เศรษฐาเยือน 3 ประเทศ คิวแน่น ถกนายกฯ กัมพูชา-มาเลเซีย ปมฝุ่น PM 2.5 พื้นที่ทับซ้อน และชายแดนใต้ ถกบริษัทออสเตรเลียด้านพลังงานสะอาด แลกเปลี่ยนการศึกษา บุกเยอรมนี-ฝรั่งเศส ดึงค่ายรถยักษ์ยุโรปลงทุน ดึง F1 จัดในไทย พร้อมเจรจาวีซ่าเชงเก้น
วันที่ 4 มีนาคม 2567 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม และเดินทางเยือนเยอรมนีและประเทศฝรั่งเศส ว่าการเดินทางไปร่วมประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย ณ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย มีประเทศอาเซียนเข้าร่วมหลายประเทศ
- มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล เปิดชื่อผู้ถือหุ้น-ผลประกอบการ
- เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนพฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน เช็กที่นี่
- 10 พฤษภาคม 2567 ขึ้นทางด่วนฟรี 60 ด่าน
โดยจะนัดหารือหลายเรื่อง และหารือทวิภาคีกับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยประเด็นที่จะพูดคุยกับนายกฯ กัมพูชา เป็นเรื่องที่พูดคุยค้างกันอยู่ ทั้งการอำนวยความสะดวกการเดินทางไป-มาของทั้งสองประเทศ เรื่องฝุ่น PM 2.5 เรื่องพื้นที่ทับซ้อน ส่วนการพูดคุยกับนายกฯ มาเลเซียจะพูดคุยเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดพื้นที่ชายแดนให้ค้าขายสะดวกมากขึ้น
สำหรับออสเตรเลียถือเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของไทย จะพูดคุยอำนวยความสะดวกคนไทยในออสเตรเลีย เรื่องแลกเปลี่ยนการศึกษาและเกษตร จากนั้นในวันที่ 6 มีนาคม จะเดินทางต่อไปที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เพื่อกล่าวสุนทรพจน์ในงาน International Tourism Berlin (ITB) ที่เป็นงานด้านการท่องเที่ยวเบอร์ลิน
และช่วงบ่ายวันเดียวกันจะเดินทางต่อไปที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พบปะกับโฟล์ค สวาเกน Volkswagen และจะพูดคุยนำฟอร์มูล่าวันมาจัดการแข่งขันในประเทศไทย รวมไปถึงเชิญชวนให้มาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย และจะได้พบปะพูดคุยกับนายเอ็มมานูเอ็ล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส พร้อมร่วมงานเทศกาล MIPIM ที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอุตสาหกรรมการบริหารจัดการผังเมืองและโครงสร้างขนาดใหญ่
ก่อนจะเดินทางกลับไปที่เยอรมนีอีกครั้ง โดยจะถือเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ และจะมีการพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ก่อนเดินทางกลับถึงไทยในวันที่ 14 มีนาคม และช่วงเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน จะพบหารือกับนางจีนา เรมอนโด รมว.พาณิชย์สหรัฐอเมริกา
“การเดินทางไปครั้งนี้จะมีการหารือเรื่องวีซ่าแชงเก้น, การเจรจาข้อตกลงเอฟทีเอให้บรรลุผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม และได้เตรียมผลิตภัณฑ์สินค้าของไทยไปแสดงในต่างประเทศ ส่วนจะเป็นสินค้าอะไรยังไม่เปิดเผย ขอให้ติดตามต่อไป โดยเรื่องการค้าขายถือเป็นเรื่องสำคัญ“ นายกรัฐมนตรีกล่าว