14 ตุลา : อดีต กปปส. ประกาศ 4 จุดนัดพบ รอรับเสด็จฯ บนถนนราชดำเนิน

24 ชั่วโมงก่อนการชุมนุมของคณะราษฎร 2563 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิไตย ตามนัดหมายเวลา 14.00 น. อันเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ก่อนที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินทรงตั้งเปรียญธรรม 9 ประโยคและเปรียญธรรม 6 ประโยค แด่พระภิกษุสามเณรที่สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยคและเปรียญธรรม 6 ประโยค ประจำปี 2563 ในเวลา 17.00 น. ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ปรากฏว่า คีย์แมนสำคัญๆ ทางการเมือง ที่เคยเป็นแกนนำ แนวร่วม – แนวรบ กปปส. อยู่ตรงข้ามกับขบวนการม็อบนักศึกษา ส่งสัญญาณเคลื่อนไหว

นัดรอรับเสด็จในวันที่ 14 ตุลาคม 4 จุด กระจายตามถนนราชดำเนิน ตั้งแต่ลานพระบรมรูปทรงม้า ไปจนถึงพระบรมหาราชวัง

จุดที่ 1 “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ แกนนำ กปปส. และในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เปิดเผยว่า ผมและสมาชิกพรรคฯ จะเดินทางไปรอรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่บริเวณลานพลับพลามหาเจษฏาบดินทร์ ในวันพรุ่งนี้ 14 ต.ค. 2563 เวลา 13.30 น. พร้อมเชิญชวนผ่านเฟซบุ๊ก Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)

จุดที่ 2 “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานกลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า…ผมและเพื่อนทีมงานกลุ่มไทยภักดี จะไปร่วมรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จฯทรงตั้งเปรียญธรรมแก่ภิกษุ สามเณร 363 รูป หน้าวัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 นี้ เวลา ก่อน 17.00 น.

จุดที่ 3 อดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” ตอนหนึ่งว่า วันที่ 14 ตุลาคมนี้ ลูกไทยหัวใจรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สวมเสื้อเหลือง หนักกากอนามัย ยาลม ยาดม ยาหม่อง พร้อมขนมขบเคี้ยวเพื่อรองท้อง น้ำดื่ม ผ้าพลาสติกรองนั่ง และร่มกันแดดกันฝน มาร่วมกันน้อมถวายการรับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ลานพระบรมรูปทรงม้ารัชกาลที่ 5 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

จุดที่ 4 พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา” ระบุว่า ถ้าไม่ใช่เพราะพระบารมีของพระเจ้าอยู่หัวฯ…ผมจะเริ่ม ‘ปฏิบัติการเก็บขยะแผ่นดิน’ 14 ต.ค. 2563 เวลา 10.00 น. ณ ลานพระบรมรูปทรงม้าครับ ด้วยสัตย์ปฏิญาณถวายความปลอดภัยและปกป้องพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้าจนชีวิตหาไม่

ต่อมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง ได้โพสต์อีกครั้งว่า “ได้โปรดแชร์ให้ทราบสถานที่นัดพสกนิกรที่จะรอรับเสด็จฯพระเจ้าอยู่หัวฯในวันพรุ่งนี้ 14 ต.ค. 2563 พร้อมกัน ณ ถนนราชดำเนิน บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ …ไม่ใช่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานนะครับ”

ก่อนหน้านี้ วันที่ 10 ตุลาคม 2563 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีบันทึกข้อความถึง ผบช.น., ภ.1-9 เพื่อปฏิบัติภารกิจการรักษาความปลอดภัยและการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ในวันที่ 14 ตุลาคม 2563

ประกอบด้วย 1.ให้หน่วยจัดกำลังควบคุมฝูงชน (คฝ.) พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำกาย สนับสนุน บช.น. จำนวน 95 กองร้อย ใช้ยอดกำลังพลดังต่อไปนี้ ตชด. จำนวน 12 กองร้อย, ภ.1 จำนวน 9 กองร้อย, ภ.2 จำนวน 10 กองร้อย, ภ.3 จำนวน 13 กองร้อย, ภ.4 จำนวน 13 กองร้อย, ภ.5 จำนวน 9 กองร้อย, ภ.6 จำนวน 12 กองร้อย, ภ.7 จำนวน 9 กองร้อย และ ภ.9 จำนวน 8 กองร้อย โดยให้ร้อย คฝ.ที่สนับสนุนดำเนินการดังนี้

1.จัดเตรียมอุปกรณ์อาวุธพิเศษระดับกองร้อย (อัตรา 1 หมวด)

2.จัดเตรียมรถควบคุมผู้ต้องหาขนาดเล็กพร้อมพลขับ กองร้อยละ 1 คัน

3.จัดชุดเจราจรต่อรองกองร้อยละ 3 นาย โดยมีนายตำรวจสัญญาบัตรเป็นผู้ควบคุม

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2563 พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้มีบันทึกข้อความถึง ผบช.น., ภ.1-9 และ ตชด. อ้างถึงหนังสือ บช.น. ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2563 ขอรับการสนับสนุนกองร้อยควบคุมฝูงชน จำนวน 95 กองร้อย จากตำรวจ

เพื่อปฏิบัติภารกิจการรักษาความปลอดภัย และการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมการชุมนุมคณะราษฎร ที่เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุม “เพราะเราทุกคนคือคณะราษฎร และคณะราษฎรยังไม่ตาย” ในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ

เพื่อให้การดูแลการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และสนับสนุนภารกิจของ บช.น. จึงให้หน่วยต่างๆ ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.ให้หน่วยจัดกำลังควบคุมฝูงชน (คฝ.) พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำกาย สนับสนุน บช.น. จำนวน 95 กองร้อย ใช้ยอดกำลังพลดังต่อไปนี้ ตชด.จำนวน 12 กองร้อย ภ.1 จำนวน 9 กองร้อย ภ.2 จำนวน 10 กองร้อย ภ.3 จำนวน 13 กองร้อย ภ.4 จำนวน 13 กองร้อย ภ.5 จำนวน 9 กองร้อย ภ.6 จำนวน 12 กองร้อย ภ.7 จำนวน 9 กองร้อย และภ.9 จำนวน 8 กองร้อย

โดยให้ร้อย คฝ. ที่สนับสนุนดำเนินการดังนี้ 1.จัดเตรียมอุปกรณ์อาวุธพิเศษ ระดับกองร้อย (อัตรา 1 หมวด) 2.จัดเตรียมรถควบคุมผู้ต้องหาขนาดเล็ก พร้อมพลขับ กองร้อยละ 1 คัน 3.จัดชุดเจราจรต่อรองกองร้อยละ 3 นาย โดยมีนายตำรวจสัญญาบัตรเป็นผู้ควบคุม ทั้งนี้ให้กำลัง คฝ. (ผบ.ร้อย) ที่สนับสนุน บช.น. รายงานตัวในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563 โดยให้สอบถามเวลา สถานที่ และประสานการปฏิบัติกับ พ.ต.ต.อนันต์ จันทร์ศรี สว.ฝอ.3 บก.อก.บช.น.

ทว่า ยังไม่ทันถึงกำหนด 14 ตุลาคม 2563 กลุ่มคณะราษฎรอีสาน ก็เริ่มปักหลักชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่วันนี้ (13 ตุลาคม) เรียบร้อยแล้ว