“สุดารัตน์” วัย 60 ปี ในวันที่นับ 1 ใหม่กับ “ไทยสร้างไทย”

สุดารัตน์ -ไทยสร้างไทย

1 พฤษภาคม เป็นวันเกิดของนักการเมืองผู้หญิงที่ชื่อ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” หัวหอก – ผู้ก่อตั้ง “พรรคไทยสร้างไทย” ที่อายุครบ 60 ปีเต็ม

เดิมที 1 พฤษภาคม ถูกกาไว้ในปฏิทินว่า “คุณหญิงสุดารัตน์” หรือ “เจ๊หน่อย” เจ้าของฉายา “เจ้าแม่ กทม.” ในสมัยอยู่ในไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย ตั้งใจใช้วันเกิดตนเองเป็นวันเปิดตัว “ไทยสร้างไทย” อย่างเป็นทางการ

แต่บังเอิญสถานการณ์โควิดระลอก 3 ทำให้แผนการดังกล่าวต้องขยับออกไปก่อน มีเพียงการตักบาตรทำบุญในช่วงเช้าที่บ้านในซอยลาดปลาเค้า ในเวลา 07:00 น. จากนั้น 10:00 น. มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์และป้องกันโควิดให้แก่ตัวแทนพื้นที่ต่าง ๆ ร่วมกับคณะผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทย

และ 16:00 น. ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อในชุมชนโรงน้ำแข็งเขตลาดพร้าว ช่วงชีวิตทางการเมืองของ “เจ๊หน่อย” ตลอด 3 ทศวรรษ อาจกล่าวได้ว่า เธอเป็นเพลย์เมกเกอร์ เป็นตัวชูโรงมาโดยตลอด

พรรคแรกที่เธอมีบทบาทสำคัญคือ “พลังธรรม” เป็นนักการเมืองหญิงที่โดดเด่นอยู่กลางม็อบพฤษภาทมิฬ 2535 ต่อสู้กับการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) และทำให้เธอได้เป็น ส.ส.กทม.พรรคพลังธรรม เขต 12 สมัยแรก ในการเลือกตั้ง 22 มีนาคม 2535 ส.ส. กทม. จากนั้นเธอทำให้คนย่านบึงกุ่ม มีนบุรี บางกะปิ รู้จักเธอเป็นอย่างดี

จากจุดเริ่มต้นในพรรคพลังธรรม ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรค จนถึงเลขาธิการพรรค ทำให้ “คุณหญิงสุดารัตน์” ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีทั้ง รมช.คมนาคม รมช.มหาดไทย

และจากพรรคพลังธรรม ทำให้ได้รู้จักกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ “จำลอง ศรีเมือง” หัวหน้าพรรคพลังธรรม ชักชวนให้ผันจากนักธุรกิจมาลงเล่นการเมือง กระทั่ง ในปี 2538 ทักษิณ ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม แทน “จำลอง” ที่ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค

พรรคที่ 2 ในเส้นทางการเมืองของเจ้าแม่ กทม.คือ พรรคไทยรักไทย ที่ “ทักษิณ” เป็นผู้ก่อตั้ง ในปี 2541 ซึ่ง “คุณหญิงสุดารัตน์” เป็น 23 ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ในปี 2543 ได้เป็นรองหัวหน้าพรรค ได้เป็นรัฐมนตรีคุมกระทรวงสำคัญๆ ทั้ง กระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่เลือกตั้งได้สยายปีกคุมสนาม กทม.นับแต่นั้น

ทว่า หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค หลังเหตุรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 “คุณหญิงสุดารัตน์” ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่เชื่อมต่อกับเครือข่ายทหาร ข้าราชการ นักการเมืองเสมอ แม้เป็นช่วงที่เธอหันหน้าเข้าหาพระธรรม ขณะที่ ทักษิณ ก่อตั้งพรรคใหม่ในชื่อ พลังประชาชน ทีมคุณหญิงสุดารัตน์ก็ยังเป็นกำลังหลักในสนามเลือกตั้ง กทม.

