นายกฯ พบประชาชน เศรษฐา ตามรอยทักษิณ 23 ปี พูดอะไร

เศรษฐา ทักษิณ

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำลังฟื้นรายการ “นายกฯ พบประชาชน” เพื่อสื่อสารกับประชาชนอีกครั้ง คาด 11 พฤษภาคมนี้ อาจจะเป็นการ “ออนแอร์” ครั้งแรก

แม้ว่ารัฐมนตรีป้ายแดง “จิราพร สินธุไพร” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ที่ได้รับมอบภารกิจ “พีอาร์รัฐบาล” กล่าวเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ว่ายังไม่ทราบรูปแบบ – วัน ว.เวลา น. การออกอากาศ

ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือเรื่องรูปแบบรายการ จึงยังไม่ลงตัวว่าจะออกอากาศวันใด แต่คาดว่าจะเริ่มขึ้นภายในเดือนพฤษภาคมนี้

ส่วนรูปแบบของรายการนั้น จะให้ออกมาเป็นภาพที่แตกต่างจากกรณีที่นายกฯ เคยสัมภาษณ์ทั่วไป ส่วนรายการนี้จะใช้รูปแบบการออกอากาศสดหรือบันทึกเทปนั้น อยู่ระหว่างการพูดคุยว่าจะเป็นรูปแบบใดดี ที่ดูแล้วประชาชนเข้าถึงได้ง่าย และประชาชนติดตามแล้วได้ประโยชน์ ทั้งนี้ เรื่องของรายละเอียดต่าง ๆ หากมีการพูดคุยจนตกผลึกแล้ว จะมีการแจ้งให้สื่อมวลชนทราบต่อไป

รายการพบประชาชนของ 5 นายกฯ

อย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นของรายการที่มีนายกฯ มาพูดกับประชาชน เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อ 23 ปีที่แล้ว ในยุค “ทักษิณ ชินวัตร” เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2544  ทาง สทท.11 และสถานีวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่ว

Advertisment

ประเทศ FM 92.5  ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 08.30 น. ของทุกวันเสาร์

จากนั้น นายกฯ คนต่อมา ก็จัดรายการพบประชาชน ต่างกันแค่รูปแบบ และชื่อเรียก

  • รัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์ มีชื่อรายการว่า เปิดบ้าน พิษณุโลก ออกอากาศครั้งแรก ในวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม 2550 ในเวลา 08.30-09.15 ออกอากาศทาง สทท.11
  • รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช มีชื่อรายการว่า สนทนาประสาสมัคร ออกอากาศครั้งแรก วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551 ตั้งแต่เวลา 30-09.30 น. ทาง สทท.11
  • รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้ชื่อรายการว่า รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เริ่มต้นออกอากาศครั้งแรก 18 มกราคม 2552 โดยออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
  • รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้ชื่อรายการว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ออนแอร์ครั้งแรก วันที่ 1 ต.ค. 2554 โดยออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย M. 92.5
  • รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ชื่อรายการ คืนความสุขให้คนในชาติ ต่อมา เปลี่ยนเป็นชื่อรายการ ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ออกอากาศผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในคืนวันศุกร์ เวลา 20.15 น.

ทักษิณ คุยประชาชนครั้งแรก…เรื่องอะไร

รายการ นายกฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน ครั้งแรกที่ออนแอร์ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 ในวันนั้น “ทักษิณ” เผยเหตุผลที่เลือกจัดในวันนั้นเป็นครั้งแรกว่า

Advertisment

“ผมเลือกวันนี้เป็นวันแรกในการที่มาพบกับพี่น้องประชาชน เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญพิเศษ ถ้าเรานับย้อนหลังไปจากวันนี้เมื่อ 51 ปีที่แล้ววันที่ 28 เมษายน 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเข้าพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสตามราชประเพณีกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นที่ปลาบปลื้มปิติโสมนัสยิ่งแก่พสกนิกรโดยทั่วหน้า ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ถึงขวบดี ผมถือว่าวันนี้เป็นวันที่ชาวไทยทั้งหลายถือเป็นวันมหามงคลยิ่ง”

จากนั้น ได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาต่าง ๆ ของประชาชน อาทิ

