“มีชัย” ล้างมือในอ่างรัฐธรรมนูญ “ใครฉีก-รื้อ หวังมีประธานาธิบดีเป็นประมุข”

พลันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา นับว่าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แม้วันเลือกตั้ง วัน ว. เวลา น. ยังไม่ชัดเจนจากปากผู้มีอำนาจ มีวันที่กลม ๆ เร็วสุด 24 ก.พ. 2562

แต่ที่ชัดเจนกว่า คือ การปิดฉากภารกิจร่างรัฐธรรมนูญ 2 ปี 11 เดือนของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ผู้ที่วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมฝ่ายกฎหมายรัฐบาลยกย่องว่าเป็นมือกฎหมายระดับพญาครุฑ

“มีชัย” ในวัย 80 ปี ใช้พละกำลังทำคลอดรัฐธรรมนูญ 2560 ควบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญอีก 10 ฉบับ ควบคู่กับทำหน้าที่อยู่ในคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ ทำกฎหมายปฏิรูปสารพัด กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นอีก 6 ฉบับ

Advertisement

บ่ายจดค่ำเขามักใช้ชีวิตอยู่ที่อาคารรัฐสภา และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาย่านท่าพระอาทิตย์ ว่ากันว่า ตลอดเกือบ 3 ปี “มีชัย” ต้องหลบเข้าไปรักษาตัวที่ รพ.มากกว่า 1 ครั้ง

แต่แล้วรัฐธรรมนูญที่ร่างมากับมือกลับถูกพรรคการเมือง นักวิชาการฝ่ายก้าวหน้า วิจารณ์ว่ารัฐธรรมนูญฉบับมีชัยทำให้ประเทศล้าหลัง ถึงขั้นตั้งธงฉีกคนอยากฉีกถือว่าทำสำเร็จ

“มีชัย” ระบายความรู้สึกว่า “แปลว่าเราประสบความสำเร็จพอสมควร เพราะเขายังไม่สามารถบอกได้ว่าที่ไม่ดี ไม่ดีตรงไหน เพียงแต่ตั้งธงฉีก ใช่ไหม…เหมือนกับผมไม่เคยอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เลย แล้วมาบอกว่าฉบับนี้ไม่ได้เรื่อง ถ้าผมเป็นนายทุนผมจะยุบทิ้ง ไม่บอกสักคำว่าคอลัมน์ไหนไม่ดี”

Advertisement

แต่มือกฎหมายระดับพญาครุฑเชื่อว่า ต่อให้ฉีกแล้วไปร่างใหม่ 70 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องลอกจากรัฐธรรมนูญ 2560

“เพราะมันเป็น pattern ของรัฐธรรมนูญ เว้นแต่จะรื้อประเทศไทยเป็นสหพันธรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข แบบนี้เขียนใหม่หมด ตั้งใจแบบนี้หรือเปล่า ถ้าตั้งใจอย่างนั้นก็บอกมาผมจะได้รู้ว่าถูกต้อง ก็ต้องฉีกรัฐธรรมนูญผม ถ้าประชาชนเลือกเขาก็ต้องฉีกรัฐธรรมนูญนี้ทิ้ง ถ้าประชาชนทั้งประเทศเลือกเขา ผมจะไปว่าอะไร ก็ต้องยอม”

“แต่ถ้ายังใช้ระบบนี้ ต้องขึ้นต้นว่าประเทศไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผู้ใดจะแบ่งแยกมิได้ มาตรา 2 ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถามว่าแล้วลอกไหม…ก็ต้องลอก แล้ว 70 เปอร์เซ็นต์เป็น pattern ที่จะต้องเขียน”

Advertisement

“แล้วคนจะแก้ไม่บอกว่าจะแก้อะไร ก็ถือเป็นกรรมและชะตาของประชาชน ลองดู ไม่ใช่รัฐธรรมนูญของผม รัฐธรรมนูญนี้ผ่านประชามติมาแล้ว จะบอกว่าโกงมาก็ไม่ใช่ เพราะตอนนั้นก็ไม่เห็นมีใครจับ”

“มีชัย” คิดว่ากลุ่มที่สร้างวาทกรรม เรียกรัฐธรรมนูญ 2560 ว่าเป็น “มรดก คสช.” ถือว่าดูถูกประชาชน

