#เซฟสิริพงศ์ แหกมติพรรค ทำอนุทินสะอึก คนปลุกหนังอินดี้

6 มิ.ย. ภายหลังการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติบุคคลเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผยรายบุคคล แต่ระหว่างการลงมติด้วยการขานชื่อรายบุคคล โดยเรียงลำดับตามอักษร ปรากฏว่า นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ได้ลงมติ  “งดออกเสียง”  ซึ่งขัดกับมติพรรคที่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จนเป็นที่พูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ขณะนี้

โดยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ” ได้ขอโทษผู้ใหญ่ในพรรคและชี้แจงว่า เพราะตนได้รับปากกับประชาชนในพื้นที่ว่าจะเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯเพียงคนเดียว ผิดจากนี้เป็นใครตนก็เลือกไม่ได้ ดังนั้นเมื่อสัญญาแล้วก็ต้องทำตามสัญญา ซึ่งพรรคก็ได้ให้คำแนะนำหลายอย่าง อย่างไรก็ตามทางออกของแต่ละคนนั้นมีแตกต่างกัน สำหรับตนหาทางออกอื่นไม่ได้นอกจากทำตามสัญญาที่พูดเอาไว้ ตนเคารพประชาชนและตัวเอง จึงได้งดออกเสียง ” ผมเคารพประชาชน เคารพตัวเอง “

 

ซึ่งในเวลาต่อมา โลกออนไลน์หลายคนร่วมกันแสดงความคิดเห็นปกป้องนายสิริพงษ์ ที่กล้างดออกเสียงเพื่อยึดมั่นในจุดยืนของตัวเอง จนเกิดมีแฮชแท็ก #savesiripong ขึ้นมาและพุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของประเทศไทยไปอย่างรวดเร็ว

สำหรับนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ หรือเสี่ยโต้ง ส.ส.ศรีสะเกษ 2สมัย พรรคภูมิใจไทย นอกเหนือจากการมีบทบาทเป็นนักการเมืองแล้วนั้น ยังมีอีกหนึ่งบทที่สำคัญคือการเป็น ผู้อำนวยการสร้าง “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” ที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการหนังไทย เป็นเพียงหนังทุนต่ำที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์อย่างมาก ถึงขั้นเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำและชมรมนักวิจารณ์บันเทิง

ซึ่งนายสิริพงษ์ เคยให้สัมภาษณ์กับ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ Live EP26 กับบทบาทของการเป็นผู้อำนวยการสร้างซีรีส์ในเรื่องนี้ เริ่มจากได้รู้จักกับเด็กกลุ่มนี้ที่อยากตามความฝัน ซึ่งเป็นความฝันที่แข็งแรงมาก ด้วยการอยากผลิตหนังสักเรื่่อง ในตอนนั้นตนคิดเพียงอยากให้โอกาสให้เด็กๆ โดยมีข้อแม้ว่าต้องสร้างเรื่องในจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นการโปรโมทจังหวัด โดยการให้ยืมเงินไปทำทุนจำนวน 2ล้านบาท ซึ่งกว่าที่หนังจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ ต้องผ่านบททดสอบที่มากมาย ต้องใช้ทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งเสี่ยโต้งเองยอมรับเลยว่าขณะนั้น แอบหวั่นใจกับการให้ทุน ในครั้งแรกที่หนังเข้าโรงภาพยนต์ไม่กล้ารับชมว่าเป็นอย่างไร อีกทั้งหลังทีหนังได้ฉายออกไป ไม่มีการพูดถึงใดๆ จึงได้สอบถามยังคนสนิทบอกหนังมีคำหยาบคายเยอะ จึงนำปรับและแก้ไข กระทั้งได้รับฉายอีกรอบ จนเกิดปรากฏการ “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” มาถึงปัจจุบัน

หลังจากที่ประสบความสำเร็จ “ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ” ทั้งสองภาคนั้น มีีหลายคนอยากตามรอยสถานที่ในหนัง  ซึ่งว่าประสบความสำเร็จในการโปรโมทจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเป้าหมายแรกของทำหนังเรื่องนี้

จากปรากฏการณ์.”ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ” ป่าล้อมเมืองที่ทำให้เห็นว่า “ทุกสิ่งไม่จำเป็นต้องเริ่มในกรุงเทพ และ มักถูกถามเสมอ ว่าทำอะไรดี ขายอะไรดี  การลงทุนที่น้อยแต่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ยอมเป็นเบอร์1ในต่างจังหวัด ดีกว่ายอมเป็นเบอร์ที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ในกรุงเทพ ”

อยากฝากถึงทุกคน “การทำธุรกิจ สิ่งที่โชคดีคือการประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่โชคร้ายคือการไม่รู้จักความล้มเหลว ในความโชคดีก็มีความโชคร้าย ใครทำธุรกิจแล้วล้มเหลว ก็ถือว่าได้ประสบการณ์ ถ้าสำเร็จแล้ว ยังไม่เคยพลาด ก็ขออย่าได้ประมาท อย่าลืมวันแรกที่ทำ ตามองดาวได้ แต่เท้าต้องติดดิน