ศาลฎีกาพิพากษาถอนสิทธิเลือกตั้ง ช่อ-พรรณิการ์ ตลอดไป หลังโพสต์เฟซบุ๊ก ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบัน
วันที่ 20 กันยายน 2566 ที่ศาลฎีกาสนามหลวง ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงตามกฎหมาย ในคดีเลขที่ คมจ. 1/2565 ที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ขณะนั้นเป็นเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ น.ส.พรรณิการ์ กรณีโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊ก
ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควร อันเป็นพฤติการณ์หรือการกระทำที่ส่อไปในทางขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และ น.ส.พรรณิการ์เป็น ส.ส. ได้รับโปรดเกล้าฯ และได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก็ได้ระบุว่า จะปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการคดีดังกล่าว
ต่อมา 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด น.ส.พรรณิการ์ ผิดจริยธรรมร้ายแรง ตามมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ที่บังคับใช้กับ สส. และยื่นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง กระทั่งศาลได้มีคำพิพากษาถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง น.ส.พรรณิการ์ตลอดไป