เลื่อนประชุมสภา 2 สัปดาห์ ไม่ห้ามประชุมกรรมาธิการ

กองบัญชาการตำรวจนครบาล

รัฐสภามีมติเลื่อนประชุมออกไปสองสัปดาห์ด้วยเหตุโควิด-19 ไฟเขียวการประชุมคณะกรรมาธิการ ไม่กระทบการแก้รัฐธรรมนูญ 

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2563 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร แถลงถึงผลการประชุมหารือกับวิปทั้ง 3 ฝ่ายและตัวแทนพรรคการเมืองตามรายงานของมติชน ในกรณีที่นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร เสนอให้มีการเลื่อนประชุมเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ว่า จากกรณีที่ประธาน กมธ.กิจการสภาเสนอให้มีงดประชุมสภาด้วยเหตุผลของการระบาดของโควิด-19 ประกอบการที่รัฐบาลออกมาตราห้ามประชุมเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อของโรค

ดังนั้น มติของที่ประชุมที่ไม่ถึงกับเป็นเอกฉันท์ เห็นว่าในการประชุมวันที่ 6 ถึงวันที่ 8 งดประชุมออกไปก่อนประมาณสองสัปดาห์ ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ หากสถานการณ์ยังมีปัญหาอยู่ก็จะมีการเชิญตัวแทนตัวแทนของสองฝ่ายเข้ามาคุยกัน และขอความร่วมมือการประชุมรายย่อย เช่น กรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ ยังสามารถทำได้เพียงแค่ให้ควบคุมการประชุมไม่ให้คนนอกหรือที่ปรึกษาใครก็ตามเข้ามาโดยไม่ชอบ

ขณะที่ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนพงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (กก.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคก้าวไกลรู้สึกผิดหวังที่ที่ประชุมมีความเห็นให้งดการประชุมออกไป 2 สัปดาห์ ซึ่งตนเห็นว่าการประชุมยังสามารถทำได้หากมีการวางมาตรการป้องกัน

เช่น ขณะนี้มี ส.ส. 488 คน เราสามารถเรียกประชุมโดยให้แต่ละพรรคการเมืองส่งตัวแทนมาร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยใช้จำนวน ส.ส.เพียง 245 คน ก็เพียงพอ พร้อมกับวางมาตรการเว้นระยะห่างในห้องประชุม เพื่อที่การประชุมจะได้ดำเนินการต่อไปได้ และให้มีการแก้ไข ข้อบังคับให้มีการประชุมแบบออนไลน์ได้ ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อการพิจารณากฎหมายหลายฉบับ เพราะสภาไม่สามารถพิจารณาได้

“การเลื่อนประชุมออกไป 2 สัปดาห์ หากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่ลดลงก็อาจจะต้องเลื่อนไปอีกทำให้การผ่านกฎหมายหลายฉบับเกิดความล่าช้า เช่น การพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม ตรงนี้จะได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะข้อบังคับกำหนดไว้ว่าไม่สามารถใช้การประชุมออนไลน์ได้ นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นจากการที่สภาไม่ปรับตัวทั้งที่ต่างประเทศไปไกลกว่านี้แล้ว ในที่ประชุมมีการพูดถึงเหตุผลว่าสภาต้องเป็นตัวอย่างที่ดี แต่ตนเห็นว่าเราควรเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเทคโนโลยีมาใช้ และในส่วนการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญคณะต่างๆ ตนเห็นว่าสามารถประชุมต่อไปได้หากมีการวางหลักเกณฑ์ให้ดีหรือจะประชุมผ่านทางออนไลน์ก็ได้โดยรอหลักเกณฑ์ที่กำลังจะออกมา” นายพิจารณ์กล่าว