“คนพูดก็ดูถูกประชาชนพอสมควร เพราะคนที่ลงคะแนนประชามติ ลงโดยไม่รู้เรื่อง แต่ผมคิดว่าประชาชนเติบโตในตอนนี้ จะสังเกตได้จากโซเชียลมีเดีย และเขา judge โดยไม่รอฟังสื่อ สมัยก่อนสื่อเป็นตัวนำ บัดนี้ สื่อตามโซเชียล แม้แต่ข่าวยังเอาจากโซเชียล และเมื่อคนดูสื่อน้อยลง ความคิดเห็นในสื่อก็จะน้อยลง ไม่ได้เชื่อ”

“ดังนั้น การลงมติรัฐธรรมนูญ มันบอกในหลายอย่าง ณ วันนั้นพรรคใหญ่ 2 พรรคที่มีสมาชิกพรรคท่วมท้น เป็นขั้วแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ถึงกับต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่รัฐธรรมนูญก็ผ่านประชามติ ผมคิดว่าโลกมันเปลี่ยน ถ้าใครไม่เปลี่ยนมันถูกกลืนได้ ที่เราคิดว่าเราเคยทำแบบนี้แล้วได้ผล มันอาจจะไม่ได้ผล”

“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทำเพื่อให้คนไทยทันโลกได้” เขาเชื่อสร้างคนมากกว่าการเมืองแต่สิ่งที่ “มีชัย” เชื่อสวนทางกับความเห็นขอบนักรัฐศาสตร์หลายสำนัก นักการเมืองหลายค่าย ที่ตำหนิรัฐธรรมนูญว่าทำให้ประเทศถอยหลังนับสิบ ๆ ปี เขาแย้งว่า

“เป็นความคิดเห็นของเขา แต่ไม่ได้แปลว่าถอยหลัง เอาแค่เรื่องการศึกษาก่อนหน้านี้ไม่มีใครให้ความสนใจ แต่ในรัฐธรรมนูญนี้สร้างหลัก 3 อย่างของการศึกษา สร้างคนให้เป็นคนดี มีวินัย เรียนรู้ได้ตามความถนัด ถามว่า 3 อย่างนี้ถ้าทำได้ สร้างคนได้ไหม ชีวิตคนเปลี่ยนไหม…เปลี่ยน เพราะทุกวันนี้กำลังจะเลิกเรียนตามหลักสูตรที่ตายตัว เพราะคนเอือมระอาในวิชาที่เรียนแล้วไม่สนใจ เขาทำถึงขั้นว่า มีวิชา 500 อยากเรียนอะไรหยิบมา พอจบมาก็เอามาคำนวณว่าแนวโน้มไปทางไหนแล้วให้ปริญญาทางนั้น แปลว่าจะเรียนวิชาที่ชอบ ทำไมเราจะต้องเรียนเพื่อให้เป็นหมอ วิศวะ ทำไมไม่เรียนตามที่เราชอบ”

“ดูภรรยาคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พ่อให้เรียนเป็นทันตแพทย์ เขาเรียนตามพ่อจนจบ แล้วเขากลับมาเรียนวิชาคณิตศาสตร์ แต่จะมีคนโชคดีกี่คนที่เป็นอย่างนี้ วันนี้เขาเป็นอาจารย์คณิตศาสตร์ ถ้าทฤษฎีตามรัฐธรรมนูญใหม่ใช้ตั้งแต่ตอนนั้น เขาก็ไม่ต้องเรียนยาวถึงขนาดนี้ เราไม่ได้มุ่งหวังพัฒนาพรรคการเมือง แต่มุ่งหวังสร้างคน”

สร้างการเมืองให้ฝรั่งลอก

“มีชัย” ตำหนิ “นักวิชาการ” ที่วิจารณ์รัฐธรรมนูญของเขาว่า ยึดติดกับตำรา นิยม “ลอก” จากต่างประเทศ ทำให้ไทยไม่เจริญ

