ไทย-จีน ลงนามต่อยอดโครงการ ภาษาจีนสำหรับข้าราชการ

‘พินิจ’ ผนึกความร่วมมือไทย-จีน เซ็นต่อยอดโครงการ ‘ภาษาจีนสำหรับข้าราชการ’ สะท้อนผลสำเร็จ-เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

วันที่ 26 มีนาคม 2567 มติชนรายงานพิธีลงนามต่อบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ และสถาบันภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง ที่ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ถ.หลานหลวง กทม.

เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้บริหารสถาบันพระปกเกล้า สภาวัฒนธรรมไทย-จีนฯ และสถาบันภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง อาทิ นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า, นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนฯ และ Mr. Wang Zhimin อธิการสถาบันภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง ได้ให้การต้อนรับแขกที่มาร่วมพิธีอย่างอบอุ่น พร้อมกับสนทนา แลกเปลี่ยนความเห็นกันระหว่างหน่วยงาน

ไทย-จีน ลงนามต่อยอดโครงการ ภาษาจีนสำหรับข้าราชการ

ในตอนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นายวิทวัส เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า ขอกราบขอบพระคุณท่านพินิจ จารุสมบัติ อีกครั้ง ที่กรุณาเชื่อมโยง สถาบันพระปกเกล้า กับ สถาบันภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง

“โครงการนี้เปิดโอกาสให้ข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจในประเทศไทย ได้ไปเรียนภาษาจีนที่ปักกิ่ง ซึ่งโครงการที่ดีมาก เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ในเรื่องภาษาและวัฒนธรรมไทยจีน” นายวิทวัสกล่าว

ขณะที่ Mr. Wang Zhimin สถาบันภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง กล่าวว่า สถาบันของเราได้มีโอกาสได้ร่วมโครงการกับสภาวัฒนธรรมไทย-จีน ส่งเสริมความสัมพันธ์ และสภาบันพระปกเกล้า

“เรากำลังต่อยอดโครงการ ที่ดำเนินกันมาตั้งแต่อดีต ตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เราร่วมกันสอนผู้เข้าอบรม 217 คน นักศึกษาที่ไปเรียนเหล่านี้ ไม่ว่าจะไปอยู่ในเหล่าทัพ ตำรวจ เกษตรกรรม ก็สามารถช่วยผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าทั้งสองฝ่าย และ สร้างคุณูประการ โดยเฉพาะไทยที่อยู่โครงการ One Belt One Road (OBOR)

รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ยินว่า ทุกคนที่กลับมาแล้วได้ยกระดับสถานะของตัวเอง และตำแหน่งก็สูงขึ้นด้วย หลังจากเซ็น MOU เพิ่มเติมวันนี้แล้ว เราจะต่อยอดความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากกว่าเดิม หวังว่าจะได้มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ ให้ลึกซึ้งมากขึ้น โดยเฉพาะวิชาการ และอีกหลาย ๆ อย่างต่อไป” Mr. Wang กล่าว

นายพินิจ จารุสมบัติ

ด้าน นายพินิจ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนฯ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการเซ็น MOU รอบ 2 เพื่อที่จะต่อยอดโครงการ และขยายความร่วมมือเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทางสถาบันภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง พอใจต่อผลสัมฤทธิ์ที่ออกมามาก

“วันนี้จำนวนโควตาของเราไม่เพียงพอค่อความต้องการของนักศึกษาไทย ที่มีความต้องการมากขึ้น อย่างปีที่ผ่านมาเราเปิดรับ 40 คน ขยายเป็น 43 คน มีคนมาสมัครเกือบ 500 คน เราก็ต้องทยอยคัดเลือกไป

ฉะนั้นโครงการนี้สะท้อนถึงว่า ความร่วมมือระหว่างไทยจีน ทั้งด้านการค้า การลงทุน การแลกเปลี่ยน การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว” นายพินิจกล่าว

นายพินิจกล่าวอีกว่า ครั้งนี้ขยายโครงการไปอีก 5 ปี เราเป็นสะพานเชื่อมให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นผู้คัดเลือกนักศึกษาไปเรียน ซึ่งโครงการนี้ไม่ใช่เพียงการเรียนอย่างเดียว แต่ต้องสร้างความสัมพันธ์และมิตรไมตรี สร้างความดีให้ทางมหาลัยเขาพอใจอย่างมาก

“การเรียนไม่เรียนอยู่ในคลาสเรียนอย่างเดียว แต่เป็นการเรียนนอกสถานที่ กำแพงเมืองจีน เมืองน้ำแข็งฮาร์บิน ม้าซีอาน เซี่ยงไฮ้ ได้ศึกษานอกสถานที่อย่างรอบด้านอีกด้วย ซึ่งนักศึกษาเองก็มีความพอใจมาก” นายพินิจเผย

ไทย-จีน ลงนามต่อยอดโครงการ ภาษาจีนสำหรับข้าราชการ

ต่อมาเวลา 11.20 น. คณะผู้บริหารหน่วยงานความร่วมมือ อาทิ นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า, นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ และ Mr. Wang Zhimin อธิการสถาบันภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งแรก เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 และดำเนินโครงการมาถึงปัจจุบัน ซึ่งมีข้าราชการเข้ารับการอบรมรวมทั้งสิ้นกว่า 217 คน เพื่อพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาจีนกลางให้กับข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ

ไทย-จีน ลงนามต่อยอดโครงการ ภาษาจีนสำหรับข้าราชการ