
นายกฯ สวมผ้าไหมไทย หารือประธานาธิบดีเปรู กระชับความร่วมมือรอบด้าน ผลักดันการเจรจา FTA ให้เสร็จในปี 2568 ปลี้ม Soft Power หนังไทย เพลงไทย ท็อปฮิตในเปรู
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (วันที่ 14 พ.ย. เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมา ประเทศเปรู ซึ่งช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) หารือทวิภาคีกับนางดินา เอร์ซิเลีย โบลัวร์เต เซการ์รา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเปรู ในห้วงการเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเปรู รู้สึกยินดีที่ได้พบหารือกันเป็นครั้งแรก โดยในการประชุมเอเปคในครั้งนี้ มีผู้นำหญิงเพียงสองคนคือนายกรัฐมนตรีของไทย และประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเปรู ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีต่อความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคของเปรู
นอกจากนี้ ไทยและเปรูยังได้แลกเปลี่ยนค่านิยมซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะการส่งเสริมประชาธิปไตย ทั้งสองให้คำมั่นที่จะเสริมสร้างความร่วมมือที่มีผลประโยชน์ร่วมกันของสองประเทศในทุกมิติ รวมทั้งเตรียมการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและเปรูในปี 2568 ด้วย
โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะผลักดันการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-เปรู ให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 ซึ่งปัจจุบันได้บรรลุความตกลงแล้วถึงร้อยละ 70 และเชื่อว่าเมื่อสามารถจัดทำ FTA ให้สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ยิ่งเพิ่มการค้าการลงทุนจากภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายให้มากขึ้น รวมทั้งยืนยันความพร้อมที่จะร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการท่องเที่ยว สาธารณสุข
และนายกรัฐมนตรีดีใจที่ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในเปรู ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ไทย เพลงไทย กีฬามวยไทย
นายกรัฐมนตรียังกล่าวชี่นชมความสำเร็จของเปรูในการเปิดท่าเรือชางใค (chancay) ซึ่งจะส่งเสริมให้เปรูเป็นประตูการค้าในภูมิภาคละติน ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพี้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งที่สำคัญ และจะทำให้ไทยเป็นประตูการค้าในภูมิภาคอาเซียนสำหรับประเทศต่าง ๆ ในละตินอเมริกาได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เชิญชวนเปรูให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะสาขาที่เปรูมีศักยภาพและสอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย อาทิ ซูเปอร์ฟู้ด และยินดีที่ Soft Power ของไทยเป็นที่นิยมในเปรู ทำให้มีแนวคิดที่จะเพิ่มความร่วมมือด้านแฟชั่น โดยเปรูมีผ้าที่ทำจากขนอัลปาก้า กับผ้าไหมไทย
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายพร้อมส่งเสริมความร่วมมือในกรอบพหุภาคี โดยเฉพาะในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งไทยสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของเปรูได้ ด้านประธานาธิบดีเปรูขอบคุณไทยที่สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปค และยินดีสนับสนุนความร่วมมือระหว่างกันทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีอื่น ๆ เช่น อาเซียน และกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิกด้วย
มีรายงานว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีสวมชุดผ้าไหมไทยสีเขียวจากศูนย์ศิลปาชีพ ซึ่งถือเป็นการเผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็นไทยซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สายตานานาชาติในเวทีการประชุมระดับโลก