และเป็นกำลังหลักในคืนหักดิบ ที่ทีม “ทักษิณ” ยึดพรรคคืนจากอิทธิพลของกลุ่มเพื่อนเนวิน ชองเนวิน ชิดชอบ ในการโหวต “สมัคร สุนทรเวช” กลับมาเป็นนายกฯ รอบสอง แต่ในคืนนั้น ขั้วข้างทักษิณ รวมถึงทีม “คุณหญิงสุดารัตน์” ได้ต่อสายถึงพรรคร่วมรัฐบาลให้บอยคอตการโหวตดังกล่าว แล้วหันมาเลือก “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” เป็นนายกฯ ในที่สุด

แต่แล้วพรรคพลังประชาชนก็ถูกยุบ กระทั่งมาถึงพรรคเพื่อไทย บทบาทของ “เจ้าแม่ กทม.” ไม่เคยจางหาย แม้กระทั่งช่วงที่การเมืองมืดมน หลังการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 “คุณหญิงสุดารัตน์” ยังสานสัมพันธ์กับแวดวงสีเขียว วงการนิติบัญญัติสืบข่าวในที่ลับมาให้ห้องประชุมพรรคเพื่อไทยตัดสินใจเสมอ

ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 คุณหญิงสุดารัตน์ ก็กลับเข้าสู่เบื้องหน้า เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย กำหนดยุทธศาสตร์เลือกตั้งของพรรค และได้เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคหลังเลือกตั้ง โดยมี “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” เป็นหัวหน้าพรรค

แต่ด้วยความขัดแย้งภายในเพื่อไทย การบริหารงานภายในแบ่งออกเป็น 2 ขั้วข้าง ข้างหนึ่งสุดารัตน์ ข้างหนึ่งภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคคนเก่า ยากจนบรรยาย ที่สุดแล้ว “ทักษิณ” ทุบโต๊ะเลือกทีมบริหารพรรคใหม่ แล้วคนที่จากไปจากพรรคทักษิณคือ “คุณหญิงสุดารัตน์”

จึงมาถึงเหตุการณ์ที่ “เจ้าแม่ กทม.” ในวัย 60 ปี สร้างพรรคใหม่ “ไทยสร้างไทย” มีบุคคลจากเพื่อไทยที่ตามไป อาทิ นายโภคิน พลกุล นายพงศกร อรรณนพพร นายวัฒนา เมืองสุข นายประวัฒน์ อุตตะโมช นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น

นอกจากนี้ยังมีทีมงานใหม่ เช่น นายเทพฤทธิ์ สีน้ำเงิน อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยคอร์เนล และ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ นักวางแผนนโยบายจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด นายรณกาจ ชินสำราญ นักธุรกิจ เจ้าของภัตตาคารมากรูโระ น.ส.ตระการตา กมลวิศิษฎ์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บุตรสาวนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ น.ส.เกณิกา ตาปสนันทน์ เจ้าของธุรกิจ Bambinista Salon น.ส.ณิชกมล บัวงาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

งานนี้ “เจ้าแม่ กทม.” ทุ่มสุดตัว ท่ามกลางเสียงจากนักการเมือง และส.ส.ในพรรคเพื่อไทยที่เชื่อกันว่า การตั้งพรรคไทยสร้างไทย โดยมีมือประสาน 2 คน 1 ในนั้นคือ อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และ พล.อ.นพดล อินทปัญญา ส.ว.เพื่อนรักบิ๊กบราเธอร์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

การตั้งพรรคไทยสร้างไทย ถือเป็น พรรคที่ 4 ที่เธอมีส่วนร่วมก่อตั้ง เป็นตัวชูโรงในวัย 60 ปี นับจาก พลังธรรม ไทยรักไทย เพื่อไทย

งานนี้ “เจ๊หน่อย” เอาจริง