วทันยา บุนนาค ไม่หวั่น หลัง 21 สส.หนุน “เฉลิมชัย” นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ถ้าแพ้ขอประเมินสถานการณ์อยู่ต่อ หรือไป
วันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา บุนนาค ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังกลุ่ม 21 สส. กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย สนับสนุนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้า และรักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าพรรค ว่าจุดยืนที่ตั้งใจเสนอตัวเองเป็นทางเลือก เพราะมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์ หนทางเดียวที่จะทำให้พรรคกลับมาเป็นที่ไว้วางใจและเป็นที่พึ่งของประชาชน คือการทำจุดยืนและอุดมการณ์ให้กลับมาชัดเจน
ดังนั้น พรรคจะต้องเสนอทางออก เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเอง ตนตั้งใจและศรัทธาในวิถีอุดมการณ์ ไม่เปลี่ยนแปลงคำพูดใด ๆ ไม่เปลี่ยนจุดยืน แต่จะขอสู้ให้ถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ 21 สส.สนับสนุนให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป ทั้งที่นายเฉลิมชัยเคยประกาศว่าจะเลิกเล่นการเมือง น.ส.วทันยากล่าวว่า ไม่รู้สึกอย่างไร ยิ่งมีจำนวนผู้สมัครมากเท่าใดสมาชิกจะมีโอกาสที่ดี
เมื่อถามว่ายังมีความหวังหรือไม่ เพราะผลโหวตน่าจะเทไปในทางนายเฉลิมชัย น.ส.วทันยากล่าวว่า วันที่ตนตัดสินใจ เพราะศรัทธาวิถีของพรรคเช่นนี้ ดังนั้น จึงตัดสินใจลงมือทำ ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น จะขอทำตามความฝันและสู้ถึงที่สุด
ส่วนการระบุว่านายเฉลิมชัยดูแลสมาชิกมาตลอด 4 ปี คิดเห็นอย่างไรนั้น น.ส.วทันยากล่าวว่า คงต้องเป็นการตัดสินใจของสมาชิกพรรค ตนเคารพความเห็นที่แตกต่าง ไม่สามารถตอบแทนสมาชิกอื่น ๆ ได้
เมื่อถามว่า หากแพ้ยังจะอยู่กับพรรคหรือไม่ น.ส.วทันยากล่าวว่า ขอกลับมาประเมินอีกครั้ง ว่าทิศทางจะยังเป็นเหมือนเดิมกับวันแรกที่ตนเดินเข้ามาสมัคร และเหมือนวันแรกที่เราศรัทธาหรือไม่ ตนศรัทธาพรรคในสิ่งที่เป็นอุดมการณ์ ประชาชนเป็นเจ้าของ สมาชิกทุกคนมีเสรีภาพทางความคิด ไม่มีเจ้าของมาชี้นิ้วสั่ง
ส่วนถ้าหากไม่เป็นไปตามที่หวังจะออกจากพรรคหรือไม่ ยังไม่ได้ตัดสินใจ ต้องขอประเมินก่อน ไม่ได้เป็นความผิดใคร พรรคเป็นเรื่องของพรรค สมาชิกก็เป็นเรื่องของสมาชิก แต่แนวอุดมการณ์ของตนเป็นเรื่องของตน ถ้าเราไม่เหมาะสมกับองค์กรใด ก็เป็นเรื่องของตัวเองที่ต้องพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่าการสมัครหัวหน้าพรรคครั้งนี้ เป็นการเทหมดหน้าตักหรือไม่ น.ส.วทันยากล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นการเทหมดหน้าตัก แต่มีความฝันในการเมืองแบบนี้ และเห็นว่าสิ่งที่พรรคต้องแพ้พ่ายในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะเราไม่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้ ไม่ใช่เฉพาะปัญหาภายใน แต่เกิดจากการทำหน้าที่ของพรรคและนักการเมืองที่ต้องยึดโยงกับประชาชน ไม่ใช่ทำงานเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
เมื่อถามด้วยว่า ก่อนเลือกตั้งที่จะถึงนี้ อยากฝากบอกไปยังเพื่อนสมาชิกอย่างไร น.ส.วทันยากล่าวว่า หลายคนบอกตนเป็นเลือดใหม่ประชาธิปัตย์ แต่วันนี้ในฐานะคนคนหนึ่งเชื่อวิถีอุดมการณ์ ฉะนั้น การให้โอกาสครั้งนี้ไม่ใช่ให้โอกาสตนได้เลือกตั้งหัวหน้าพรรคเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการให้โอกาสพรรคเติบโตเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามถึงความชัดเจนเรื่องคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หากเป็นหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยากล่าวว่า ยังไม่มี และที่ทราบกันอยู่แล้วคือมาด้วยตัวเอง หากวันนี้ต้องการฟื้นฟูต้องเลิกที่จะเลือกจากความสัมพันธ์ และจากระบบอุปถัมภ์ ต้องก้าวข้าม เลือกคนที่คุณสมบัติและความสามารถ หากเลือกเพราะความสัมพันธ์และระบบอุปถัมภ์จะนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งของคนในพรรค ท้ายที่สุดประชาชนและพรรคจะต้องสูญเสียบุคลากรที่มีความสามารถออกไป