง ในรอบ 15 ปี

ย้อนรอยบาดหมาง

ย้อนกลับไปนานกว่า 15 ปี ที่แล้ว ต้นกำเนิดพรรคภูมิใจไทย มาจาก “กลุ่มเพื่อนเนวิน” ที่เป็นหนึ่งใน “มุ้งใหญ่” ในพรรคไทยรักไทย มีเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เวลานั้นเป็นหัวหน้ามุ้ง

ช่วงท้ายของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร “เนวิน” ถือเป็น “มือขวา” สายบู๊ คนสำคัญที่อยู่ข้างกาย และ “ทักษิณ” ให้ความไว้วางใจเป็นอย่างยิ่ง

หลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และมีการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชน ร่างใหม่ของพรรคไทยรักไทย มี “สมัคร สุนทรเวช” เป็นหัวหน้าพรรค แม้ว่า “เนวิน” ถูกตัดสิทธิทางการเมืองในฐานะบ้านเลขที่ 111 แต่กลุ่มเพื่อนเนวินมีบทบาทสูงยิ่งในพรรคพลังประชาชน

เพราะในช่วงที่ พรรคทักษิณ เผชิญข้อกล่าวหาเรื่องความจงรักภักดี “เนวิน” ก็แก้ลำด้วยการดึง “สมัคร” ที่ได้ชื่อเรื่องความจงรักภักดี มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

เมื่อกลุ่มเพื่อนเนวินใหญ่คับพรรค ที่สุดก็เกิดแรงต้าน จนเกิดจุดพลิกผัน “นายกฯ สมัคร” ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นตำแหน่ง เพราะจัดรายการชิมไปบ่นไป กลุ่มเพื่อนเนวิน พยายามผลักดัน “สมัคร” กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง โดยการชงชื่อ “สมัคร” โหวตในสภา แต่ในค่ำคืนก่อนโหวต “ทักษิณ” และนักการเมืองเครือข่าย ผนึกกำลังกับพรรคร่วมรัฐบาล เดินเกมรุก-เงียบ แต่เด็ดขาด นัดกันโดดประชุม ในวันที่ 12 กันยายน

“สมัคร” เดินหน้าแห้งออกจากอาคารรัฐสภา ทักษิณ และองคาพยพ นัดโหวตประชุมสภาใหม่เพื่อเลือกนายกฯ แล้วก็เลือกคนในครอบครัวชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี คือ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์”

นี่คือฟางเส้นสุดท้าย..ของกลุ่มเพื่อนเนวิน ถูกลดบทบาท กลุ่มชินวัตรกลับมามีอำนาจในพรรคพลังประชาชน
แล้วพลันที่พรรคพลังประชาชน ถูกยุบพรรค “กลุ่มเพื่อนเนวิน” ก็เปิดเกม “ล้างแค้น”

สส.กลุ่มเพื่อนเนวิน เกือบ 40 คน พลิกขั้วมาจับมือพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล ดันชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นนายกรัฐมนตรี

จึงเกิดเป็นรายงานข่าวว่า “เนวิน” พูดคำที่ทักษิณไม่เคยลืมว่า “มันจบแล้วครับนาย”

ในวันนั้น ยังไม่มีชื่อพรรคภูมิใจไทย แต่ใช้กลุ่ม “เพื่อนเนวิน” ต่อมาได้จับมือกับกลุ่ม “มัชฌิมาธิปไตย” ของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ตั้งที่ชื่อว่า พรรคภูมิใจไทย ในวันที่ 6 เมษายน 2552

น้ำตาเนวิน ถึง ทักษิณ

วันรุ่งขึ้น 7 เมษายน 2552 เนวิน แถลงเปิดใจครั้งสำคัญ พร้อมหลั่งน้ำตา บรรยายความสัมพันธ์ระหว่าง เขา และ ทักษิณ ยกช่วงสำคัญมาตอนหนึ่ง..ดังนี้

“การที่ผมเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันที่ 12 กันยายน (2551) เป็นเรื่องที่ผมยอมรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่นายกฯทักษิณ กระทำต่อท่านสมัคร แบบไม่มีน้ำใจต่อกัน แบบไม่ใช่ลูกผู้ชาย ผมและเพื่อน ๆ เห็นชะตากรรมของท่านนายกฯสมัคร และมองย้อนกลับไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ทางการเมืองในบ้านเมืองของเรา”

“ท่านเสนาะ (เทียนทอง) ท่านรองสมคิด (จาตุศรีพิทักษ์) ท่านสมศักดิ์ (เทพสุทิน) ทำให้พวกเราต้องคิด และเมื่อถึง 12 กันยายน เหตุการณ์ที่เกิดกับท่านสมัคร เราก็คิดกันว่าวันหนึ่งต้องถึงเรา แล้ววันนั้นก็มาถึง ผมเรียนยืดยันว่า เราทำงานร่วมกัน เราเคารพในสิทธิ ในความคิดในอุดมการณ์”

“และแนวทางทางการเมืองร่วมกัน ผมเคยรักท่านนายกฯ ทักษิณ เพราะท่านเป็นคนที่ทำงาน ทุ่มเทเพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นด้านดีของท่าน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในเส้นทางการเมือง ผมอยากพูดคำหนึ่งว่า คนเป็นพนักงาน คนเป็นลูกจ้าง เหมือนพี่น้องประชาชนทุกคน หากอยู่ไม่ได้ อึดอัดใจ ไม่สบายใจกับเจ้าของกิจการ ลาออกก็จบ”