“เวลาเราร่างรัฐธรรมนูญเราลอกจากต่างประเทศไหม เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ผมพ้นจากตำแหน่งประธานวุฒิสภา มีสื่อมาสัมภาษณ์ผมว่า ในอนาคตจะต้องทำอย่างไร ตอนนั้นผมไม่คิดว่าจะต้องมายุ่งเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญอีก ผมจึงตอบไปว่า ถึงเวลาที่คนไทยจะต้องสร้างรัฐธรรมนูญเป็น เทเลอร์เมด มากกว่าที่จะลอกจากต่างประเทศแต่เพียงอย่างเดียว เราโตแล้ว เรียนรู้มามากแล้ว โตพอที่จะรู้ว่าคนไทยเป็นอย่างไร สังคมไทย วัฒนธรรมไทยเป็นอย่างไร เราควรจะออกแบบรัฐธรรมนูญตามสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ แล้วไม่เคยนึกว่าผมจะกลับมาร่างอีก”

“เมื่อกลับมาร่างรัฐธรรมนูญใจผมนึกถึงตอนนั้น ถึงคราวที่เราจะต้องทำ เราไม่ได้สนใจว่าประเทศไหนมันมีแล้วมันเคยทำมาก่อนหรือไม่ เมื่อพบมี เราก็เบาใจ เบาใจสำหรับนักวิชาการที่ไม่สามารถสร้างอะไรได้ด้วยตัวเอง ต้องสร้างตามตำรา หรือสร้างตามที่คนอื่นเขาทำมาก่อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไทยไม่เจริญ”

“อาจารย์คนไทยส่วนใหญ่จะต้องคอยพะวงว่า เมืองนอกทำอย่างไรจะได้ไปเลียนแบบ ทำไมไม่เคยคิดว่าที่เมืองไทยทำอย่างไรเมืองนอกถึงเลียนแบบ กฎหมายว่าด้วยการอำนวยความสะดวก เป็นกฎหมายต้นแบบของประเทศไทยที่ต่างชาติเลียนแบบ ไม่เคยลอกจากที่ไหน องค์กรความร่วมมือ พัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ถึงกับมีหนังสือชมเชยว่าคิดได้อย่างไร ทำไมถึงออกกฎหมายมาได้”

“กฎหมายว่าด้วยเขตเศรษฐกิจพิเศษ เราทำอย่างดี แล้วก็เกิดปัญหา ออกไม่ได้ พม่าช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วเอาไปใช้ ลาวให้เราแปลเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ฝรั่งเศสเอาไปใช้ แต่ไทยไม่ได้ใช้ เพราะยังหาต้นแบบจากยุโรปไม่ได้ ปัญหาของเราจึงมีเยอะ เพราะเราไม่มีความเชื่อใจและมั่นใจในตัวเอง”

ล้างมือร่างรัฐธรรมนูญ

ถาม “มีชัย” ว่า มั่นใจแค่ไหนจะไม่มีชื่อไปพัวพันกับการร่างรัฐธรรมนูญอีก เขาตอบทันที

“ผมร่วมร่างรัฐธรรมนูญตั้งแต่ 2520 หลังจากนั้นผมก็มีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อยอยู่เสมอ มันเหมือนทำงานเกี่ยวกับข่าว ไม่ว่าข่าวอะไร ผ่านมากี่ปี ก็ไปทำมาเรื่อย อาชีพผมฝึกมาเป็นงานร่างกฎหมาย ดังนั้น เวลาจะร่างกฎหมายทีไรก็ต้องไปทำกับเขาทุกทีไป เหมือนเวลามีข่าวที่ไหน นักข่าวก็ไปที่นั่น ไม่ใช่เพราะผมเก่ง แต่มันคือหน้าที่ที่ผมฝึกมา”

“หวังว่าจะไม่มีครั้งต่อไป แต่ทุกครั้งก็หวังอย่างนี้”

ท้ายที่สุดชื่อ “มีชัย” ยังจำเป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้าน ใครมีปัญหาก็ต้องเรียกใช้ เขาตอบปนเสียงหัวเราะว่า

“นึกถึงทุกข์ของผมบ้าง ไม่ใช่ของดีหรอกนะ อะไร ๆ ผมก็เป็นมาแล้ว ถามว่าผมยังอยากเป็นไหม อายุปูนนี้ก็ไม่ได้อยากเป็น”

ปิดฉากภารกิจร่างรัฐธรรมนูญ “มีชัย” นับถอยหลังสู่โหมดเลือกตั้ง