เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2563 ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงว่า การเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ 2 วันที่ผ่านมา เพื่อให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็น ส.ส.นั้น พรรคเพื่อไทยได้อภิปรายและมีข้อเสนอที่มีความชัดเจน มีเหตุผลที่หนักแน่น ซึ่งการที่ ส.ส.รัฐบาลเปิดประเด็นตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ เรามองว่าไม่มีความจำเป็นต้องเข้าร่วมแต่อย่างใด เพราะการตั้งคณะกรรมการชุดนี้เป็นการซื้อเวลา และชัดเจนว่าเหลือแต่การตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่จะหาทางออกได้ มี 4 ข้อ ที่ต้องทำทันทีคือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออก ตราบใดที่ยังไม่ลาออกปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข และอาจเกิดสถานการณ์รุนแรงขึ้นในอนาคตเกินการควบคุม
2.พรรคเรียกร้องให้ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกคุมขังโดยไม่มีเงื่อนไข 3.ทุกฝ่ายต้องแสดงความจริงใจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แก้รัฐธรรมนูญโดยไม่ทำประชามติไปพร้อมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) คือ ยกเลิกอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ และยกเลิกมาตรา 279 ที่ทำให้ประกาศคำสั่งของ คสช.อยู่เหนือกรอบรัฐธรรมนูญ และแก้ไขระบบเลือกตั้งให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อให้เห็นถึงความจริงใจของรัฐบาล ควรมีกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนด้วย
นายประเสริฐ กล่าวว่า การที่นายกฯ กล่าวว่าไม่ลาออก ไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวนั้น เป็นการหวงอำนาจอย่างยิ่ง คิดแต่ตัวเองมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้นตอของปัญหาทั้งหมด ตั้งแต่การเข้าสู่อำนาจไม่ชอบธรรมและใช้กลไกทั้งหมดเพื่อสืบทอดอำนาจ ดังนั้น นายกฯ ลาออก หรือไม่ลาออกขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ แต่การบริหารราชการแผ่นดินมีปัญหาหลายอย่าง มาตรการต่อไปคือการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีข้อมูลที่มีน้ำหนักหลายเรื่อง การลาออกของนายกฯ ยกปัญหาของประเทศออกไป ถ้านั่งอยู่การแก้รัฐธรรมนูญอาจถูกกดดัน แต่หากลาออกจะเป็นอิสระต่อ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลกับ ส.ว.
