ประธานสภา ในนาม พปชร. “สุชาติ” นอนมา-ภูมิใจไทยขอแจม

แต่เดิมเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร อาจมีมวยคู่เอก 1 คู่ ต่างขั้วต่างข้าง คือ ขั้วพลังประชารัฐกับขั้วเพื่อไทย

ชื่อเต็งจ๋าในพรรคเพื่อไทย คือ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ ผู้อาวุโสสุดในหมู่ ส.ส.เพื่อไทย ถูกวางตัวเป็นประธานสภา โดยมีคู่แข่งจากค่ายพลังประชารัฐ คือ “สุชาติ ตันเจริญ” ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ดีกรีเคยเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

แต่หลังจากผลการประกาศรับรองผล ส.ส.ทั้งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์ ของ กกต. ขั้วเพื่อไทยมีแนวโน้มพลิกไปเป็นฝ่ายค้านมากกว่ารัฐบาล มีแค่ 245 เสียง

ทั้งที่การโหวตประธานสภาจะต้องได้รับการเห็นชอบจากสมาชิกด้วยเสียงเกินครึ่งของสภา คือ 250 เสียงขึ้นไปจึงจะได้ครองบัลลังก์

สถานการณ์ขณะนี้ ขั้วพลังประชารัฐจึงมีชื่อ “สุชาติ” แบบนอนมา ถึงขั้นประกาศพร้อมอาสารับตำแหน่ง

“พร้อมอาสาเข้าปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร หากพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อตนเข้าสู่การลงมติจริง ขณะที่การเตรียมตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่นั้น เชื่อว่าประสบการณ์ทำงานในสภาผู้แทนราษฎรกว่า 9 ปี จะปฏิบัติหน้าที่ได้ ตนได้ศึกษารัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีประเด็นหนักใจ คือ การลงมติและการอภิปรายของสมาชิกที่มีความเป็นอิสระ ปราศจากการครอบงำของบุคคลหรือพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บัญญัติไว้ ดังนั้น การทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมอาจยุ่งเล็กน้อย แต่การปฏิบัติหน้าที่ต้องยึดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมเป็นหลัก”

คู่แข่งจากพรรคเดียวกันที่ตามมาห่าง ๆ อาจได้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 หรืออาจได้เป็นประธานวิปรัฐบาล “วิรัช รัตนเศรษฐ” ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่พาครอบครัวย้ายจากเพื่อไทยมาอยู่พลังประชารัฐ ยังมีลุ้นที่จะได้สองตำแหน่งนี้

ส่วนรองประธานสภา คนที่ 2 อาจจะต้องหั่นโควตาให้กับพรรคร่วมรัฐบาล อาจเป็น “ตัวล่อ” ให้กับคนจากพรรคประชาธิปัตย์ และมิตรการเมืองอย่างภูมิใจไทย

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า เก้าอี้ประธานสภาอาจตกเป็นของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ครั้นเสี่ยหนูมีราคามากกว่าเก้าอี้ประธานสภา แต่ขยับไปสู่ตำแหน่งฝ่ายบริหาร ชั้นระดับรัฐมนตรีว่าการเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 หรือ 3 อาจตกมาอยู่ในมือของภูมิใจไทย เพราะคนข้างกายเสี่ยหนูในพรรคสีน้ำเงินก็มีคนจ้องเก้าอี้นี้อยู่