
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือร้องต่อ อธิบดีกรมสรรพากร ให้ตรวจสอบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กรณีนำเงินค่าน้ำ-ค่าไฟ บ้านพักในค่ายทหารมาคำนวณเป็นเงินได้
วันที่ 9 มีนาคม 2564 มติชนรายงานว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางยื่นหนังสือถึง ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เพื่อขอให้ตรวจสอบแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2557 จนถึงปัจจุบันของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 1 ธ.ค. 2566
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
- วิธีเช็กเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท chongkho.inbaac.com
นางอมรัตน์ขอให้มีการตรวจสอบว่า พลเอกประยุทธ์ ได้นำจํานวนเงินที่กองทัพบกได้ชําระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา มารวมคํานวณเป็นเงินได้ของพลเอกประยุทธ์ หรือไม่ หากสรรพากรพบว่ามีการ กระทําผิดก็ขอให้พิจารณาดําเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยเร็ว
นอกจากนี้ ในเอกสารที่ยื่นต่อ อธิบดีกรมสรรพากร ตอนหนึ่งระบุว่า จากคําชี้แจงทั้งหมด มีการยืนยันความจริงสอดคล้องกันว่า พลเอกประยุทธ์ ได้อาศัยอยู่ในบ้านพักรับรองของกองทัพบก เลขที่ 253/54 กรมทหารราบที่ 1 ในความครอบครองดูแล และใช้ประโยชน์ในราชการของกองทัพบก นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ครั้งที่ดํารงตําแหน่งผู้บัญชาการทหารบก
ต่อมาเมื่อเกษียณอายุราชการในตําแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557 ยังคงพักอาศัยในบ้านพักรับรองของกองทัพบก ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยกองทัพบกสนับสนุนค่าไฟฟ้าและ ค่าน้ำประปาใช้งาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในบ้านพักรับรอง รายละเอียดตามคําวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญที่ 29/2563 ประกอบกับตามคําชี้แจงของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
นายวิษณุ เครืองาม ได้อ้างถึงกฎกระทรวงฉบับที่ 126 (พุทธศักราช 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรเป็นเหตุให้พลเอกประยุทธ์ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องนําเงินค่า เช่าบ้านหรือเงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่ให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า มาคํานวณเป็นเงินได้ นั้น
นางอมรัตน์ กล่าวว่า การที่กองทัพบกสนับสนุนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาในบ้านพักรับรองของกองทัพบกแทน พลเอกประยุทธ์ ย่อมเป็นกรณีที่พลเอกประยุทธ์ ได้รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคิดคํานวณราคาเป็นเงินได้ ซึ่งสามารถคิดคํานวณได้แยกต่างหากจากมูลค่าของการได้อยู่บ้านพักรับรองของกองทัพบก เนื่องจากจัดเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร
ทั้งนี้เทียบตามนัยคําพิพากษาฎีกาที่ 21/2536 รายละเอียด ตามที่อ้างถึง (3) เคยได้วินิจฉัยไว้ตอนหนึ่งว่า
“…ประมวลรัษฎากร มาตรา 40(1) ได้กําหนดชนิดของเงินที่คํานวณได้จาก มูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า และประโยชน์ใด ๆ บรรดาที่ได้ เนื่องจากการจ้างแรงงานแยกออกจากกัน ฉะนั้นในกรณีที่พนักงานโจทก์ได้อยู่บ้านที่โจทก์ให้อยู่ โดยไม่เสียค่าเช่า และโจทก์เป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และค่าแก๊สที่พนักงานโจทก์ได้ใช้ สิ้นเปลืองไปนั้น”
“ประโยชน์ที่พนักงานโจทก์ได้รับจากการใช้กระแสไฟฟ้า น้ำประปา และแก๊ส ที่ โจทก์เป็นผู้จ่ายเงินให้นี้ เป็นประโยชน์ชนิดหนึ่งต่างจากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่โจทก์จัดให้อยู่ โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าถือว่าค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส ค่าน้ำประปาเป็นประโยชน์ที่พนักงานโจทก์ได้ เนื่องจากการจ้างแรงงานแยกจากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่โจทก์ให้อยู่…”
นางอมรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้นเมื่อพิจารณาตามนัยคําพิพากษา ที่ 21/2536 พลเอกประยุทธ์ จึงยังมีหน้าที่ ต้องนําเงินได้จํานวนเท่ากับมูลค่าของค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาที่กองทัพบกเป็นผู้ชําระ ไปรวมคํานวณและ เสียภาษีเงินได้
อีกทั้งพลเอกประยุทธ์ ยังคงมีหน้าที่ต้องยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินซึ่งต้องรวมมูลค่าเงินค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปาที่กองทัพบกเป็นผู้ชําระดังกล่าว เป็นเงินได้ที่พลเอกประยุทธ์ ได้รับในระหว่างปีภาษีที่ล่วงมาแล้วภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากรอีกด้วย
“การฝ่าฝืนไม่แสดงเงินได้พึงประเมินที่ได้รับโดยรวมมูลค่า เท่ากับค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำประปาที่กองทัพบกเป็นผู้ชําระแทน ย่อมส่งผลให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาน้อยกว่าความเป็นจริง อันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการคลัง การจัดเก็บรายได้ของประเทศ ทั้งยังเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร” นางอมรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย