“ประยุทธ์” นัดกุนซือประชุมลับ ปรับ ครม. เฟ้นทีมเศรษฐกิจใหม่

สัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชัดยิ่งกว่าชัด ภายหลังรัฐมนตรี 4 กุมาร แถลงลาออกจากความเป็นนักการเมือง-ตัดขาดจากทุกตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

จังหวะก้าวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เดินหมากหลายชั้น-เหนือเมฆ

ชั้นที่ 1 การเดินสายพบสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่-ทุกขั้วค่าย

ชั้นที่ 2 ยกเลิกการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.) แต่เรียกประชุมคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจ-กุนซือลับ โชว์วิสัยทัศน์แก้เศรษฐกิจ หลังโควิด-19 และ ดูตัว “ว่าที่รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ” แทน

ภายใต้ชื่อ “คณะกรรมการ ที่ปรึกษาด้านแนวทางการช่วยเหลือและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโควิด-19” ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ,นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

พร้อมด้วยนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ,นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

คณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์โควิด-19 จำนวน 16 คน ได้แก่ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธาน กรรมการ ,นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

และนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ,นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย

รวมทั้งนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย, นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย,นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย, นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ, น.ส.โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย

คณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่มีชื่อ “ติดโผ” รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่จะมาแทนทีมเศรษฐกิจ ของนายสมคิด ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย ได้แก่ 1.นายบุญทักษ์ หวังเจริญ 2.นายปิติ ตัณฑเกษม 3.นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร 4.นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ 5.สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์

นอกจากนี้ยังมี “ทีมกุนซือสมองเพชร” ที่แต่งตั้งในช่วงโควิด-19 อยู่นอกวง คือ คณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 13 คน อาทิ ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ประธาน และศาสตราจารย์กิตติคุณเทียนฉาย กีระนันทน์ รองประธาน

กรรมการประกอบด้วย ศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิ มหานนท์, ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย, รองศาสตราจารย์สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์, รองศาสตราจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ พลตรี, นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา, นายบัณฑิต นิจถาวร ,นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล, นายวีระ ธีระภัทรานนท์, นายสมชัย จิตสุชน

แหล่งข่าวระดับสูงในทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า การเดินสายของพล.อ.ประยุทธ์ พบสื่อ 10 สำนัก เพราะต้องการอยากฟังปัญหาด้วยตัวเองจากทุกภาคส่วน เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงาน ไม่เกี่ยวกับการปรับ ครม. รวมการยกเลิกการประชุม ครม.เศรษฐกิจ แต่ประชุมคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีแทน เป็นการเริ่มต้นฟังความเห็นที่หลากหลาย

“ส่วนที่มีชื่อคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรี-ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ นั้น ยังไม่มีความชัดเจน เพราะโจทย์เศรษฐกิจหลังโควิด-19 ยากมาก และยังต้องเจอกับปัญหาเกมการเมืองทั้งในสภา นอกสภาและในพรรคการเมือง”

ทั้งนี้ กุนซือเศรษฐกิจลับทั้งในวง-นอกวง ที่คาดว่าจะอยู่ในทีมครม.เศรษฐกิจประยุทธ์ 2/2 – แทนทีมเศรษฐกิจของสมคิด ได้แก่

1.นายบุญทักษ์ หวังเจริญ 2.นายปิติ ตัณฑเกษม 3.นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร 4.นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ 5.สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ 6.นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย 7.นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ

สำหรับโควตากลาง-นายกรัฐมนตรี หลังจากรัฐมนตรี 4 กุมารลาออกจากการสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจึงจำเป็นต้องโอน-คืนโควตาให้กับ “หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” 7 ตำแหน่ง ดังนี้

1.รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด) 2.รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) 3.รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) 4.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทย (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา)

5.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ (นายดอน ปรมัตถ์วินัย) 6.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พล.อ.ประยุทธ์) และ 7.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล)