เจาะภารกิจ เพื่อไทย Academy เปิดสูตรอัพเกรด สส. ชิงฐานเสียงทุกระดับ

เพื่อไทย Academy
คอลัมน์ : Politics policy people forum

แม้ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล คุมอำนาจการบริหารประเทศ มีจำนวนเสียงในสภา 314 เสียง จาก 11 พรรค

แต่สภาพเนื้อในของพรรคเพื่อไทย 141 เสียง ในฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ยังมีช่องโหว่-จุดบอดให้แก้ไข โดยเฉพาะยามที่มี “คู่แข่ง” ที่ชื่อว่า “พรรคก้าวไกล” ที่คอยจับจ้อง เกาะติด ตรวจสอบการทำงานอย่างถึงลูกถึงคน

พรรคเพื่อไทย ที่มี “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นหัวหน้าพรรค จึงตั้งหน่วย “บูรณาการ” ขึ้นในพรรคระหว่าง ทีมวิชาการในพรรค-สส.-รัฐมนตรี ใช้ชื่อว่า PTP Academy หรือ พรรคเพื่อไทย อคาเดมี

จุดเริ่มต้น PTP Academy

เพราะด้วยความที่พรรคเพื่อไทยมี “ช่องว่างระหว่างวัย” ระดับ สส.อาวุโส กับ สส.รุ่นใหม่ จนเกิดสภาพ สส.รุ่นใหม่ประสบปัญหา “มีของแต่นำเสนอ (อภิปราย) ไม่เป็น” กับ สส.รุ่นเก๋า มีประสบการณ์ แต่ไม่ทันเทคโนโลยี

PTP Academy จึงกลายเป็น “แพลตฟอร์มกลาง” ให้ สส.เข้ามา “อัพเกรด” ความรู้ ความสามารถ ติวเข้มกลยุทธ์ มีทีมวิชาการ นักวิชาการนอกพรรค เป็นแบ็กอัพ กำลังเสริมในแต่ละด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา

Advertisment

เช่น “ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์” สส.บัญชีรายชื่อ สนใจด้านการศึกษามีความคิดที่เสนอในห้องประชุมว่าอยากฟื้นสภาเยาวชน รวมถึง “นักจิตวิทยา” ในทุกสถาบันการศึกษา จึงมีทดสอบกับโรงเรียนนำร่อง

หรือ “ณพล เชยคำแหง” สส.หนองบัวลำภู ซึ่งมีความ Active เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด ถูกส่งขึ้นเวที “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10” เมื่อ 4 พฤษภาคม

โดยยก มาตรการป้องกันปัญหายาเสพติด ทั้งในโรงเรียน ชุมชนและท้องถิ่น ด้วยการอบรมนักเรียน 220,000 คน จาก 8,000 กว่าโรงเรียน ผ่านการเรียนการสอนหลักสูตร D.A.R.E. ในภาคการศึกษาที่ผ่านมา และมีการรณรงค์สร้างการมีส่วนร่วมในหมู่เยาวชน 20,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ

ข้อเสนอที่ออกจากการสุมหัวคิดของ PTP Academy อาจจะถูกส่งต่อไปยังรัฐมนตรี ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้ดำเนินการต่อ หรือหากในอนาคต สส.ต้องการข้อมูลซัพพอร์ตใช้ในการอภิปรายในสภาก็สามารถขอความช่วยเหลือจากทีมนี้ได้

Advertisment

หน่วยสร้างอนาคต

“แพทองธาร” กล่าวบนเวที “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10” ฉายภาพ PTP Academy ว่า ภาพของพรรคเพื่อไทยที่ตนมองเห็น จะต้องก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยความเข้มแข็ง แข็งแรง และมีประสิทธิภาพ

ตอนนี้เราต้องเป็นพรรคที่มีนโยบายที่ดี มีศักยภาพที่ดี มี สส.เข้าใจปัญหาของประชาชน มีรัฐมนตรีที่เก่ง มีนโยบายที่ตอบโจทย์ เป็นรัฐบาลที่แข็งแรง เมื่ออนาคตเปลี่ยนไปอย่างไร จะเจอเหตุการณ์อะไรก็ตามในอนาคต เราก็สามารถทำนโยบายให้สำเร็จได้ ตอนนี้เรามีทีมงานใหม่เกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทย คือ PTP Academy จะเป็นหน่วยงานที่สร้างอนาคตให้กับพรรคเพื่อไทยของเรา และจะทำให้ Academy พัฒนาศักยภาพบุคคล เป็นองค์ความรู้ด้านวิชาการของพรรค

