เปิดตัวพรรคโอกาสใหม่ เกมใหญ่ชิง “สายอำนาจ”

รัฐบาลนายกฯแพทองธาร ชินวัตร เพิ่งจะครบ 3 เดือน วันที่ 12 ธ.ค.นี้ และมีโปรเจ็กต์เศรษฐกิจที่จะมีผลต่อปากท้อง ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอีกมากในปีใหม่ 2568

ขณะที่การเมืองจะมีสีสันขึ้นอีกมาก ด้วยเหตุการณ์หลาย ๆ เรื่อง รวมถึงการเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในชื่อว่า “พรรคโอกาสใหม่” โดยนำเอาพรรคไทยเป็นหนึ่ง ที่จดทะเบียนไว้เมื่อปี 2565 มาจัดการประชุมใหญ่สามัญ

แล้วเปลี่ยนชื่อพรรค เลือกกรรมการบริหารพรรค จำนวน 16 คน

เป็นการรวมตัวของอดีตข้าราชการใหญ่จากมหาดไทย บางส่วนมาจากกระทรวงทรัพยากรฯ ที่ถือว่า จะเป็นรากฐานสำคัญของพรรคนี้

มีกระแสข่าวบอกว่า พรรคนี้เกิดขึ้นเพื่อเตรียมรองรับ สส. โดยเฉพาะจากพรรครวมไทยสร้างชาติ

สำหรับ “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นพรรคที่แยกจาก “พรรคพลังประชารัฐ” และต้องการสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯ โดยส่งชื่อเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” แต่ผลเลือกตั้งไม่เข้าเป้า

หลังการเลือกตั้ง แม้ยังมีแรงเชียร์ให้รับตำแหน่งอีกครั้ง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ สนับสนุนแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย คือ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ก่อนจะออกจากการเมือง ไปรับหน้าที่องคมนตรี โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมรัฐบาล

สำหรับพรรคโอกาสใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น นอกจากเตรียมรองรับ สส.จากพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว การที่มีอดีตบิ๊กข้าราชการจากมหาดไทยมาร่วมด้วย สะท้อนว่า ต้องการใช้ฐานคะแนนจากสายปกครอง ที่มีพรรคภูมิใจไทยคอนโทรลอยู่

ทำให้เห็นเค้าลางของการช่วงชิงสายอำนาจของพรรคการเมืองด้วยกัน

ไม่ใช่งานง่าย แต่ทีมงานเบื้องหลังของพรรคโอกาสใหม่ แว่วมาว่า ไม่ธรรมดา เรื่องที่ว่ายาก อาจไม่ยากอีกต่อไป ถึงพร้อมทั้งเครือข่ายในภาคราชการและในเชิงของเงินทุน

เป้าหมายสำคัญ คือ บทบาทการเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ซึ่งขณะนี้ ได้มีการจับมือหลวม ๆ ของพรรคที่จะเป็นรัฐบาลผสมหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าแล้ว

พรรคเพื่อไทยจะยังรับหน้าที่ เป็นแกนนำรัฐบาล ร่วมกับพรรคกล้าธรรมของกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าโดยมี พรรคโอกาสใหม่ เข้าเป็นพรรครัฐบาลอีกพรรค และอาจจะมีพรรคประชาธิปัตย์ร่วมด้วย

ส่วนพรรคภูมิใจไทย ดูจะยืนห่างออกไปในแผนทางการเมืองนี้ อีกฝั่ง แน่นอนว่าคงจะเป็นพรรคประชาชน เป็นภาพคร่าว ๆ ของการตระเตรียมทางการเมือง ซึ่งสะท้อนว่า จะมีความดุเดือดในการช่วงชิง

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ ยังต้องรอดูผลการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าการตื่นตัวของประชาชนจะยกระดับไปอีกขั้น พรรครัฐบาลจึงต้องเดินหน้าสร้างผลงานให้เข้าตาประชาชนสถานเดียว เพื่อเป็น “ต้นทุน” ดำเนินการตามแนวทางที่เตรียมไว้ ส่วนฝ่ายค้าน ก็ต้องตั้งการ์ด สเต็ปฟุตเวิร์กให้ดี ระวังไม่ให้พลังของตัวเองแผ่วลงไป

ศึกใหญ่ตั้งเค้ามาแล้ว เตรียมการกันตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่เลยทีเดียว