ให้อำนาจผู้ว่าฯ ประกาศเคอร์ฟิว งดดื่มสุราในร้าน-ปิดผับ บาร์

โควิด-19 ปกใน 1

อนุทิน-รองนายกฯ-รมว.สาธารณสุข ชง ศบค.ชุดใหญ่ ปรับโซนสีแดง-ส้ม ยื่นอำนาจผู้ว่าฯ ประกาศเคอร์ฟิว งดดริงก์ในร้านอาหาร-ภัตตาคาร ปิดสถานบันเทิง ผับ-บาร์ งดปาร์ตี้ในครอบครัว ถึง 30 เม.ย.

เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ว่า จะนำเสนอมติจากคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ

โดยขอปรับสีของพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ สีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำนวน 18 จังหวัด และส้ม หรือ พื้นที่ควบคุมขั้นสูง จำนวน 59 จังหวัด โดยจะต้องทำปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดตามพื้นที่สีที่กำหนดไว้ดังกล่าว

“ยังสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะออกมาตรการออกมา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดยังมีอำนาจประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ได้ ซึ่งที่ผ่านมา นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เคยออกมาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น.”

นายอนุทินกล่าวว่า การให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเคอร์ฟิวเป็นการกระจายอำนาจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากเป็นผู้ทราบถึงความจำเป็นและสถานการณ์ของจังหวัดว่าเป็นอย่างไร


นายอนุทินกล่าวว่า มาตรการที่จะออกมาคำนึงถึงความเดือดร้อนกับประชาชนให้น้อยที่สุด แต่มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดก็เข้มข้นมากขึ้น เช่น การงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ หรือสุรา ในร้านอาหาร ภัตตาคาร และสถานที่สาธารณะ สามารถซื้อกลับบ้านได้ และปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 เพื่อลดการแพร่ระบาดจากรวมกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดที่จะเสนอ ศบค.ไม่ให้เลี้ยงสังสรรค์ของคนในครอบครัวด้วย