“เปิดพื้นที่เชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานข้างนอก เป็นการพัฒนาศักยภาพของคนในพรรค ให้มีปัญญาเป็นอาวุธ มีความรู้ มีทักษะที่ดีในฐานะนักการเมือง ให้ทุกท่านพร้อมสำหรับการต่อสู้ในสนามของการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ จากวันนี้ไปยังอนาคต”

การที่คู่แข่งของเราจะสร้างวาทกรรมต่าง ๆ ทำให้เราดูล้มเหลว ทำงานไม่เป็น สร้างวาทกรรมต่าง ๆ ให้เรารู้สึกว่า เหมือนเราผิดคำสัญญาต่อประชาชน ทำนโยบายไม่ได้ เราต้องพิสูจน์ ใช้เวลา ใช้ผลงาน ใช้หัวใจที่ทุ่มเทของเราพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนเห็น

ปิดจุดอ่อน ระหว่าง GEN

ด้าน “สรวงศ์ เทียนทอง” สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะกระดูกสันหลังของโครงการ เล่าว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเดินหน้าทั้งใน และนอกสภา แต่ด้วยความที่ สส.พรรคเพื่อไทย มีทั้งรุ่นใหม่ รวมถึงทีมวิชาการที่เป็นรุ่นใหม่ และ สส.รุ่นกลาง รุ่นเก่า จึงทำให้เกิด Generation Gab ทั้งที่คนแต่ละรุ่นมีความรู้รอบด้านพอสมควร ดังนั้น พรรคเพื่อไทย จึงต้องการ Blend ทุกอย่างเข้าด้วยกัน จึงจัดตั้งโปรเจ็กต์ PTP Academy รุ่นละ 20 คน เพื่อทำการแลกเปลี่ยนประสบการณ์

“สรวงศ์” ยกตัวอย่างการแลกเปลี่ยนว่า ตัวเขาเป็น สส.สระแก้ว อยู่แถวชายแดน ก็จะมาแลกเปลี่ยนความรู้-ประสบการณ์กับ สส.ในเมือง เสริมความแข็งแกร่งให้กับ สส. ซึ่งแต่ละคนมีประสบการณ์ที่ต่างกัน

อีกทั้งพรรคเพื่อไทยแข็งแกร่งด้าน On Ground งานพื้นที่ แต่งาน On Air หรือ Online ยังมีจุดอ่อน

อย่างการพูดดึงดูดคน นักการเมืองบางคน พูดดึงดูดคนได้ดี แต่เนื้อหาไม่มีอะไร ขณะที่นักการเมืองของพรรคเพื่อไทย “มีของ” แต่บางคนพูดไม่เก่ง จึงต้องมีการติวเข้ม ส่งเสริมเรื่องการอภิปราย

หรือทีมวิชาการของพรรคที่ไม่ได้เป็นนักการเมือง อาจไม่เข้าใจบทบาทของสภา ก็ต้องมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรืออาจจะยกขบวนการลงพื้นที่ร่วมกัน

“ถ้าเห็น สส.มีศักยภาพต้องส่งให้สุดมือ” สรวงศ์กล่าว

ถามว่า คล้าย ๆ กับโปรเจ็กต์ Chang Maker ที่นำคนรุ่นใหม่มาเข้าแคมป์อบรมเตรียมตัวเป็นนักการเมืองก่อนหน้านี้หรือไม่ “สรวงศ์” ตอบว่า คล้าย ๆ กัน แต่ครั้งนี้มีศูนย์ข้อมูลเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการ Digital Transform ของพรรคด้วย

นักเรียนรุ่น 1 อาทิ วิภาณี ภูคำวงศ์ สส.ขอนแก่น จิรัชยา สัพโส สส.สกลนคร ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ สส.นครราชสีมา วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ ณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช สส.บัญชีรายชื่อ ณพล เชยคำแหง สส.หนองบัวลำภู จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ อดีต สส.กทม. วรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี รวมถึง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ที่ประกาศตัวว่า เป็น “นักเรียนรุ่น 1”

ในช่วงที่สภาผู้แทนราษฎรปิดสมัยประชุม นอกจาก สส.ต้องลงพื้นที่ ยังต้องเข้าแคมป์สารพัดเวิร์กช็อป ยกเครื่องความสามารถ ทั้งด้านวิชาการ ลับฝีปากอภิปรายในสภา แม้กระทั่งฝึกตอบคำถามนักข่าว โดยยกโจทย์ที่นักข่าวถามเกี่ยวข้องกับสถานการณ์นั้น ๆ พร้อมแนวคำตอบที่ควรตอบ

พรรคเพื่อไทยปรับตัวขนานใหญ่