1.แก้ปัญหาความยากจนเป็นภารกิจแรก “ทักษิณ” กล่าวตอนหนึ่งว่า “ผมได้เร่งทำงานที่เป็นภารกิจหลักอันแรกคือการแก้ไข ปัญหาความยากจน สิ่งที่ได้ทำกันอยู่คือเรื่องการพักหนี้เกษตรกรที่ทำไปแล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายนเกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชนประมาณ 2,120,000 ครอบครัว ถือเป็นจำนวนมากพอสมควร และเรากำลังดูหลาย ๆ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินเกษตรกร”

“ส่วนเรื่องกองทุนหมู่บ้านมีการออกระเบียบกรรมการหมู่บ้านในระดับรัฐบาลแล้ว จะมีการจัดสัมมนาถึงวิธีปฏิบัติกันในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นจะได้ให้มีการจัดตั้งกรรมการของหมู่บ้านทุกหมู่บ้านเมื่อกรรมการพร้อม เข้าใจว่าคงประมาณเดือนกรกฎาคม จะมีการกระจายเงินสู่ทุกหมู่บ้านเพื่อให้เป็นเงินสำหรับการสร้างอาชีพให้กับพี่น้องที่อยู่ในชนบท เพราะวันนี้สิ่งที่สำคัญคือกำลังซื้อของประชาชนขาด อาชีพการจ้างงานต่าง ๆ มีปัญหาหมด ฉะนั้น การกระจายเงินสู่ประชาชนนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ว่าเงินเหล่านี้เป็นเงินที่หมู่บ้านต่าง ๆ จะจัดการกันเอง ไปบริหารกันเอง เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เป็นการกระจายอำนาจด้วยการจัดการเรื่องการเงินลงไปสู่ชนบท”

2.ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ตอนหนึ่ง “ทักษิณ” กล่าวว่า “เรื่องที่เป็นปัญหาอีกเรื่องคือราคาสินค้าเกษตรตกต่ำราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ซึ่งเราขอแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ เพราะบางฤดูกาลมีผลผลิตมากกว่าความต้องการ ซึ่งการแก้ไขอย่างเป็นระบบจะต้องดูกันหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตลาดในต่างประเทศการแปรรูป ซึ่งขณะนี้ดำเนินการให้เป็นระบบ”

“เราจะเจอปัญหาเฉพาะหน้าบ้างหลายเรื่อง เช่น เรื่องมันสำปะหลัง ข้าว การตรวจสต๊อกข้าวก็ได้ผลดี ทำให้ขณะนี้การประกันการแทรกแซงราคาถึงมือเกษตรกรมากขึ้น เราเป็นห่วงมากคือรัฐบาลมีเงินน้อย ยิ่งเมื่อมีเงินน้อยแล้วไม่ถึง มือประชาชน ยิ่งถือว่าเป็นอันตรายมาก เราพยายามปรับกลไกเหล่านี้เพื่อให้ถึงมือประชาชน”

3.การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทักษิณกล่าวว่า ส่วนปัญหาที่รัฐบาลกำลังทำอยู่อีกเรื่องคือ เรื่องระบบเศรษฐกิจเราได้ทำทั้งการแก้ปัญหาเรื่องการเงินและการสร้างรายได้ให้ประชาชน ท่านคงจำได้ว่าเราได้ตั้งบรรษัทบริหาร สินทรัพย์ไทย หรือ ทีเอเอ็มชี ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน เงินส่วนใหญ่ที่ต้องใช้คือการแก้ปัญหาหนี้เสียในระบบธนาคารที่รัฐได้ไปยึดมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วหลายธนาคาร เราต้องใช้เงิน ตัวนี้ 1.1 ล้านล้านบาทโดยประมาณ

