เศรษฐา ยังไม่ปรับ ครม.สิงหาคม เพราะเดือนนี้มีเรื่องเยอะ

นายกฯ ระบุยังไม่ปรับ ครม.ในสิงหาคม ชี้เดือนนี้มีเรื่องเยอะ ยอมรับ รทสช.ส่งหนังสือมาขอปรับแล้ว

วันที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม ครม. โดยปฏิเสธว่าในการหารือระหว่างนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล วานนี้ (12 ส.ค.) ไม่ได้มีการพูดถึงการปรับคณะรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้มีการส่งเรื่องปรับ ครม.ในส่วนพรรคมาให้นายกรัฐมนตรีแล้วหรือยัง นายเศรษฐากล่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติได้ส่งหนังสือมาเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างที่ตนได้บอกไปว่า เดือนนี้มีเรื่องเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่สื่อให้ความสนใจในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ดังนั้น ถ้าจะปรับ ครม.อะไรก่อน ส่วนตัวคิดว่าความเหมาะสมไม่มี

เมื่อถามย้ำว่าไทม์ไลน์ยังเหมือนเดิมคือการปรับ ครม.จะเป็นหลังเดือนสิงหาคมใช่หรือไม่ ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง นายเศรษฐากล่าวว่า “ไม่ครับ เป็นอะไรที่ต้องพูดคุยกันอีกที ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาในอดีต ว่ามีอดีตรัฐมนตรีน้อยใจลาออกไป แล้วจะเข้ามาจะไปอยู่ตรงไหน แล้วจะเกิดปัญหาเดิมอีกหรือเปล่า เราอยู่ด้วยกันก็ต้องพูดคุยกัน”

นายเศรษฐากล่าวต่อว่า ในที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีการพูดถึงการให้กำลังใจตนในกรณีที่ศาลจะวินิจฉัยในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ส่วนได้มีการพูดคุยกับ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้อย่างไรหรือไม่นั้น ตั้งแต่ที่ได้เตรียมข้อมูลและส่งข้อมูลครบแล้ว จากวันนั้นจนกระทั่งวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายวิษณุระบุว่าหากนายกฯถูกวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ก็สามารถที่จะกลับมาเป็นนายกฯได้อีก โดยต้องฟังจากคำวินิจฉัยว่าผิดมาตราใด นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องนี้และตนไม่ทราบเลย ซึ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างที่ตนบอก 2 สัปดาห์ที่แล้วได้ส่งคำแถลงการปิดคดีไปแล้ว ไม่ได้มีการพูดคุยอีกเลย

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยได้มีการเตรียมการอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันที่ 14 ส.ค. นายกฯมีภารกิจอย่างไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า ตนได้มอบให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปรับฟังแทน ซึ่งตอนบ่ายตนมีภารกิจเต็มเอี้ยด

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่ามีภารกิจนอกทำเนียบหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เข้าใจว่าอยู่ในทำเนียบ เมื่อถามว่าจะมีการตั้งวอร์รูมฟังคำวินิจฉัยของศาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีวอร์รูม เพราะมันจบแล้วตั้งแต่ส่งคำแถลงการปิดคดี ซึ่งถือว่าเราได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามว่า วันที่ 14 สิงหาคม นายกฯจะพอมีเวลานั่งติดตามฟังคำวินิจฉัยได้บ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ผมคิดอย่างนี้ ผมมีประชุมอยู่แล้วแต่เป็นการประชุมภายในกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ฉะนั้นถ้ามีผลคำวินิจฉัยเชื่อว่าทีมงานคงเข้ามาบอก ซึ่งผมก็ประชุมไปเรื่อย ๆ แต่คงไม่ใช่เซตการประชุมอย่างเป็นทางการ”

เมื่อถามว่ามีแผนสำรองหรือไม่ถ้าไม่ได้เป็นนายกฯต่อไป นายกฯ กล่าวว่า “อ๋อ ไม่ได้คิดอะไรในเรื่องนี้ ให้มันเกิดขึ้นก่อนและค่อยว่ากันครับ”

ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนนายกฯมีความมั่นใจพอสมควรในสิ่งที่ผ่านมา นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ครับ ผมมีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ เรื่องต่าง ๆ ที่สำนักข่าวหลาย ๆ สำนักเอาไปวิจารณ์ หรือบางข่าวบอกว่าผมหน้าเศร้าบ้างอะไรบ้าง คุณแม่ผมเพิ่งเสียไป ผมก็หน้าเศร้าเป็นธรรมดา หรือบางคนก็บอกแหม! มั่นใจมาก ไปเซตอัพการประชุมวางตารางเพียบถึงสิ้นเดือน ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของนายกฯที่ต้องมีการบริหารราชการแผ่นดิน มีการเตรียมงานความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ผมก็เตรียมไป”

“แต่ถ้าผลออกมาเป็นบวกกับตัวผมเอง ผมก็เดินหน้าที่งานต่อไป แต่ถ้าผลออกมาเป็นลบรักษาการนายกฯก็นำแผนงานที่ตนเซตไว้ไปพิจารณาและปรับปรุงตามความเหมาะสมของท่านเอง อันนี้เป็นเรื่องการทำงานทั่ว ๆ ไปมากกว่า ไม่ได้เป็นความแสดงออกมั่นใจหรือไม่มั่นใจอะไร เราทำดีที่สุด และได้ส่งคำแถลงปิดคดีไปแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม“

เมื่อถามว่า หากนายกฯเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง งานที่เซตไว้ใครจะมาทำก็สามารถเดินต่อได้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ตนเซตอัพงานไม่ใช่ว่าเป็นความประสงค์ของตนเอง แต่เซตอัพงานตามปัญหาของประชาชนที่เกิดขึ้น แน่นอนถ้าเกิดว่าต้องหลุดแล้วมีรักษาการรองนายกฯมาดูท่านก็คงจะพิจารณาดูตามลำดับความสำคัญที่ท่านเห็นว่าเหมาะสม อย่างน้อยหากท่านเข้ามาก็จะได้รับทราบว่าเราได้มีการแพลนอะไรไปแล้วบ้าง เมื่อถามว่าวันนี้นายกฯอยากจะพูดอะไรถึงประชาชนผ่านสื่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี วันนี้ประชุม ครม.ตนได้แจ้งว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง และวันเดียวกันนี้ช่วงบ่ายมีงานเต็ม ก็ทำงานไปเรื่อย ๆ ครับ

เมื่อถามว่ามองกันว่าหากผลคำวินิจฉัยออกมาเป็นลบจะมีผลกระทบต่อจิตวิทยาในการลงทุน ของนักลงทุนที่นายกฯไปเดินสายไว้ที่ต่างประเทศ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้