วัคซีนโควิด รัฐผูกขาด-ปิดกั้นเอกชน หรือไม่? รองโฆษกรัฐบาลตอบแล้ว

รัฐบาลตอบกรณีผูกขาดวัคซีน
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล

รองโฆษกรัฐบาล ออกมาตอบชาวเน็ตแล้ว กรณี “วัคซีนเสรี” ยัน ไม่ผูกขาด-ไม่ปิดกั้นเอกชน หลังหมอโอ๊คโพสต์ถามว่า ทำไมยังไม่รีบเปิดกว้างวัคซีนเข้ามาเพิ่มอีก

วันที่ 8 เมษายน 2564 ข่าวสด รายงานว่า น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่ยังมีการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนให้ประชาชนเกิดความสับสนโดยต่อเนื่องว่า รัฐบาลผูกขาดการนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อยู่ที่ผู้ผลิตเพียงไม่กี่บริษัท และยังแสดงข้อความที่ทำให้เข้าใจว่ารัฐบาลปิดกั้นไม่ให้เอกชนนำเข้าวัคซีน

รัฐบาลย้ำอีกครั้งว่ารัฐบาลไม่ได้ผูกขาดการจัดซื้อวัคซีนเพียงบางบริษัท และไม่ได้ปิดกั้นที่เอกชนจะนำเข้าวัคซีนแต่อย่างใด

ประเด็นที่ทุกฝ่ายต้องเข้าใจให้ตรงกันคือ ความต้องการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากทุกประเทศทั่วโลกมีสูงกว่าความสามารถในการผลิตของผู้ผลิตทุกราย ตลาดเป็นของผู้ขายไม่ใช่ผู้ซื้อ และผู้ผลิตทุกรายซึ่งผลิตวัคซีนด้วยมาตรฐานสากล ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เวลานี้ก็ผลิตเพื่อส่งให้ประเทศที่สั่งซื้อไว้แล้วเป็นหลักเท่านั้น

น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า ข้อมูลของของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่รวบรวมจากแหล่งต่าง ๆ พบว่าจนถึงวันที่ 5 เม.ย. 2564 ทุกประเทศทั่วโลกมียอดจองวัคซีนโควิด-19 สูงถึง 9,600 ล้านโดส หลายประเทศมีคำสั่งซื้อสูงกว่าจำนวนประชากร 2-3 เท่าตัว ขณะที่ยอดวัคซีนที่มีการฉีดแล้วอยู่ที่ 658 ล้านโดส แสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตยังต้องผลิตตามยอดคำสั่งซื้อของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ อีกจำนวนมาก

ดังนั้นแม้รัฐบาลจะนำเข้าวัคซีนจากบริษัทคือซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า แต่ก็มีความพยายามจัดหาวัคซีนจากบริษัทอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอกับประชาชนในประเทศ แต่ยังมีข้อจำกัดการผลิตของผู้บริษัทรายอื่นที่ยังไม่เพียงพอตามข้อมูลข้างต้น โดยวัคซีนจากผู้ผลิตทุกรายในเวลานี้เป็นการใช้แบบกรณีฉุกเฉิน หากเกิดอะไรขึ้นจากการใช้วัคซีนกับประชาชนรัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบไม่ใช่บริษัทผู้ผลิต

จึงทำให้ขณะนี้เกือบทุกประเทศทั่วโลก รัฐบาลจะเป็นผู้จัดหาและนำเข้าวัคซีน โดยถือว่าวัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะ ยังไม่มีประเทศใดที่ให้ซื้อวัคซีนโควิด-19 ได้เองแบบเชิงพาณิชย์ และยังมีประเด็นที่รัฐบาลต้องระมัดระวังคือ เมื่อกระจายการสั่งซื้อไปยังเอกชนแล้วอาจจะต้องบริหารจัดการอย่างรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาว่าประชาชนได้รีบวัคซีนปลอม

“ขณะนี้ยังคงมีความพยายามสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเรื่องวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะประเด็นการนำเข้าโดยเอกชน ซึ่งรัฐบาลไม่ขัดข้องที่เอกชนจะนำเข้า แต่ปัญหาอยู่ที่เอกชนก็หาวัคซีนไม่ได้ ขณะเดียวกันผู้ผลิตวัคซีนหลายรายก็ไม่ขายให้รายย่อย เช่น จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน บอกชัดเจนว่าในระยะแรกจะขายให้หน่วยงานของรัฐเท่านั้น ของจีนก็ต้องมีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้สั่ง สถานการณ์วัคซีนทั่วโลกเวลานี้เป็นแบบนี้ แต่แนวทางของรัฐบาลเองชัดเจนว่าหากเอกชนรายใดหาวัคซีนได้องค์การอาหารและยา (อย.) ก็พร้อมออกใบอนุญาตให้อยู่แล้ว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ขึ้นทะเบียนในประเทศไทยแล้ว 3 บริษัท คือ ซิโนแวค แอซตร้าเซนเนกา และ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ส่วนที่อยู่ในขั้นตอนยื่นเอกสารแบบต่อเนื่อง หรือ rolling submission คือวัคซีนของบริษัท บารัต ไบโอเทค เทคโนโลยี ประเทศอินเดีย นำเข้าโดยบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด และยังมีส่วนที่อยู่ในขั้นตอนการหารือกับ อย. เพื่อเตรียมการยื่นคำขอขึ้นทะเบียน คือวัคซีนโมเดอร์นา จากสหรัฐฯ วัคซีนสปุตนิก ไฟว์ จากรัสเซีย และวัคซีน ซิโนฟาร์ม จากจีน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วานนี้ แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เปิดเผยถึงเรื่องการกระจายวัคซีนว่า อินเดีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรหรืออังกฤษ มีการสั่งจองวัคซีน โดยยอดการจองวัคซีนทั่วโลกอยู่ที่ 9,600 ล้านโดส สหรัฐอเมริกามีการจองวัคซีนไปกว่า 197% หมายความว่าประชากรของเขา 100 เขาจองวัคซีนไว้ 2 เท่า เกินจำนวนประชากร อังกฤษหรือสหราชอาณาจักรมียอดการจองวัคซีนไป 339.6% ญี่ปุ่นมีการจองวัคซีนไป 129.4% แคนาดา 335%

“อยากให้ท่านเห็นภาพว่า 10 ประเทศที่มีการจองวัคซีนตามสัดส่วนประชากรมากที่สุดจะเห็นตัวเลขเกิน 100% ทั้งนั้นเลย เช่น สหราชอาณาจักร ครอบคลุมประชากร 339% แคนาดา 335% ฮังการี 267% ออสเตรเลีย 249%”

แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวว่า ความจริงวัคซีนมีการผลิตได้มากก็จริง แต่ประเทศหลายประเทศมีการสั่งจองวัคซีนไปกักตุนก็ว่าได้ หมายถึงว่าประชากรของเขาคิดเป็น100% เขาสั่งจองไว้ก่อนเป็น 3 เท่า เป็นต้น

วันเดียวกัน นายสมิทธิ์ อารยะสกุล หรือ หมอโอ๊ค นายแพทย์ผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Oak Smith Arayaskul ว่า นาทีนี้แล้ว อยากทราบจริง ๆ ว่า ทำไมยังไม่รีบเปิดกว้างวัคซีนเข้ามาเพิ่มอีกครับ ตัวเลขข้อมูลของต่างประเทศก็เห็นพอสมควรแล้ว ขอความเห็นจากพี่ ๆ เพื่อน ๆ ผู้รู้ด้วยนะครับ เผื่อผมเข้าใจอะไรผิดไป เชื่อว่าประชาชนต้องการคำตอบครับ

โดยที่ช่องคอมเมนต์ หมอโอ๊คยังได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า เท่าที่ทราบล่าสุด เหมือนรอบนี้เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ที่การป้องกันด้วย sinovac น่าจะได้น้อย ควรคิดถึงตัวเลือกอื่น ๆ ด้วย หรือไม่ครับ