
ธรรมนัสแย้มศุกร์นี้ชัดพรรคไหนร่วมรัฐบาลบ้าง ไม่ฟันธง พปชร.ยังอยู่ บอกที่นั่งแถลงร่วมกันไม่ชัวร์เสมอไป ลั่นนายกฯ มีอำนาจตั้งใครเป็น รมต.ก็ได้ อ้างอิ่มตัว ไม่ได้นั่งรอบนี้ กร้าวไม่ออกจากพรรค ก็อยู่กันอย่างนี้ ขู่อย่ามาก้าวล่วง พร้อมสวนกลับ ‘อรรถกร’ เผยกรอกประวัติแล้ว
วันที่ 27 สิงหาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงรายชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ที่ดูเหมือนยังไม่มีความชัดเจน ว่าในวันที่มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ตนไม่ได้มีส่วนร่วมในการนำเสนอในที่ประชุม ฉะนั้น ข้อสรุปพรรคพลังประชารัฐที่ได้มีมติตามที่สื่อมวลชนได้รับทราบแล้ว คงไม่เข้าไปมีส่วนร่วมอะไร
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีการเสนอรายชื่อบุคคลในฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส ตรงนี้ไม่มีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าตนไม่เคยเสนอบัญชีใดให้เป็นรัฐมนตรี
เมื่อถามว่ายังคงทำหน้าที่ประสานงานระหว่างพรรคพลังประชารัฐ กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า วันนี้ตนยังทำหน้าที่รักษาการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประสานงานเรื่องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหลัก
เมื่อถามว่า แสดงว่าจะเป็นรัฐมนตรีในส่วนพรรคพลังประชารัฐ จะต้องยึด 4 รายชื่อที่พรรคแถลงออกมาใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าเราต้องดูพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นหลัก แต่ละพรรคต้องเคารพและให้เกียรติพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเป็นอำนาจของนายกฯ ในการจะรับบุคคลใดร่วมคณะรัฐมนตรี
เมื่อถามอีกว่า ในส่วนของ ร.อ.ธรรมนัสได้กรอกประวัติแล้วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนไม่ได้เสนอตัวเอง และเป็นเรื่องของพรรค
เมื่อถามย้ำว่า ที่มีการแจ้งให้กรอกประวัติ ร.อ.ธรรมนัสได้กรอกประวัติหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่ากรอกหรือไม่กรอกเป็นหน้าที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เราไปก้าวล่วงเขาไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ไม่ได้รับการประสานให้กรอกประวัติ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อย่าไปพูดถึงบุคคลภายนอก ถ้าเป็นเรื่องของตน ตนตอบได้ แต่ถ้าเรื่องคนอื่นตนตอบไม่ได้
เมื่อถามว่า ที่มีชื่อนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม และนายอัครา พรหมเผ่า มาเป็นรัฐมนตรี ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ทราบ
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าพรรคแกนนำรัฐบาลจะไม่รับรายชื่อในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อันนี้เราตอบแทนไม่ได้ ตนคิดว่าภายในวันศุกร์ที่ 30 ส.ค.จะรู้ผลแล้วว่าพรรคไหนร่วม ไม่ร่วม เดี๋ยวพรรคเพื่อไทยคงแสดงจุดยืนที่ชัดเจน
เมื่อถามอีกว่า ถ้าเป็นลักษณะของการเสนอชื่อบุคคลภายนอกมาเป็นรัฐมนตรีได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าเป็นอำนาจของนายกฯ ที่จะเอาคนที่มีความรู้ความสามารถที่จะบริหารบ้านเมืองได้มาเป็น
ต่อข้อถามว่า แสดงว่าข้อกฎหมายที่พรรคพลังประชารัฐงัดขึ้นมา ท้ายที่สุดจะเป็นอำนาจสูงสุดของนายกฯ ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ต้องดูว่าพรรคร่วมรัฐบาลเชิญพรรคพลังประชารัฐมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ บางครั้งการแถลงข่าวหรืออะไรก็ตาม เหมือนตอนตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งก็แถลงหลายรอบ ท้ายสุดก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่แถลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่แกนนำรัฐบาลจะเอาแค่นายอรรถกร ศิริลัทยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เพียงคนเดียว และที่เหลือเอาในส่วนของคนนอก ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า คนนอกไม่ทราบ พร้อมกับยิ้มและเล่นมุกว่า “แต่นายอรรถกรก็ไม่ทราบเหมือนกัน” ทำให้นายอรรถกรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มเหมือนกัน
เมื่อถามว่าจะยังคลุมเครือไปแบบนี้อีกนานหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าคงไม่เกินวันที่ 30 ส.ค.ก็คงจบ เหมือนกับที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษานายกฯระบุ
เมื่อถามว่า ตั้งแต่ประกาศอิสรภาพมายังไม่เคยคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าอย่างที่เห็นตนอยู่ จ.พะเยา เชียงราย สุโขทัย และกำลังจะไปพระนครศรีอยุธยา เพื่อดูแลเรื่องน้ำ
เมื่อถามย้ำว่า หากแกนนำรัฐบาลไม่เอาพรรคพลังประชารัฐจะเป็นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนอยู่การเมืองมาจนอิ่มตัวแล้ว ในชีวิตตนโตมาจากอีกอย่างหนึ่ง ไม่ได้โตมาจากสายการเมือง
ต่อข้อถามว่า แสดงว่าจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไปจนกว่าจะออกจากพรรคใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “ก็อยู่ไปอย่างนี้ เราก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผมก็ไม่ก้าวล่วงใคร แต่ถ้าใครก้าวล่วงผม ผมก็สวนกลับ เป็นหลักการ”
เมื่อถามย้ำว่า ง่าย ๆ คือรอวันออกใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “ไม่ครับ ผมอยู่อย่างนี้ ผมมีมารยาท และผมไม่อยู่กับใคร ไม่ก้าวล่วงใคร แต่ถ้าใครมาก้าวล่วงผม ผมสวนกลับ หลักการของผมมีแค่นี้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ระบุว่าอิ่มตัวทางการเมืองแล้ว หมายความว่าจะเปิดโอกาสให้คนใกล้ชิดเข้ามาเป็นรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าอิ่มตัวคือ เบื่อแล้วการเมือง
ขณะที่นายอรรถกรเปิดเผยว่า ได้รับเอกสารกรอกประวัติรัฐมนตรีแล้ว คงโกหกไม่ได้ เดี๋ยวโดนจริยธรรม ส่วนกรณี พล.ต.อ.พัชรวาทไม่ได้กรอกประวัตินั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้คุยกับท่านเลย
ส่วนที่มีข่าวว่านายอัคราและนางนฤมลจะมาในโควตาพรรคเพื่อไทยนั้น ตนไม่ได้อยู่ในที่คุยกัน เดี๋ยวถึงเวลาก็รู้ ตนก็ติดตามข่าวเหมือนกับสื่อมวลชน