ประยุทธ์ สั่งการฝนหลวง บรรเทาฝุ่นเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟม กิ่งแก้ว

ฝนหลวงเตรียมช่วยโรงงานกิ่งแก้ว
แฟ้มภาพ ปฏิบัติการฝนหลวง

กรมฝนหลวงฯ เผย “ประยุทธ์” สั่งการฝนหลวง บรรเทาฝุ่นเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟม กิ่งแก้ว 

วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้และระเบิดที่ภายใน บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในพื้นที่ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งประกอบไปด้วยโกดังเก็บสารเคมีกว่า 50 ตัน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งอพยพประชาชนในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบโรงงาน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ด้านเพจเฟซบุ๊ก กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์ ได้โพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ว่า จากกรณีเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาฝุ่นควันจากเหตุดังกล่าว โดยในช่วงบ่ายนี้ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากเข้าเงื่อนไขการทำฝน จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือทันที!

ในเวลาต่อมา เพจกรมฝนหลวงฯได้อัพเดต แผนปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ระบุว่า ขึ้นปฏิบัติการจำนวน 8 หน่วย หนึ่งในนั้นคือ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.หัวหิน พื้นที่การเกษตร จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแก่งกระจานและอ่างเก็บน้ำ จ.เพชรบุรี อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุว่า จะมีการขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือจุดเกิดเหตุในจังหวัดสมุทรปราการหรือไม่?

ขณะที่ มติชน รายงานเมื่อช่วง 13.30 น. ว่า นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้เดินทางตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมเผยว่ายังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ต้องใช้เคมีดับเพลิง เพราะการใช้น้ำยิ่งทำให้เพลิงฟุ้งกระจาย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมกำลังเข้าใช้เคมีโฟมเข้าดับไฟที่กำลังปะทุ แต่เนื่องจากสารเคมีโฟมมีไม่เพียงพอ ต้องประสานขอยืมจากภาคเอกชน โดยทางเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เพียงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าในจุดเกิดเหตุเท่านั้น

นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสำรวจทิศทางลม ทั้งในระดับผิวพื้นและระดับเพดานอากาศ พบว่า จากจุดเกิดเหตุลมจะพัดกลุ่มหมอกควันจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก

นายณัฐพลกล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วง คือ ช่วงบ่ายถึงค่ำ บริเวณ กทม.และปริมณฑล อาจมีฝนเพิ่มขึ้น หากฝนลงไปชะล้างกลุ่มควันเหล่านี้ซึ่งเป็นสารพิษ และตกลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบ่อน้ำ อาจส่งผลต่อประชาชนในการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้น้ำช่วงนี้ โดยในช่วง 1-2 วันนี้ ต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ล่าสุด นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ติดตามสถานการณ์การระเบิดภายในโรงงานของ บริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ต่อเนื่อง และได้สั่งการเพิ่มเติมว่า การทำฝนจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ระงับเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่ปนเปื้อนได้ จึงได้สั่งการให้ยกเลิกภารกิจดังกล่าวที่เตรียมการไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวย้อนกลับไปตรวจสอบที่เพจเฟซบุ๊ก กรมฝนหลวงฯพบว่า ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกจากหน้าเพจแล้ว