เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) หรือ ศบค.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธานมีมติเห็นชอบต่ออายุพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ออกไปอีก 1 เดือน หรือ สิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ตามที่ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอรายงาน ทั้งนี้ มติในที่ประชุม ศบค.จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2563
และให้ขยายเวลาเคอร์ฟิวจาก 23.00-04.00 น. เป็น 24.00-03.00 น.
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
ในการประชุม ศบค. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนเริ่มเข้าวาระการประชุม ว่า “ขณะนี้ทุกคนเริ่มเข้าใจถึงการใช้ชีวิตแบบปกติใหม่ หรือ new normal และรู้จักเสียสละ และที่ช่วยสนับสนุนข้าวของช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานที่ได้รับผลกระทบ นอกเหนือจากระเบียบราชการที่ให้การช่วยเหลือ ซึ่งรัฐบาลกำลังพิจารณาเพิ่มเติมอยู่ ทั้งนี้ขอชื่นชมการปฎิบัติหน้าที่ของทุกคนจนได้รับความชื่นชมจากหลายประเทศ”
ที่ประชุมยังได้พิจารณา รายละเอียดการผ่อนปรนมาตรการ การเปิดพื้นที่-สถานประกอบการต่างๆ เช่น สปา เสริมความงาม และโรงภาพยนตร์ ในเฟส ที่ 3 ว่ามีการเตรียมการตามไทม์ไลน์ ดังนี้
ไทม์ไลน์ผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3
-23-24 พ.ค. เตรียมข้อมูล-25-26 พ.ค.นำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะทำงานกลั่นกรองฯ
-27 พ.ค. นำเสนอต่อการประชุมคณะกรรมการพิจารณาผ่อนคลายฯ
-29 พ.ค. เสนอให้ ศบค. พิจารณาอนุมัติเห็นชอบ พร้อมแนวปฏิบัติ
-30 พ.ค. ประกาศไกด์ไลน์
-1 มิ.ย. เริ่มผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3
