ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ ธรรมนัส ไม่ขาดคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นส.ส. หรือ รัฐมนตรี คดีในออสเตรเลีย ไม่ถือเป็นคำพิพากษาของศาลไทย
วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย กรณีที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 51 คน ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส. ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10)
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- มอเตอร์โชว์ 2024 เริ่มแล้ว
- แนวโน้มราคาทองวันนี้ (25 มี.ค. 67) บทวิเคราะห์โดย YLG Bullion
และความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (10) หรือไม่ จากกรณีเคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายอันถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้าซึ่งยาเสพติด
- ย้อนประวัติ ร.อ.ธรรมนัส ก่อนศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตา สถานะ ส.ส.-รมต.
- “ธรรมนัส” สนิมเนื้อในเรือเหล็ก พิษคดีจำคุก ล่มรัฐบาลประยุทธ์ ?
- เปิดคำแปล ‘คำต่อคำ’ ใบปริญญาเอก ‘ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า’
ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ในประเด็นที่ 1 สมาชิกภาพ ส.ส. ของผู้ถูกร้อง (ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า) สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10)
ศาลเห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงในคดีฟังได้ว่า ผู้ถูกร้องเคยต้องคำพิพากษา ของศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย ก่อนสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร แต่ไม่ใช่คำพิพากษาของศาลไทย ผู้ถูกร้องจึงไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 98 (10) สมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกต้องไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10)
ประเด็นที่ 2 ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (10) หรือไม่
เมื่อวินิจฉัยในประเด็นที่ 1 ไว้แล้ว ว่าผู้ถูกร้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10) จึงไม่มีเหตุทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 160 (6) ความเป็นรัฐมนตรีผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4)
อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น สมาชิกภาพของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) และความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (10)
ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า คำพิพากษา ย่อมหมายถึงคำพิพากษาของรัฐนั้น ไม่หมายถึงคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ แม้ข้อเท็จจริงผู้ถูกร้องเคยต้องคำพิพากษาของศาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย ก่อนรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จึงไม่ถือเป็นคำพิพากษาของศาลไทย ไม่ขาดคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นส.ส. หรือ รัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าว เริ่มต้นเมื่อ 27 พฤษภาคม 2563 ส.ส.พรรคก้าวไกล 54 คน และ ส.ส.ฝ่ายค้าน ร่วมลงชื่อขอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า คุณสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัสว่าสิ้นสุดลงหรือไม่ โดยแยกเป็น 2 คำร้อง
คือ 1.สมาชิกภาพของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงหรือไม่ จากกรณีการถือหุ้นในตลาดคลองเตย และ 2.กรณีที่เคยถูกศาลพิพากษาในคดีที่เกี่ยวพันกับยาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่ง 2 กรณีนี้จะนำไปสู่การขัดกันแห่งผลประโยชน์ ซึ่งทำให้ ร.อ.ธรรมนัส ขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี
- “ธรรมนัส” ออก-ไม่ออก ขึ้นกับ “ประยุทธ์-ประวิตร”
- “ธรรมนัส” โต้ ไม่ใช่มาเฟีย อ้าง พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ้นผิด
ต่อมาวันที่ 17 มิถุนายน 2563 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าวว่า ได้รับคำร้องของประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นให้ตรวจสอบดังกล่าวไว้พิจารณา จากนั้นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญออกเอกสารข่าว ยกคำร้องในกรณีที่ ภริยาของ ร.อ.ธรรมนัส ถือหุ้นในบริษัท ตลาดคลองเตย (2551) จํากัด และบริษัทฯ ทําสัญญาเช่าพื้นที่กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย
ไม่มีลักษณะเป็นการเข้าทําสัญญาอันเป็นการผูกขาดตัดตอน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคหนึ่ง (2) และวรรคสาม มูลกรณีไม่ต้องด้วยเหตุ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (7) ที่ผู้ร้องจะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ได้ จึงมีคําสั่งไม่รับคําร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย
ดังนั้น จึงเหลือเพียงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (10) หรือไม่ จากกรณีเคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายอันถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้าซึ่งยาเสพติดเพียงกรณีเดียว