ส่วนหนี้เสียที่อยู่ในระบบธนาคารของเอกชนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งน้อยกว่ามาก เราต้องการให้ระบบหนี้เสียออกจากระบบธนาคารเพื่อไม่ให้เป็นภาระ ธนาคารจะได้กลับมาทำงานได้อีกครั้งหนึ่ง ไม่เช่นนั้นท่านผู้ฝากเงินกลายเป็นผู้ที่ต้องรับดอกเบี้ยต่ำเพื่อไปช่วยต้นทุนของธนาคารในการไปอุ้มผู้ที่มีปัญหาหนี้สินคือพวกหนี้เสียทั้งหลาย ทำให้ระบบการเงินไม่ปกติระบบดอกเบี้ยเงินบาทต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินสหรัฐซึ่งผิดปกติ และมีสภาพคล่องเหลืออยู่ในระบบมากถึง 6 แสนล้านบาท รัฐบาลกำลังหาทางดูดซับสภาพคล่องตัวนี้ออกมาเพื่อเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมไปเชียงใหม่ไปจัดสัมมนาระดมสมองเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งได้ตัดสินใจในปัญหาสำคัญหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการที่ทำให้เชียงใหม่และภูเก็ตเป็นเมืองปลอดภาษี เรามองว่าถ้าใครจะไปฮ่องกงไปแค่เชียงใหม่ก็พอ ไปสิงคโปร์ไปแค่ภูเก็ตก็พอแล้ว ขณะเดียวกันคนต่างประเทศมาถึง แทนที่เขาจะไปช็อปปิ้งที่สิงคโปร์ เขาก็ไปช็อปปิ้งที่ภูเก็ตเพราะมีอะไรดี ๆ มาก

หรือแทนที่เขาจะซื้อของต่างประเทศอย่างเดียว เขาก็สามารถซื้อของไทยได้ ทำให้การท่องเที่ยวของเราจะดีขึ้น เรามีการทำในหลายเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพื่อจะมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของเรา เพราะท่องเที่ยวเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศให้กับประเทศไทยมาโดยตลอด และวันนี้เราคิดว่าต่างประเทศหลายประเทศพยายามที่จะดึงการท่องเที่ยวไปสู่ประเทศของเขา ซึ่งเราเหนือกว่าเขาอยู่แล้วเราต้องรีบทำให้ดีกว่าก่อนที่เราจะสู้เขาไม่ได้

นอกจากนี้ ในรายการ “ทักษิณ” ยังพูดถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด การค้ากับต่างประเทศ

ในช่วงท้าย “ทักษิณ” พูดถึงคดีที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนั้นอย่าง “คดีซุกหุ้น” ว่า ต่อเรื่องเหล่านี้ ผมจะทำหน้าที่ของผมไป เรื่องส่วนตัวที่เกิดขึ้นกับผม ๆ ถือว่าผมมีความมั่นใจในองค์กรตรวจสอบของศาลรัฐธรรมนูญ

“เพราะฉะนั้น ท่านไม่ต้องวิตกในส่วนนี้ ผมจะตั้งหน้า ตั้งตาทำงานด้วยปัญญาและสมาธิ ทุ่มเทแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจแรงเสียดทานใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ผมอยากจะขอร้องพี่น้องทุกคนคือวันนี้ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญเราให้สิทธิประชาชนมาก แต่ทุกคนต้องมีหน้าที่ด้วย เรามีสิทธิ แต่สิ่งที่ตามมาคือมีหน้าที่ หน้าที่ของความเป็นพลเมือง เราต้องช่วยกันว่าเราจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อชาติ”

“ถ้าเราคิดอะไรเราคำนึ่งถึงชาติมาก่อนเราจะได้ทุกคน แต่ถ้าเราคิดว่าเอาเรามาก่อน บางทีเราได้วันนี้แต่เสียวันหน้าเพราะว่าชาติมีปัญหา ฉะนั้นถ้าเราคิด ว่าชาติมาก่อน ผมมั่นใจว่าเราทั้งหมดรวมพลังกัน 62 ล้านคน เราจะนำชาติไปสู่ความมั่งคั่ง อีกครั้งหนึ่ง พี่น้องคนไทยจะได้ฟื้นจากความลำบากวันนี้ รัฐบาลได้เริ่มต้นการแก้ปัญหาโดยแก้ปัญหาความยากจนก่อน เพราะเนื่องจากเป็นปัญหาที่สำคัญในการจะสร้างรากฐานสำคัญของประเทศ”

“ถ้าตราบใดคนที่เป็นเกษตรกรของประเทศยังยากจนอยู่ ประเทศจะมั่นคงได้ยากเราต้องทำพร้อม ๆ กัน ปัญหาความยากจน ปัญหาเกษตรกร ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาภาคธุรกิจภาคการเงิน และปัญหาการบริหารการจัดการ ทิศทางในการดำเนินการของประเทศของการค้ากับต่างประเทศต้องปรับใหม่หมด ก็กราบเรียนพี่น้องประชาชนครับ”