ที่ประชุมก้าวไกล มีมติ 2 กรณี 2 สส.คุกคามทางเพศ ขับ วุฒิพงศ์ สส.ปราจีนฯ พ้นพรรค ตั้งเงื่อนไข “ไชยามพวาน” ต้องยอมรับผิด-ขอโทษสังคม-ชดเชยผู้เสียหาย หากไม่ทำจะประชุมอีกครั้งเพื่อขับออกจากสมาชิกพรรค
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 พรรคก้าวไกลได้มีการประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรค เพื่อพิจารณาความรับผิดกรณีข้อกล่าวหา สส.คุกคามทางเพศ 2 กรณีคือ วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 และ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กรุงเทพฯ เขต 26
ต่อมาเวลา 23.00 น. ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวภายหลังการประชุมซึ่งใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมงว่า ความเป็นมาในการเรียกประชุมครั้งนี้ เนื่องจากคณะกรรมการวินัยของพรรคได้พิจารณาทั้งสองกรณีเสร็จสิ้นแล้ว มีความเห็นว่า สส.
ทั้งสองกรณีที่ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และได้ส่งความเห็นและมติของกรรมการวินัยมายังคณะกรรมการบริหารพรรค ต่อมา กก.บห.พรรค ได้พิจารณาข้อเท็จจริงที่มีการสอบอย่างรอบด้าน เห็นว่าทั้งสองกรณี สส.ของพรรคก้าวไกลมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง ถือว่าผิดวินัยร้ายแรงของพรรค ถึงขั้นต้องพิจารณาให้พ้นจากสมาชิกพรรค
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับพรรค การจะขับสมาชิกพรรคที่เป็น สส.ให้พ้นจากความเป็นสมาชิกพรรค ต้องมีการเรียกประชุม สส.ร่วมกับ กก.บห.พรรค และต้องใช้เสียง 3 ใน 4 ของจำนวน กก.บห. และ สส.ที่มีอยู่ทั้งหมด มิใช่จำนวนที่มาประชุม ซึ่งวันนี้มี สส. และ กก.บห. ร่วมประชุมทั้งสิ้น 128 คน ถือว่าเพียงพอ บางส่วนติดภารกิจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
สำหรับผลการพิจารณาในที่ประชุมร่วม เห็นตรงกันว่าทั้งสองกรณีมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และถือว่าขัดต่อวินัยของพรรคขั้นร้ายแรง ขัดต่ออุดมการณ์และคุณค่าของพรรค โทษสูงสุดสำหรับกรณีนี้ คือการให้พ้นจากสมาชิกพรรค โทษรองลงมาคือการตัดสิทธิที่พึงมีทั้งหมด และคาดโทษ ตามแต่กรณี
มติจากที่ประชุมออกมาว่า กรณีวุฒิพงศ์ ทองเหลา ให้ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ส่วนกรณีไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ เสียงส่วนใหญ่ 106 จาก 128 เสียง เห็นควรให้ขับออกจากสมาชิกพรรค แต่เสียงไม่ถึง 3 ใน 4 จึงไม่สามารถมีมติขับออกจากพรรคได้
โดยกรณีไชยามพวาน ที่ประชุมเห็นว่าควรตัดสิทธิพึงมี และคาดโทษตลอดสมัยประชุม นอกจากนี้ ไชยามพวานต้องออกมายอมรับผิด ขอโทษต่อสังคมและต่อผู้เสียหาย รวมถึงชดเชยเยียวยาตามที่ผู้เสียหายต้องการ หากไชยามพวานยืนยันว่าตนไม่ได้กระทำผิด ไม่ยินดีขอโทษต่อผู้เสียหายและต่อสังคม และไม่ชดเชยเยียวยา ที่ประชุมร่วม กก.บห.พรรค และ สส.จะประชุมกันใหม่ เพื่อขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการขอให้ทั้ง 2 คนลาออก เพื่อเปิดทางเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของทั้งสองคน บางครั้งการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เป็นเรื่องที่พึงทำ และผมเชื่อมั่นว่าแม้คนที่จะทำผิด หากแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง สังคมจะให้โอกาส และการรับผิดชอบทางการเมืองไม่จำเป็นต้องรอให้ข้อเท็จจริงยุติ
อย่าไปคิดว่าการรับผิดชอบทางการเมืองเป็นการยอมรับผิด และจำเป็นต้องรอกระบวนการยุติธรรมให้สิ้นสุดอย่างเป็นทางการเท่านั้น ผมสนับสนุนหากผู้ที่ถูกกล่าวพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นมาตรฐานทางการเมืองที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีหลายคนมองว่าทางพรรคดำเนินการเรื่องนี้ช้า นายชัยธวัชกล่าวว่า ในบางกรณีอาจจะดูช้า ใช้เวลานาน แต่มีความจำเป็นจริง ๆ เพราะบางทีกระบวนการสอบข้อเท็จจริงมีความซับซ้อนและต้องฟังอย่างรอบด้าน ไม่ใช่รับฟังข้อมูลจากผู้เสียหายอย่างเดียว ต้องให้ผู้ถูกกล่าวหาได้โต้แย้งอย่างเต็มที่ เมื่อได้ข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายยังต้องมีพยายานข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากทุกฝ่าย