“นายจ้าง ไม่พอใจลูกจ้าง เลิกจ้างก็จบ เป็นสมาชิกพรรคการเมือง สังกัดพรรคการเมือง พวกผมก็เคยอยู่มาหลายพรรคการเมืองเห็นไม่ตรงกัน คิดต่างกัน ย้ายพรรคก็จบ แต่กรณีพวกผม เมื่อเห็นต่างกับนายกฯ ทักษิณ พวกผมถูกไล่ล่า ทำลายล้าง”

“ผมอยากกราบฝากไปยังท่านนายกฯ ทักษิณว่า (เสียงสั่นเครือและดวงตาสีแดง) พวกผมเป็นคน เป็นมนุษย์ ไม่ใช่ทาส (พูดเน้นเสียง จากนั้นนิ่งเงียบไป ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีและเริ่มมีน้ำตาคลอ)…ผมอยากฝากให้พี่น้องประชาชนไปดูว่ากี่คนแล้วที่เห็นต่างจากนายกฯ ทักษิณ แล้วแยกไป แล้วถูกไล่ล่า ถูกทำลายล้าง”

“ผมฝากถึงพี่น้องที่จะมาชุมนุม ผมฝากถึงพี่น้องที่เป็นแกนนำ (เสียงสั่นเครืออีกครั้ง) ผมเคยตกเป็นเครื่องมือมาแล้ว (ร้องไห้เสียงสั่นรุนแรง) ผมเป็นแค่หมาล่าเนื้อ วันไหนผมเห็นต่าง วันไหนผมไม่ทำตามใจ ผมก็เป็นได้แค่คนเนรคุณ คนหักหลัง สำหรับท่านนายกฯ ทักษิณ นี่คือชีวิตพวกผม พี่น้องประชาชนที่จะเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อการต่อสู้ในวันที่ 8 เมษายน ผมอยากให้ท่านเอาชีวิตพวกผมไปเป็นอุทาหรณ์”

“คิดดูสิครับ หลัง 19 กันยายน 2549 ท่านนายกฯ ทักษิณ ถูกยึดอำนาจอยู่ต่างประเทศ ใครละครับ ที่เอาชีวิตเข้าแลก ไม่ใช่พวกผมที่นั่งอยุ่ตรงนี้หรือครับ จะบอกว่าพวกผมหักหลัง อยากฝากถามถึงท่านนายกฯทักษิณ ว่า หลัง 19 กันยายน พวกผมทำอะไรให้ท่านายกฯ ทักษิณ บ้าง หลัง 19 กันยายน ท่านนายกฯทักษิณ ใช้พวกผมทำอะไรบ้าง”

“หลังจากชนะเลือกตั้งของพรรคพลังประชาชน ซึ่งการต่อสู้ในภาคอีสาน ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกผมคือคนที่ยืดหยัดต่อสู้แทนท่านนายกฯทักษิณ จนพรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้ง เมื่อชนะเลือกตั้งแล้ว ท่านนายกฯ ทักษิณ ทำอะไรกับพวกผมบ้าง เลือดเทียม หักหลัง ทรยศ เนรคุณ ถึงวันนี้ผมกราบฝากถามนายกฯทักษิณว่า ใครหักใครกันแน่”

“ทั้งหมดที่ผมกราบเรียนคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผมกับนายกฯ ทักษิณ ผมกับเพื่อน ๆ ไม่อยากเห็นบ้ายนเมืองเสียหาย พังพินาศไปเพราะคน ๆ เดียวอีก ทั้งหมดที่ผมกราบเรียนคงพิสูจน์ว่าในชีวิตของผม นอกจากเรื่องแนวคิดในการทำงานที่ผมได้รับจากนายกฯทักษิณแล้ว ผมไม่เคยได้รับอะไรจากนายกฯ ทักษิณ”

“แต่หากยังมีคุณงามความดีที่ผมและเพื่อนๆ ทุกคนได้เคยทำไว้ให้กับท่านนายกฯทักษิณ และมีความหมายอยู่บ้าง (เสียสั่นเครือยังไม่หาย) มีเยื่อใยอยู่บ้าง ผมและเพื่อนๆ ไม่เคยขออะไรจากท่านนายกฯทักษิณ มีแต่ทำงานให้เอาชีวิตเข้าแลกให้ ผมอยากถือโอกาสนี้ขอท่านนายกฯทักษิณ 2 เรื่อง (เงียบไปครุ่หนึ่งและก้มหน้าสะกดอารมณ์)

“เรื่องแรก ผมกราบ… (พูดไปร้องไห้ไป) ขอให้ท่านสั่งคนของท่านหยุดก้าวล่วงพระราชอัธยาศัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าท่านจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องที่สอง (พูดไป ร้องไห้ไปไม่หยุด) ถ้าท่านรักพี่น้องประชาชนคนไทยและรักประเทศไทยจริงอย่างที่ท่านพูด ขอให้หยุดสนับสนุนการเคลื่อนไหว ขอให้หยุดการทำให้บ้านเมืองแตกแยก นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าจะให้พวกผมได้พวกผมขอแค่ 2 อย่างนี้เท่านั้น ขอบคุณมากครับ”

ผ่านมา 15 ปี พรรคภูมิใจไทย ที่มี “เนวิน” เป็นครูใหญ่ และมี “อนุทิน” เป็นหัวหน้าพรรค จะกลับไปเยือนบ้านเดิมอีกครั้ง ในเกมเจรจาต่อรองร่วมรัฐบาล

ภูมิใจไทย ถือคติ – คาถาการเมืองในเกมเจรจาต่อรองทางการเมืองว่า “ภูมิใจไทยเขี้ยว (ต่อรองตำแหน่ง) แต่จบ”