กรมฝนหลวงฯ เผย “ประยุทธ์” สั่งการฝนหลวง บรรเทาฝุ่นเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟม กิ่งแก้ว
วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้และระเบิดที่ภายใน บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในพื้นที่ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งประกอบไปด้วยโกดังเก็บสารเคมีกว่า 50 ตัน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งอพยพประชาชนในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบโรงงาน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
- เปิดประวัติ 6 รัฐมนตรีใหม่ เศรษฐา 1/1 พิชัย-พิชิต-เผ่าภูมิ-จิราพร-อรรถกร-สุชาติ
- โรงงานย่านกิ่งแก้วระเบิดอีกรอบ เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 ราย
- โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ “หมิงตี้เคมีคอล” ต้นตอโศกนาฏกรรมสมุทรปราการ
- เปิดรายชื่อ 5 บริษัท ร่วมรับประกัน “โรงงานพลาสติกย่านกิ่งแก้วระเบิด”
-
โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้: รู้จัก สไตรีนโมโนเมอร์ สารเคมีอันตรายถึงชีวิต
ด้านเพจเฟซบุ๊ก กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้โพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ว่า จากกรณีเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาฝุ่นควันจากเหตุดังกล่าว โดยในช่วงบ่ายนี้ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากเข้าเงื่อนไขการทำฝน จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือทันที!
ในเวลาต่อมา เพจกรมฝนหลวงฯได้อัพเดต แผนปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ระบุว่า ขึ้นปฏิบัติการจำนวน 8 หน่วย หนึ่งในนั้นคือ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.หัวหิน พื้นที่การเกษตร จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแก่งกระจานและอ่างเก็บน้ำ จ.เพชรบุรี อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุว่า จะมีการขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือจุดเกิดเหตุในจังหวัดสมุทรปราการหรือไม่?
ขณะที่ มติชน รายงานเมื่อช่วง 13.30 น. ว่า นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้เดินทางตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมเผยว่ายังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ต้องใช้เคมีดับเพลิง เพราะการใช้น้ำยิ่งทำให้เพลิงฟุ้งกระจาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมกำลังเข้าใช้เคมีโฟมเข้าดับไฟที่กำลังปะทุ แต่เนื่องจากสารเคมีโฟมมีไม่เพียงพอ ต้องประสานขอยืมจากภาคเอกชน โดยทางเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เพียงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าในจุดเกิดเหตุเท่านั้น
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสำรวจทิศทางลม ทั้งในระดับผิวพื้นและระดับเพดานอากาศ พบว่า จากจุดเกิดเหตุลมจะพัดกลุ่มหมอกควันจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก
นายณัฐพลกล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วง คือ ช่วงบ่ายถึงค่ำ บริเวณ กทม.และปริมณฑล อาจมีฝนเพิ่มขึ้น หากฝนลงไปชะล้างกลุ่มควันเหล่านี้ซึ่งเป็นสารพิษ และตกลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบ่อน้ำ อาจส่งผลต่อประชาชนในการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้น้ำช่วงนี้ โดยในช่วง 1-2 วันนี้ ต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ล่าสุด นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ติดตามสถานการณ์การระเบิดภายในโรงงานของ บริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ต่อเนื่อง และได้สั่งการเพิ่มเติมว่า การทำฝนจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ระงับเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่ปนเปื้อนได้ จึงได้สั่งการให้ยกเลิกภารกิจดังกล่าวที่เตรียมการไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวย้อนกลับไปตรวจสอบที่เพจเฟซบุ๊ก กรมฝนหลวงฯพบว่า ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกจากหน้าเพจแล้ว