อย่างกรณี สส.ปราจีนบุรี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราได้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากผู้เสียหาย ถือเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการวินัย และคณะกรรมการบริหารพรรคอย่างมาก และมีผลต่อมติในที่ประชุมวันนี้เป็นอย่างมาก บางทีเราก็พยายามรวบรัดกระบวนการมากเกินไปไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เมื่อได้ข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะวินิจฉัย เราก็จะไม่รอช้า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพรรคจะต้องมีการปรับปรุงกระบวนการทั้งของคณะกรรมการวินัย และมาตรการต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพมากขึ้น
นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า ทั้ง 2 กรณีนี้ กรรมการวินัยฯ ของพรรค กรรมการบริหารพรรค และที่ประชุมร่วมของ สส. และกรรมการบริหารพรรค เห็นตรงกันว่ามีพฤติการณ์คุกคามทางเพศจริง และขัดต่อวินัยพรรคขั้นร้ายแรง ซึ่งจะมีมาตรการลงโทษหลายระดับคือ โทษสูงสุดคือ ให้พ้นจากสมาชิกพรรค รองลงมาคือตัดสิทธิที่พึงมีทั้งหมด และคาดโทษ
“ในกรณีของนายไชยามพวาน แม้จะยังเป็นสมาชิกของพรรคก้าวไกลอยู่ แต่จำเป็นต้องออกมารับผิด ขอโทษ และมาเยียวยาผู้เสียหาย ความต่างของ 2 กรณีนี้คือ มีหนึ่งกรณีที่เห็นตรงกันเกือบทั้งหมด คือมีการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่บทบาทตั้งแต่การเป็นว่าที่ ผู้สมัครของพรรค มาจนถึงการเมื่อเป็น สส.แล้ว ยังมีการใช้อำนาจโดยมิชอบในการคุกคามทางเพศ และมีความพยายามที่จะใช้อำนาจของตนในการปกปิดความผิดจนถึงปัจจุบัน” นายชัยธวัชกล่าว
นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางพรรคได้ตั้งคณะทำงานชุดพิเศษขึ้นมา ที่มี น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นหัวหน้าคณะทำงานพิเศษ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศ ที่จะปรับปรุงกระบวนการทั้งหมดภายในพรรค เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้อีก ซึ่งรวมถึงการอบรมด้วย แต่ไม่ใช่การอบรมอย่างเดียว พรรคให้ความสำคัญต่อการไม่อดทน ต่อการคุกคามทางเพศอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่า แม้โดยหลักการคนจะรับรู้ แต่ในทางปฏิบัติความเข้าใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน ว่าอะไรคือการคุกคามทางเพศ อะไรไม่ใช่การคุกคามทางเพศ
“กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนภายในพรรค สำหรับ สส.และผู้ปฏิบัติงานในพรรคทั้งหมด ว่าถ้าหากใช้บทบาทหน้าที่ หรืออำนาจของตนไปมีพฤติการณ์ในทางคุกคามทางเพศ แม้ว่าหลายคนจะมองว่าไม่ได้เกิดการบังคับขืนใจ ไม่ได้เกิดการปฏิเสธ หรือดูเหมือนจะเป็นการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย แต่กรณีนี้จะชี้ให้เห็นว่าการยินพร้อมใจกันที่สองฝ่าย มันไม่เป็นการยิมยอมพร้อมใจอย่างแท้จริง หากอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ทางอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน หากคนที่อยู่ในสถานะที่ให้คุณให้โทษกับผู้ใต้บังคับบัญชา หรือทีมงาน อันนี้เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียม จะอ้างว่ายินยอมพร้อมใจไม่ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นตัวอย่างของความละเอียดอ่อนที่คนในสังคมที่ไม่เท่ากัน” นายชัยธวัชกล่าว
นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายไชยามพวาน หลังจากที่มีมติที่ประชุมวันนี้ ก็ย้ำว่า ในที่ประชุมเสียงที่เห็นด้วยให้ขับคือ 106 เสียง ถือเป็นเสียงข้างมาก แต่ยังไม่ถึง 3 ใน 4 จึงยังไม่สามารถขับออกจากสมาชิกพรรคได้ ซึ่งที่ผ่านมา นายไชยามพวาน ได้พยายามโต้แย้งข้อกล่าวหา จึงเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่ที่ประชุมวันนี้มีมติว่า นายไชยามพวานจะต้องออกมายอมรับผิด ขอโทษ และเยียวยาผู้เสียหาย
นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทราบว่า 3 คนที่เข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย ได้ลาออกจากทีมของ นายไชยามพวาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุให้คณะกรรมการบริหารพรรคและตนทราบเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อทราบและได้ข้อมูลจำนวนหนึ่ง ว่าอาจจะเป็นเหตุต่อการคุกคามทางเพศ จึงแจ้งให้กรรมการวินัยไปสอบข้อเท็จจริง โดยที่ในตอนแรกยังไม่มีผู้ร้องเลย
เปิดประวัติ วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 พรรคก้าวไกล