กกต.ตีตกคำร้อง ยุบ 3 พรรคใหญ่ ชี้พยานหลักฐานไม่มีน้ำหนักเพียงพอ

กกต.ตีตกคำร้อง ยุบ 3 พรรคใหญ่

นายทะเบียนตีตกคำร้องยุบ 3 พรรค ทั้ง เพื่อไทยปม ”อุ๊งอิ๊ง” บินพบทักษิณที่ฮ่องกง-ปราศรัยพาพ่อกลับบ้านเลี้ยงหลาน-ก้าวไกลเดินสายปลุกด้อมส้มชุมนุมกดดันโหวต ”พิธา” เป็นนายกฯ และพลังประชารัฐขายฝัน ไม่ทำตามนโยบายหาเสียงปี’62

วันที่ 9 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง มีความเห็นให้ยุติเรื่องกรณีนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย (พท.) และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 45 และมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3)

ทั้งจากการที่ น.ส.แพทองธารบินไปพบนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ฮ่องกง เมื่อช่วงปลายปี 2565 การที่เว็บไซต์พรรคเพื่อไทยปรากฏข้อความว่า “พรุ่งนี้ เพื่อไทย” คล้ายลายมือนายทักษิณ การที่นายทักษิณแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 การนำคำปราศรัยของ น.ส.แพทองธาร เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ จ.อุดรธานี ที่ระบุ “จะพาทักษิณกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน” มารวมกับสโลแกนของพรรคเพื่อไทย

ซึ่งพฤติการณ์ทั้งหมดเท่ากับเป็นการยินยอมให้บุคคลอื่นครอบงำ ชี้นำการดำเนินกิจการของพรรค และการที่พรรคเพื่อไทย ส่งเสริม สนับสนุน ให้นายทักษิณจัดรายการจากต่างประเทศผ่านระบบออนไลน์ โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่า เมื่อพิจารณาคำร้อง การให้ถ้อยคำ และพยานหลักฐานตามคำร้อง รวมถึงคำชี้แจงของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร

และบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว ข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่ปรากฏยังไม่มีน้ำหนักให้ฟังได้ว่าพรรคเพื่อไทย และ น.ส.แพทองธารทำการอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 45 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่เป็นเหตุให้ต้องยุบพรรค ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3)

ขณะเดียวกัน นายทะเบียนพรรคการเมือง ได้สั่งไม่รับคำร้องกรณีนายสนธิญา ร้องขอให้ตรวจสอบว่า การจัดชุมนุมทางการเมืองของพรรคก้าวไกล ในหลายจังหวัด รวมทั้งการนัดชุมนุมในวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา

ซึ่งเป็นวันที่รัฐสภาพิจารณาเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 45 ประกอบมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) (3) และ (4) หรือไม่ โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่า ข้อเท็จจริงพฤติการณ์พยานหลักฐาน หรือข้อมูลตามคำร้องยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าพรรคก้าวไกลมีการกระทำฝ่าฝืนตามที่ร้องอันเป็นเหตุให้ต้องยุบพรรค

นอกจากนี้ ยังสั่งไม่รับคำร้องกรณีนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหว ขอให้ กกต.พิจารณาสั่งยุบพรรคพลังประชารัฐ จากเหตุไม่ดำเนินการตามนโยบายหาเสียงหลายโครงการ ที่ได้ประกาศโฆษณาไว้ในการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อ 24 มีนาคม 2562

โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่า ตามคำร้องไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลเพียงพอว่าพรรคพลังประชารัฐกระทำการฝ่าฝืนตามที่ร้องอันเป็นเหตุให้ต้องยุบพรรค โดยทางสำนักงานได้มีหนังสือแจ้งให้นายสนธิญาและนายเอกชัย